“เอกซ์พารา เวนเจอร์ (ประเทศไทย)” ผู้นำด้านการลงทุนนวัตกรรม start-up จากสิงคโปร์

ข่าวเทคโนโลยี Thursday January 2, 2014 15:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ม.ค.--เอกซ์พารา เวนเจอร์ เปิดตัวในไทย หวังระดมทุนกองทุน multi-stage ระดับภูมิภาค 2.5 พันล้านสร้าง Start-Up ไทยสู่สากล “เอกซ์พารา” ชี้ไทยถึงแม้มีปัญหาทางด้านการเมือง แต่ก็ยังสามารถเติบโตในธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง บวกกับมีแรงงานคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงสามารถคิดสรรค์ธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายบริษัทใหม่ในนาม เอกซ์พารา เวนเจอร์ (ประเทศไทย) พร้อมสร้างฐานการเติบโตเพื่อบริษัทหน้าใหม่ โดยมีจุดมุ่งหมายของระดมทุนกองทุน100 ล้าน สิงคโปร์ดอลล่า เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานการลงทุนสู่ความเป็นนานาชาติ เพื่อสอดคล้องกับการเปิดประตูสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืนในเวทีการค้าเสรีอาเซียน ดักลาส อับราฮัม ผู้ก่อตั้งบริษัท Expara (เอกซ์พารา) กล่าวถึงบริษัทว่า เอกซ์พาราเป็นบริษัทจากประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2546 ดำเนินธุรกิจสนับสนุนการเงิน และ การลงทุนให้แก่บริษัทหน้าใหม่(start-up)ที่มีนวัตกรรมทางความคิด ในตลาดด้านสื่อดิจิตอล พร้อมทั้งดำเนินธุรกิจด้านการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน ซึ่งประสบความสำเร็จจนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้ปัจจุบันได้ขยายการดำเนินธุรกิจในระดับเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ควบรวมประเทศที่มีศักยภาพด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่าง ประเทศสิงค์โปร์ มาเลเซีย และ ไทย ภายใต้องค์กรในชื่อ “เอกซ์พารา เวนเจอร์ (ประเทศไทย)” โดยด้านการดำเนินธุรกิจสนับสนุนเงินทุน Expara ดำเนินธุรกิจผ่านทางบริษัทย่อย ซึ่งได้ถูกรับเลือกจากสำนักงานรัฐบาลประเทศสิงคโปร์ให้เป็น 1 ในไม่กี่ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการเพื่อเป้าหมายให้เงินสนับสนุนแก่กิจการบริษัทหน้าใหม่ (Start-Up) ซึ่ง ณ ปัจจุบัน Expara ได้หาเงินลงทุนให้กับ Start-Up รวมกันแล้วกว่า 22 บริษัท สามารถการระดมทุนรวมเป็นมูลค่ากว่า 7 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือ 175ล้านบาท ในขณะเดียวกันธุรกิจด้านให้คำปรึกษาด้านการลงทุนExpara มีส่วนช่วยให้หน่วยงานวิจัยของรัฐบาลประเทศสิงคโปร์ สามารถนำงานวิจัยออกมาทำเป็นธุรกิจสร้างผลตอบแทนได้จริง พร้อมระดมทุนได้มากกว่า 3 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือราว 75 ล้านบาท โดยให้คำปรึกษาครบวงจรตั้งแต่การนำความคิดริเริ่มทางธุรกิจ การบริหารธุรกิจ การทำการตลาด จนต่อยอดสร้างรายได้เป็นตัวเงิน เหตุจุงใจหลักที่ทำให้ Expara เข้ามาเปิดตลาดการลงทุนในประเทศไทย เป็นเพราะแนวโน้ม แรงงานรุ่นใหม่ๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง เห็นได้จากจำนวนมูลค่าเพิ่มของการบริโภคสินค้าประเภทเทคโนโลยีสื่อสาร และ สาระสนเทศของกลุ่มคนเมืองที่เป็นไปในทิศทางบวก ผนวกกับปัจจัยของการพัฒนาในด้านวิทยาการที่เป็นผลพลอยได้จากต่างประเทศ ทำให้เกิดการเติบโตของความคิดสร้างสรรค์จนเกิดความน่าสนใจ รวมทั้งระดับการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมี แนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญในตลาดการลงทุนคือ จำนวนผู้ทำธุรกิจร่วมลงทุน Venture Capitalist หรือ Angel Investor ยังไม่มีตัวเลข หรือจำนวนที่เห็นได้อย่างชัดเจนในประเทศไทย จึงคาดว่าการลงทุนประเภทนี้สำหรับในประเทศไทยยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และเราเชื่อมั่นว่าจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยสามารถผลิตบริษัทหน้าใหม่ Start-Up ที่มีความสามารถและศักยภาพ ออกสู่ตลาดนานาชาติได้อย่างแน่นอน จึงเป็นที่คาดการได้ว่าจะระดมทุนได้ภายในปีแรกอย่างน้อย 90 ล้านดอลล่าร์สิงคโปร์เป็นอย่างน้อย เอกซ์พารา ได้ถูกรับเลือกเป็นผู้จัดงานคอรสศึกษาตลาดไทยในชื่อโครงการ iSTART (ไอ สตารท์) ซึ่งเป็นโครงการที่มีต้นแบบร่วมพัฒนาโดย บริษัทเอกซ์พารา และ รัฐบาลประเทศสิงคโปร์ใช้เพื่อส่งเสริมการเปิดตลาดต่างประเทศของเหล่าบริษัท Start-up โดยประกาศรับสมัครคัดเลือกบริษัทที่มีความสามารถในการทำตลาดต่างประเทศสูง เพื่อพาไปศึกษาตลาดแบบเข้าถึงตัวผู้มีบทบาทสำคัญในแวดวงธุรกิจ Start-Up ซึ่งตลอดโครงการ iSTARTนอกจากจะมีการสรรหานักธุรกิจและนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจากการระดมทุนมาเป็นพี่เลี้ยงวิทยากรให้คำชี้แนะ เทคนิคการนำพาธุรกิจเข้าสู่ตลาดต่างแดนแบบตัวต่อตัว โครงการนี้ยังสนับสนุนการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ เพื่อสร้างเครือข่ายเน็ตเวิร์คทางุรกิจระหว่างคนในวงการ รวมถึงการพาไปเยี่ยมชมพบปะพูดคุยกับ ผู้ประกอบการด้านสื่อสารโทรคมนาคม นอกจากนี้โครงการฯ ยังเน้นด้านการสร้างเครือข่ายแนะนำบอกต่อ ให้ทาง Start-Up ได้นัดหมายประชุมหารือร่วมกับบริษัทคู่ค้าสำคัญต่อๆ ไปอีกด้วย ซึ่งจากเนื้อหาที่เข้มข้นบวกกับประสบการณ์การทำงานกับ Start-Up จึงไม่น่าแปลกใจที่ หากย้อนภาพความสำเร็จของโครงการ iSTART ในต่างประเทศ นั้นมีให้เห็นมากมาย อาทิ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และจีน โดยปีนี้ประเทศไทยได้ถูกคัดเลือกให้เป็น 1 ในไม่กี่ประเทศที่ทางหน่วยงานภาครัฐบาลประเทศสิงคโปร์ประสงค์จะส่งผู้ประกอบธุรกิจกว่า 15 บริษัทเพื่อมาดูงาน ถึงแม้ iSTART@Thailand ยังไม่มีผลสรุปถึงความสำเร็จในแง่ของรายได้ หรือผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจากโครงการดังกล่าวเนื่องจากงานเพิ่งจัดเสร็จไปเมื่อต้นเดือนธ.คที่ผ่านมาแต่ ทางผู้จัดงานมีความมั่นใจมากว่าจะสามารถประสบความสำเร็จน่าพอใจไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ที่จัดมาก่อนหน้า เนื่องจากได้รับการต้อนรับอยากดี ทั้งจากพี่เลี้ยงนักธุรกิจ/นักลงทุนผู้มากประสบการณ์(mentor) ผู้เข้าร่วมโครงการ ก่อให้เกิดการนัดประชุมหารือระหว่างคู่ค้า เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจอย่างเข้มข้นอีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ