งานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย

ข่าวทั่วไป Monday January 6, 2014 17:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--Vivaldi PR งานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียนำเสนอการประชุมและสัมมนาเชิงปฏิบัติการโดยเชฟและบุคคลสำคัญแห่งธุรกิจอาหารระดับโลก โอกาสครั้งสำคัญในการเรียนรู้เคล็ดลับ และร่วมเสวนากับสุดยอดเชฟชั้นนำระดับโลก อาทิ โจน โรคา แห่ง El Celler de Can Roca, บียอร์น ฟรองเซน แห่ง Restaurant Frantzén, โยชิฮิโร นาริซาวะ แห่ง Narisawa, และ เดวิด ทอมป์สัน แห่ง Nahm ประเทศไทย งานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย (Asia’s 50 Best Restaurants) ในปีนี้ ดำเนินการจัดงานโดย วิลเลียม รี้ด บิสเนส มีเดีย และสนับสนุนโดย เอส เพลเลกรีโน (S. Pellegrino) และ แอคคัว แพนนา (Acqua Panna) ซึ่งภายในงานนี้ บรรดาเชฟระดับโลกได้รวมตัวกัน ณ ประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมพูดคุยถึงประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับแนวโน้มความนิยมของอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต พร้อมทั้งนำเสนอกิจกรรมเวิร์คช็อปที่น่าสนใจมากมายแก่ผู้เข้าร่วมงาน ในช่วงงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย 2014 คณะผู้จัดงานได้กำหนดจัดโปรแกรมการประชุมสัมมนาและเวิร์คช็อปด้านอาหารที่น่าสนใจอีกหลายรายการ ระหว่างวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารและประชาชนทั่วไปได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนแนวคิด พร้อมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นอันเป็นประโยชน์จากเหล่าเชฟระดับหัวกะทิ โดยในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นการจัดประชุมสัมมนาในหัวข้อ “เชิดชูมรดกแห่งรสชาติ สู่ธุรกิจอาหารแห่งอนาคต (The Future of Food: Back to our Roots)” และในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นกิจกรรมเวิร์คช็อปในหัวข้อ “อัตลักษณ์แห่งเมนูเลิศรส (Signature Dishes)” วิทยากรหลักภายในงานคือเหล่าเชฟมือรางวัลจากงาน 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก ซึ่งประกอบด้วย - โจน โรคา จากร้านอาหาร El Celler de Can Roca (อันดับ 1 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก ปี 2013) - โยชิฮิโร นาริซาวะ จากร้านอาหาร Narisawa (อันดับ 1 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย 2013 และอันดับ 20 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก 2013) - บียอร์น ฟรองเซน จากร้านอาหาร Restaurant Frantzén (อันดับ 12 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก ปี 2013) - เบ็น ชิวรี จากร้าน Attica (อันดับ 21 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก 2013) - แอนเดรีย เชียง จากร้าน Restaurant Andre (อันดับ 5 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย 2013 และอันดับ 38 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก 2013) - แมนจิท กิลล์ จากร้าน Dum Pukht (อันดับ 17 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย 2013) - มานิช เมห์โรทรา จากร้าน Indian Accent (อันดับที่ 48 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย 2013) - ลอห์ ลิก เป็ง ผู้ประกอบการธุรกิจการโรงแรมและร้านอาหารระดับโลก บริษัท The Unlisted Collection ภายในงานนี้ เดวิด ทอมป์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย และเชฟแห่งร้านอาหาร Nahm ประเทศไทย (อันดับ 3 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย 2013 และ อันดับ 32 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก 2013) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานและผู้ดูแลการจัดประชุมสัมมนาในหัวข้อ “เชิดชูมรดกแห่งรสชาติ สู่ธุรกิจอาหารแห่งอนาคต (The Future of Food: Back to our Roots)” และการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อป พร้อมร่วมเป็นหนึ่งในวิทยากร และผู้นำปฏิบัติเวิร์คช็อปด้วย การประชุมสัมมนา หัวข้อ “เชิดชูมรดกแห่งรสชาติ สู่ธุรกิจอาหารแห่งอนาคต” จูบิลีฮอลล์ โรงแรมราฟเฟิลส์ สิงคโปร์ วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 10.00 - 18.30 น. การประชุมสัมมนาเชิงวิชาการครั้งนี้คือการร่วมสำรวจแนวโน้มของอุตสาหกรรมอาหารทั้งในปัจจุบันและอนาคต ผ่านการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การฉายภาพยนตร์สั้น และการอภิปราย การประชุมแบ่งออกเป็น 3 ช่วง พร้อมงานค็อกเทลปาร์ตี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้สร้างเครือข่ายทางวิชาชีพและพบปะกับเหล่าวิทยากรอย่างใกล้ชิด การประชุมช่วงเช้า (10.00 – 12.30 น.) เปิดการสัมมนาหัวข้อ “อาหารธรรมชาติ: อนาคตแห่งพืชผัก (Raw : The Rise of the Vegetable)” ซึ่งเป็นการสำรวจถึงความคิดอันยั่งยืนด้านอาหารและความสำคัญของจริยธรรมที่เพิ่มสูงขึ้นในอุตสาหกรรมอาหาร วิทยากรในช่วงนี้ ได้แก่ โยชิฮิโร นาริซาวะ, เบน ชิวลี, และ บียอร์น ฟรองเซน และท่านอื่นๆ การประชุมช่วงสองในภาคบ่าย นำทีมโดย เดวิด ทอมป์สัน, โจน โรคา, แอนเดรีย เชียง, มานิช เมห์โรทรา ร่วมด้วยวิทยากรท่านอื่นๆ จะมาร่วมวิเคราะห์ประเด็นคำถามเกี่ยวกับความถูกต้อง นวัตกรรม พร้อมนำเสนอแนวทางใหม่ๆ ในขอบข่ายเนื้อหาของการสัมมนา ช่วงสุดท้ายเป็นการสัมมนาให้หัวข้อ “การปฏิบัติวิชาชีพ: สู่การเป็นเชฟคนดัง (Keeping it Real: The Rise of the Celebrity Chef)” โดย อัลวิน เหลียง เจ้าของฉายา “Demon Chef” แห่ง Bo Innovation (อันดับ 15 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย 2013) ซึ่งจะมาร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นการมีชื่อเสียงอาจบั่นทอนความใส่ใจในการปรุงอาหาร และร่วมถกปัญหาเรื่องการเป็นเชฟคนดังจะเป็นตัวบั่นทอนความคิดสร้างสรรค์ในการทำอาหารของพ่อครัวมืออาชีพหรือไม่ กิจกรรมเวิร์คช็อปหัวข้อ “อัตลักษณ์แห่งเมนูเลิศรส” แอด-ซันไรส์ โกลบอลเชฟ อะคาเดมี วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 10.00 – 15.30 น. กิจกรรมเวิร์คช็อปจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้แก่ผู้ที่หลงใหลในอาหาร ตลอดจนเหล่านักชิมและพ่อครัว ได้ร่วมเรียนรู้กับเชฟระดับหัวกะทิอย่างใกล้ชิดในหัวข้อ “อัตลักษณ์แห่งเมนูเลิศรส” ณ แอด-ซันไรส์ โกลบอลเชฟ อะคาเดมี สถาบันสอนการทำอาหารชั้นนำในประเทศสิงคโปร์ โดยในกิจกรรมเวิร์คช็อปแต่ละช่วงได้รับเกียรติจากเชฟมือรางวัลมาเป็นผู้ให้คำแนะนำ ตลอดจนเปิดเผยถึงแรงบันดาลใจ เทคนิค รวมถึงเบื้องหลังเมนูรสเลิศที่สะท้อนอัตลักษณ์โดดเด่นของพวกเขา จนสามารถคว้ารางวัลการประกวดในที่สุด ผู้ร่วมงานยังสามารถพบปะพูดคุยและเรียนรู้ถึงเคล็ดลับจากเหล่าสุดยอดเชฟได้อย่างใกล้ชิด พร้อมฝึกหัดปรุงอาหารและลิ้มรสเมนูปรุงสดใหม่ในชั้นเรียน เวิร์คช็อปกลุ่มย่อยจะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ถึง 2 ชั่วโมง 30 นาที รายชื่อเชฟผู้นำปฏิบัติกิจกรรมเวิร์คช็อป ประกอบด้วย - โจน โรคา: เชฟผู้บุกเบิกการปรุงอาหารด้วยวิธีสุญญากาศซึ่งเป็นการทำให้อาหารสุกอย่างช้าๆ ทั่วถึงกัน โดยยังคงรสชาติและความสดของวัตถุดิบไว้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ เขายังเป็นเชฟระดับแนวหน้าผู้สร้างสรรค์รสชาติของอาหารคาตาลานดั้งเดิม ด้วยการผสมผสานเข้ากับเทคนิคการปรุงอันล้ำสมัย โดยร้านอาหาร El Celler de Can Roca ของเขา ได้รับเครื่องหมายดาวมิเชลิน 3 ดวง และยังครองอันดับ 1 จากรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก ปี 2013 - บียอร์น ฟรองเซน: สุดยอดเชฟจากร้านอาหารชั้นเลิศแห่งเมืองสตอกโฮล์ม ซึ่งครองอันดับ 12 จากรายนาม 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก 2013 ซึ่งแรงบันดาลใจอันโดดเด่นในการสร้างสรรค์อาหารแต่ละเมนูของเขา เกิดจากการผสมผสานเทคนิคการปรุงอาหารแบบยุโรปเหนือเข้ากับรสชาติแบบเอเชีย - เอนีโก แอกซ์ตา: พ่อครัวและเจ้าของร้าน Azurmendi ที่โด่งดัง เขาเป็นเชฟหนุ่มชาวสเปนผู้มีอายุน้อยที่สุดที่ได้รับเครื่องหมายดาวมิเชลิน 3 ดวง เขาคือเชฟผู้ยืนหยัดในการนำวัตถุดิบของร้านมาตีความใหม่ในสไตล์บาสก์แบบดั้งเดิม - โยชิฮิโร นาริซาวะ: หลังจากได้รับอับดับหนึ่งจากงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียครั้งแรก พ่อครัวนักสิ่งแวดล้อมผู้หลงใหลในธรรมชาติคนนี้ ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำทางความคิดด้านสิ่งแวดล้อมและการทำครัวมากที่สุดของญี่ปุ่น อาหารของเขาล้วนคัดสรรถุดิบจากแปลงเกษตรขนาดเล็ก ก่อนนำมารังสรรค์เป็นเมนูเลิศรสเลิศ ปัจจุบัน โยชิฮิโรคือหนึ่งในพ่อครัวที่ทรงอิทธิพลทางความคิดสูงสุดคนหนึ่งของโลก - เดวิด ทอมป์สัน: เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทยในระดับหัวกะทิ เขาเป็นพ่อครัวเชื้อสายออสเตรเลียแต่มุ่งมั่นศึกษาตำรับอาหารไทยที่เก่าแก่อายุนับร้อยปี และได้นำมาประยุกต์เป็นเมนูชั้นเลิศของร้านอาหาร Nahm ในกรุงเทพฯ (อันดับ 32 จาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก 2013) กิจกรรมเวิร์คช็อปของเขาจะมุ่งเน้นที่เบื้องหลังสูตรเด็ดที่สืบทอดกันมาช้านานและสไตล์การปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ - เบ็น ชิวรี: ร้านอาหาร Attica ในเมืองเมลเบิร์นของเชฟผู้นี้รั้งอันดับ 21 ของอันดับร้านอาหารยอดเยี่ยมในระดับโลก ปี 2013 เชฟหนุ่มเชื้อสายนิวซีแลนด์เจ้าของรางวัลผู้นี้จะมาสร้างสีสันให้กับกิจกรรมเวิร์คช็อป ด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติที่หลากหลาย พร้อมเปิดเผยถึงแรงบันดาลใจในวัยเยาว์เบื้องหลังเมนูพิชิตรางวัล และทำให้เขากลายมาเป็นหนึ่งในเชฟรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง บัตรเข้าร่วมการประชุมสัมมนา ราคา 240 เหรียญสิงคโปร์ โดยราคานี้รวมค่าบัตรผ่านประตูงานเลี้ยงค็อกเทล บัตรเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อป 1 กิจกรรม ราคาเริ่มต้นที่ 250 เหรียญสิงคโปร์ สำหรับผู้ปฏิบัติวิชาชีพในอุตสาหกรรมอาหารรับส่วนลดพิเศษ คณะกรรมการที่ปรึกษา นำโดยประธานการประชุม เดวิด ทอมป์สัน จะเป็นผู้ดูแลโครงการและระบุกำหนดการต่างๆ ของโปรแกรม สำหรับสมาชิกคณะกรรมการท่านอื่นๆ ประกอบด้วย เชฟโยชิฮิโร นาริซาวะ และ เชฟมานิช เมห์โรทรา ร่วมด้วยผู้ประกอบการร้านอาหาร ลอห์ ลิก เป็ง จากสิงคโปร์ และ อลัน โล จากฮ่องกง ท่านสามารถค้นหารายละเอียดโปรแกรม คู่มือการประชุมสัมมนา กิจกรรมเวิร์คช็อป ประวัติการทำงานของเชฟและข้อมูลการจำหน่ายบัตรได้ที่เว็บไซต์ www.theworlds50best.com/asia การรวบรวมรายนาม 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย รายนาม 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย จัดทำโดยสมาคม The Diners Club® World’s 50 Best Restaurants Academy ซึ่งเป็นกลุ่มของผู้นำในธุรกิจอาหารระดับโลกกว่า 900 ราย ซึ่งร่วมกันคัดเลือกร้านอาหารจากความคิดเห็นระดับมืออาชีพที่มีต่อร้านอาหารทั่วโลก โดยสมาคมฯ แบ่งการดำเนินงานเป็น 26 ภูมิภาค แต่ละภูมิภาคมีคณะกรรมการผู้ตัดสิน 36 ท่าน รวมประธานคณะกรรมการซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการดำเนินงานหนึ่งท่าน คณะกรรมการแต่ละชุดประกอบด้วยนักวิจารณ์อาหาร พ่อครัว ผู้ประกอบการร้านอาหารและบรรดา “นักชิม” ชั้นสูง โดยแต่ละท่านสามารถลงคะแนนเสียงได้เจ็ดคะแนน โดยในเจ็ดคะแนนนั้น กรรมการต้องลงคะแนนอย่างน้อยสามคะแนนให้แก่ร้านอาหารที่อยู่นอกภูมิภาคของตนเอง โดยในแต่ละภูมิภาค จะมีการเปลี่ยนตัวกรรมการอย่างน้อย 10 ท่านในแต่ละปี โดยพนักงานของผู้สนับสนุนการประกาศผลรางวัล รวมถึงผู้สนับสนุนหลัก ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงหรือมีอิทธิพลใดๆ ต่อผลรางวัล ผลคะแนนของร้านอาหารในประเทศต่างๆ ของเอเชีย ได้จากการลงคะแนนในรายการ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก และจะนำมาประกาศในรายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ซึ่งมีทั้งจากบังกลาเทศ พม่า บรูไน ภูฏาน กัมพูชา จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ลาว มาเก๊า มาเลเซีย มัลดีฟส์ ไมโครนีเซีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไต้หวัน ไทย ติมอร์-เลสเต และ เวียดนาม งานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย มีกำหนดจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 ณ โรงแรมคาเปลลา เกาะเซ็นโตซา ประเทศสิงคโปร์ ประเภทรางวัลของรายการ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย - The S.Pellegrino Best Restaurant in Asia - The Diners Club® Lifetime Achievement Award - Asia - The Veuve Clicquot Asia’s Best Female Chef Award - Chefs’ Choice Award - One to Watch Award สนับสนุนโดย เครื่องดื่มเบียร์ Peroni Nastro Azzurro - Best Pastry Chef Award สนับสนุนโดย ผลิตภัณฑ์ช็อคโกแลต Cacao Barry - Highest Climber Award สนับสนุนโดย ผลิตภัณฑ์เหล้ารัม Zacapa Rum - Highest New Entry Award สนับสนุนโดย Les Concierges - Individual Country Awards ผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย หลังการประกาศผลรางวัลในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 ผลรางวัลทุกประเภทจะถูกประกาศบนเว็บไซต์ www.theworlds50best.com/asia
แท็ก Restaurant   เอเชีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ