กรุงเทพฯ--3 ม.ค.--The Way Communications
CHG หรือ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) ติดโผการประกาศรายชื่อของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่อยู่ใน SET 100 พร้อมเดินหน้าขยายการเติบโต ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10%
ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ประกาศรายชื่อหุ้นที่จะใช้คำนวณดัชนี SET100 ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2557 หนึ่งในนั้นมี บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG ก็ติด 1 ใน SET 100 เป็นที่เรียบร้อย
นพ.กำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการและประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยถึงที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศให้ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG เป็นหนึ่งในบริษัทที่จะใช้คำนวณดัชนี SET100 ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2557 นั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดีและภาคภูมิใจ หลังจากที่บริษัทได้เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ทำการซื้อขายครั้งแรกยังไม่ครบปี ก็มีชื่อติดโผดังกล่าว ทั้งนี้เชื่อว่ามาจากที่บริษัทมีความมุ่งมั่นในการทุ่มเทดำเนินธุรกิจและควบคู่กับการให้ความสำคัญ เป็นบริษัทที่เน้นเรื่องของธรรมมาภิบาลที่จะดูแลทุกภาคฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น พนักงาน พันธมิตรธุรกิจ คู่ค้า รวมถึงลูกค้าที่ใช้บริการของโรงพยาบาลทุกคน
นพ.กำพล กล่าวต่อว่า ในปี 2557 บริษัทตั้งเป้ารายได้ เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน โดยในปีนี้บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากการเข้าถือหุ้นกว่า 90% ในโรงพยาบาลชลเวช และคาดว่าจำนวนผู้ป่วยในกลุ่มประกันสังคมจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 แสนราย จากปัจจุบันที่ 3.2 แสนราย อีกทั้งมีแผนจะเปิด ศูนย์ศัลยกรรมครบวงจร ที่จะทำรายได้เข้ามาเสริม ในส่วนของศูนย์แพทย์เฉพาะทาง หลังจากมีศูนย์โรคหัวใจและโรคเบาหวานไปแล้ว พร้อมทั้งมีแผนเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยอีก 50 เตียง จากในปีนี้ที่มีอยู่ 380 เตียง
สำหรับงบการลงทุนของบริษัทฯ ตั้งเป้าเพื่อในการขยายธุรกิจในปี 2557-2559 ไว้ประมาณ 950 ล้านบาท แบ่งใช้ในการลงทุนเฉลี่ยปีละกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ในการขยายพื้นที่การให้บริการที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ สาขา 9 จำนวน 48 เตียง เปิดภายในปี 2559 และสาขา 3 จำนวน 55 เตียง งบลงทุน 300 ล้านบาท เปิดในปี 2558 รวมทั้งสาขา 11 จำนวน 55 เตียง งบลงทุน 350 ล้านบาท เปิดปี 2557
นพ.กำพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนการลงทุนโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ในจังหวัดปราจีนบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงเดือนมีนาคม 2557 รองรับการให้บริการลูกค้าพื้นที่รอบนิคมอุตสาหกรรม คาดว่าจะขยายการ ให้บริการได้ถึง 100 เตียงใน 2 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันคาดว่า จะใช้เงินลงทุนในการขยายศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง เช่น โรคมะเร็ง หัวใจ หลอดเลือดในสมอง และขยายเตียงในส่วนของโรงพยาบาลชลเวช ซึ่งเงินส่วนใหญ่จะมาจากเงินที่ได้จากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ช่วงที่ผ่านมา และมาจากกระแสเงินสดของบริษัทที่มีอยู่ 44% หรือประมาณ 1.2 พันล้านบาท
"บริษัทยังคงมีการติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต และการเติบโตจะต้องควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจเดิม และแสวงหาพันธมิตร หรือการซื้อกิจการเพิ่มขึ้นหากศึกษาแล้วพบว่าได้ประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว" นพ.กำพลกล่าว