หนุ่มสาว มกท ยกขบวนสร้างค่ายอาสาเพื่อน้อง

ข่าวทั่วไป Friday January 31, 2014 10:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กิจกรรมที่นักศึกษานิยมทำกันช่วงปิดเทอม อย่าง การออกค่าย นับเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นที่น่ายกย่อง เพราะนอกจากพวกเขาจะได้ทำประโยชน์เพื่อสังคมแล้ว ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบชนบทๆที่ตัดขาดออกจากการสื่อสารอันฟุ่มเฟื่อยพร้อมมุ่งสู่อุดมการณ์หนึ่งเดียวล่าสุด นักศึกษาชมรมโรตาแรคท์ กว่า 50 ชีวิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพออกเดินทางไป ยังโรงเรียนบ้านลาดคื้อเพื่อสร้างอาคารเอนกประสงค์และห้องสมุด พร้อมจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์สร้างจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม เผยแพร่ให้ความรู้ด้านการศึกษา สาธารณสุข และจัดกิจกรรมสันทนาการให้แก่เด็กนักเรียนและประชาชนในหมู่บ้าน ต.ห้วยเฮี้ย อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก ชนิดา แฉล้มภักดิ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ ตำแหน่งประธานค่ายอาสาพัฒนาชนบท กล่าวว่า โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความรู้สู่ชนบท ที่นับเป็นครั้งที่ 28 มีจุดประสงค์ที่จะฝึกฝนให้นักศึกษาได้รู้จักการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวมโดยปีนี้ทุกคนในชมรมตั้งใจออกเดินทางมาเพื่อสร้างอาคารเรียนกันกว่า 50 คน และแบ่งงานในค่ายอาสา ออกเป็น 9 ฝ่ายเพื่อบริหารจัดการให้ปลายทางสำเร็จทันเวลา “ เราแบกเป้ไปออกค่ายอาสากันทุกปี แต่ปีนี้เราไปกันกว่า 50 คน ซึ่งแบ่งเวียนกันทำงานในตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ มีตั้งแต่ ฝ่ายอาชีวะ ฝ่ายพีอาร์ ฝ่ายสวัสดิการ ฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายศึกษา ฝ่ายสันทนาการ ฝ่ายวัสดุ ฝ่ายโครงงาน ฝ่ายอาชีพ โดยทุกฝ่ายเราจะไม่เกี่ยงว่าหญิงชายทุกคนจะได้ถูกหมุนเวียนทำในทุกตำแหน่งเพื่อเรียนรู้ ทั้งน้องปี 1 ถึงพี่ปี 4 และนอกจาก หน้าที่ภายในค่ายอาสาแล้ว ภายนอกค่ายเรายังส่งตัวแทนไปเรียนรู้ฝึกอาชีพกับคนในหมู่บ้านเพื่อนำความรู้ท้องถิ่นมาเผยแพร่เรียนรู้กันในค่าย อย่างการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ด้าน กรติ ปละมูลศิลป์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะศิลปะกรรมศาสตร์ น้องใหม่ที่เพิ่งเคยชิมลางค่ายอาสา บอกว่าเป็นค่ายนี้เป็นอาสาค่ายแรกที่เธอรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ทำให้เธอเรียนรู้การปรับตัว และยอมรับว่าแม้จะอยู่ยากลำบากกว่าอยู่บ้านแต่สิ่งที่ได้รับคือความคิดมุมมองใหม่ๆที่มีต่อสังคม และบอกกับตัวเองว่าจะไม่ปล่อยให้ชีวิตนักศึกษาผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์เลยทีเดียว “ ปกติอยู่บ้านจะติดเกม ติดโทรศัพท์มากๆเลยค่ะ แต่มาอยู่นี่เขาให้ปิดการสื่อสารพร้อมทั้งตื่นเช้า มันก็ลืมไปเลยนะคะ เพราะพอมันมีอะไรทำ การแชทก็ไม่ได้มีความสำคัญเราหันไปสนใจทำงานอย่างเต็มที่ และระหว่างที่อยู่ในค่ายเราต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ ตื่นเช้า ทำงานหนักแต่เหมือนเราไม่รู้สึกว่าเหนื่อยหรืออยากหยุด พลังของเพื่อนของคนในหมู่บ้านที่ดูต้อนรับเอ็นดูเรามันทำให้เรารู้สึกว่าเรานั้นไปเป็นผู้รับมากกว่าผู้ให้ด้วยซ้ำ และพอเราเห็นชาวบ้านมีความสุขเราก็รู้สึกอิ่มใจเหมือนกลับมาเราได้ครอบครัวใหญ่ ได้รู้จักคำว่าน้ำใจ การช่วยเหลือและ ไม่คิดว่าการมาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจะทำให้ตัวเองลำบากเปล่าประโยชน์ แต่ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเราเองมีค่าถ้ามีค่ายอีกก็คิดว่าจะไปอีกจะไม่ปล่อยให้ชีวิตเด็กมหาวิทยาลัยของตัวเองผ่านไปแบบไร้ประโยชน์เหมือนเดิมค่ะ” ขณะที่ด้าน เยาวชนตัวแทนโรงเรียนในชนบทบอกกว่าขอบคุณพี่ๆที่ได้มาสร้างอาคารเรียน และยังจัดกิจกรรมสนุกๆให้ทุกคนได้มีรอยยิ้ม “ นานๆทีจะมีทีมๆเข้ามาทำกิจกรรมในโรงเรียนพวกเราก็รู้ดีใจและก็ประทับใจมากๆ ที่พี่ๆให้ความเป็นกันเอง และก็ใจดีกับพวกเรา รวมทั้งผู้ใหญ่ในหมู่บ้านเรา การมาอยู่ก็ทำให้พวกเรารู้สึกผูกพัน และรู้สึกว่าหมู่บ้านมีสีสันมีความสุขตอนพวกพี่อยู่”น้องเยาวชนจากรร.ลาดคื้อกล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ