องค์กรวิชาชีพกว่า 60 กลุ่ม ตั้ง“เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป” หยุดความรุนแรง เริ่มเจรจา เดินหน้าปฏิรูป

ข่าวทั่วไป Friday January 31, 2014 12:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป หวั่นสังคมไทยดิ่งเหวเกินเยียวยาจากปัญหาการเมืองระอุ ผู้คนแตกแยกเกลียดชัง องค์กรวิชาชีพจากทุกภาคส่วนกว่า 60 กลุ่มร่วมมือก่อตั้งกลไกการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในนาม “เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป” ออกคำแถลง “หยุดความรุนแรง –เริ่มเจรจา –เดินหน้าปฏิรูป” พร้อมปูทางสร้างเวทีกลาง-พื้นที่การมีส่วนร่วมเพื่อให้ทุกฝ่ายนำเสนอความคิดเห็นแลกเปลี่ยน รวบรวมประเด็นเกี่ยวกับการปฏิรูปที่เน้นลงมือทำทันทีเตรียมเดินหน้าออกแบบการตั้งคณะทำงานเพื่อการปฏิรูประยะยาวที่มีกลไกกฎหมายรองรับ เมื่อวานนี้(30 ม.ค.) มีการแถลงข่าวเปิดตัว “เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป” หรือ “Reform Now Network” ซึ่งมาจากการรวมพลังทำงานร่วมกันของบุคคลและองค์กรด้านต่างๆ ทั้งด้านวิชาการ ด้านธุรกิจ ด้านชุมชน ด้านการปฏิรูป ด้านการพัฒนาสังคม ฯลฯ จำนวนกว่า 60 องค์กร โดยมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อผลักดัน ขับเคลื่อนกระบวนการปฏิรูปประเทศบนวิถีทางประชาธิปไตยให้เกิดผลก้าวหน้าและมีผลสำเร็จอย่างจริงจัง จึงเน้นการปฏิรูปที่จะต้องเริ่มทันที มีกรอบแนวทางและประเด็นที่ชัดเจน ยึดถือหลักการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และประชาชนทุกคนต้องเป็นเจ้าของการปฏิรูป ทั้งนี้ เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูปได้ออกคำแถลงหัวข้อ “หยุดความรุนแรง เริ่มเจรจา เดินหน้าปฏิรูป”โดยขอร้องให้ทุกฝ่ายหยุดความรุนแรง การยั่วยุ ลดการเผชิญหน้าและการส่งเสริมให้เกิดความเกลียดชังระหว่างประชาชนและผู้มีความเห็นต่างเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนกลุ่มที่เรียกร้องสิทธิในการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูป และประชาชนที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้ง ส่วนการเจรจา ทางเครือข่ายฯ เชื่อว่า ไม่มีความขัดแย้งใดในโลกที่หาทางออกได้โดยปราศจากการเจรจา ก่อนจะย้ำไม่ว่าการเลือกตั้งจะเดินหน้าไปได้หรือไม่ก็ตาม คู่ความขัดแย้งและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเจรจาเกี่ยวกับการปฏิรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลไก องค์กรที่มาของตัวแทนจากประชาชน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มมีส่วนร่วม เหนืออื่นใด เครือข่ายฯมองว่า จะต้องเดินหน้าปฏิรูปทันที เริ่มจากช่วยกันปกป้องวาระการปฏิรูปประเทศมิให้ถูกลดความสำคัญลงภายใต้บรรยากาศการเผชิญหน้าของฝ่ายต่างๆ และมิให้ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศถูกซุกไว้ใต้พรมและสูญเสียโอกาสของความตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนและความเห็นพ้องร่วมกันเรื่องการปฏิรูปนอกจากนี้เครือข่ายฯ ยังอาสาร่วมสร้าง “เวทีกลาง-พื้นที่การมีส่วนร่วม” เพื่อให้ทุกฝ่ายนำเสนอความคิดเห็นแลกเปลี่ยน เพื่อรวบรวมประเด็นเกี่ยวกับการปฏิรูป โดยไม่รวมศูนย์ รวบอำนาจ “เราเห็นว่าการเลือกที่จะอยู่ข้างใดแล้วมองไม่เห็นความต้องการของประชาชนอีกข้างหนึ่งนั้นมีข้อจำกัด สิ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนคือการเลือกแนวทางที่ทุกฝ่ายยอมรับได้และสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้จริง”ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์อดีตกรรมการคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)และ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว อนึ่ง ผู้แถลงข่าวการรวมพลังครั้งนี้ มาจากองค์กรที่หลากหลาย นอกจากปลัดกระทรวงยุติธรรมแล้ว ยังมี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยนางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ประธานสมัชชาเกษตรกรแห่งชาติ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญมูลนิธิชีววิถี นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ เลขาธิการมูลนิธิสาธารณะสุขแห่งชาติ นางสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ดร.บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ ผู้อำนวยการ สถาบันธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมและ ศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอนันต์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักสันติวิธี เป็นต้น ผู้สนใจทั่วไปสามารถแสดงความเห็นหรือติดตามการขับเคลื่อนงานของเครือข่ายฯได้ที่อีเมล์rnnthailand@gmail.comหรือwww.facebook.com/RNNThailand และwww.RNNthailand.com#

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ