The New Central Chidlom-รูปลักษณ์ใหม่เซ็นทรัล ชิดลม

ข่าวทั่วไป Friday October 28, 2005 16:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--สรรพสินค้าเซ็นทรัล
ห้างเซ็นทรัล ชิดลมในรูปลักษณ์ใหม่ จะให้บริการในแต่ละชั้นแบ่งตามคอนเซ็ปต์ดังต่อไปนี้
ชั้น 1 แผนกเครื่องสำอางและสินค้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์ และแผนก Luxury Watch & Jewelry
แผนกเครื่องสำอางจะเน้นคอนเซ็ปต์ของการบริการด้านความงามที่มีรูปแบบใหม่และทันสมัยที่สุดเป็นแห่งแรกในประเทศไทย นอกจากนี้จะยังมีแบรนด์ใหม่ๆที่วางจำหน่ายเฉพาะในห้างเซ็นทรัลเท่านั้นอีกด้วย
พื้นที่ของชั้น 1 นั้น แผนกเครื่องสำอางได้ขยายให้เพิ่มขึ้นจากเดิม 1,800 ตารางเมตร เป็น 2,500 ตารางเมตร เพื่อจะเน้นในเรื่องการบริการในส่วนของเครื่องสำอางให้เต็มรูปแบบ ทั้งในด้านการบริการแต่งหน้า การบำรุงดูแลผิวพรรณและการนวดหน้า
ความโดดเด่นของสินค้าเครื่องสำอางที่จะมีให้บริการที่ชั้น 1 ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่มีดังต่อไปนี้
(1) สินค้าเครื่องสำอางที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ แบรนด์ เฉพาะเซ็นทรัล ได้แก่ นาร์ส(Nars) ลอร่า เมอร์ซิ-เอร์(Laura Mercier) เจอร์ลีค(Jurlique) ดีดีเอฟ(DDF) และคอสเม่ เดอ คอร์เต้(Cosme de Corte) ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางระดับไฮเอนด์ ของโคเซ่(Kose)ประเทศญี่ปุ่น
(2) บริการรูปแบบใหม่ๆจากแบรนด์เครื่องสำอาง ได้แก่
อีฟต์ แซง โลรองต์ (YSL) จะเปิดให้บริการสกินแคร์ เซ็นเตอร์ เต็มรูปแบบใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แม็ค (MAC) จะเปิดให้บริการ Private Workshop ที่เป็นการจำลองเวิร์คชอปของแมคในนิวยอร์ค ซึ่งจะมีเพียงแห่งเดียวในเมืองไทย พร้อมอุปกรณ์การแต่งหน้าอย่างครบครัน
ชาแนล (Chanel) นำเสนอรูปแบบใหม่ของเคาน์เตอร์ที่จะมี Make up Studio แห่งเดียวในประเทศไทย และเป็นแกห่งที่ 2 ในเอเชีย โดยจะมี International Makeup Artist มาประจำที่เซ็นทรัลชิดลมถึง 3 ครั้งต่อปี
พาโยต์ (Payot) จะเป็น Spa Treatment แห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งจะเปิดให้บริการนวดหน้าและนวดตัวสำหรับลูกค้า
เคล เดอโป โบเต้ (Cle de Peau Beaute) นอกจากจะให้บริการในการนวดหน้าและนวดตัวแล้ว ยังได้สร้างเคาน์เตอร์ให้มีห้องอาบน้ำเพื่อลูกค้าได้รับบริการการทำบอดี้ สครับจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ และยังสามารถรับบริการการแต่งหน้าอย่างเต็มรูปแบบได้ที่เคาน์เตอร์อีกด้วย
ลังโคม (Lancome) จะเปิดบริการให้การแนะนำด้านการดูแลผิว ปรึกษาเกี่ยวกับสภาพผิวหน้า และให้บริการแต่งหน้าแบบส่วนตัวภายในเคาน์เตอร์คอนเซ็ปต์ใหม่ ซึ่งคอนเซ็ปต์ดังกล่าวจะมีเพียงที่เดียวในประเทศไทยเฉพาะที่เซ็นทรัล ชิดลมเท่านั้น
ไบโอเธิร์ม (Biotherm) นำเสนอบริการในรูปแบบสปา คอนเซ็ปต์ ซึ่งจะเปิดตัวเป็นแห่งแรกในประเทศไทย
ชู อูเอมูระ (Shu Uemura) พบกับคนเซ็ปต์ใหม่ของเคาน์เตอร์ ซึ่งจะให้บริการพิเศษในเรื่องของการเสริมแต่งดวงตาให้สวยงามพิเศษ ได้ในหลายรูปแบบ ภายใต้ชื่อ "Lash Bar" ซึ่งเปิดบริการเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เฉพาะที่ห้างเซ็นทรัล ชิดลมเท่านั้น
เฮเลน่า รูบินสไตน์ (Helena Rubinstein) พบกับการปฎิวัติรูปแบบใหม่ในการให้บริการ ด้วยการเพิ่มการบริการนวดหน้า บำรุงผิวพรรณในห้องบริการพิเศษเป็นส่วนตัว ด้วยคอนเซ็ปต์ดีไซน์ใหม่ของเคาน์เตอร์เป็นครั้งแรกสำหรับแบรนด์เฮเลน่า รูบินสไตน์ในประเทศไทย
คริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior) พบกับรูปแบบใหม่ของเคาน์เตอร์ โดยจะเปิดตัวภายใต้ชื่อ"Dior Cosmetic"พบกับโฉมใหม่ของเคาน์เตอร์ Christian Dior ได้ที่เซ็นทรัล ชิดลม เป็นที่แรกในประเทศไทย
ลา แมร์ (La Mer) สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ลา แมร์ นั้น เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเซ็นทรัล ชิดลม เป็นอย่างมาก จึงทำให้ยอดขายของลา แมร์ ในประเทศไทย เฉพาะที่เซ็นทรัล ชิดลม มียอดขายอยู่ที่อันดับ 6 ของภูมิภาคเอเชีย และมียอดขายเป็นอันดับ 8 ของโลก
(3) สินค้าเครื่องสำอางที่มีที่เดียวในประเทศไทย
Clinique CX เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าที่มีสภาพผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น การแพ้แดด หรือ สภาพอากาศที่ไม่ดี และจะมีแพทย์ผิวหนังประจำเคาน์เตอร์ Clinique เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าโดย Clinique CX ไม่ได้มีวางจำหนายตามห้างทั่วไป แต่จะเลือกเฉพาะเพียงห้างไม่กี่แห่งในโลกเท่านั้น ซึ่งเซ็นทรัล ชิดลมเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่จะมี Clinique CX ให้บริการสำหรับลูกค้า
นอกจากเครื่องสำอางรูปแบบใหม่แล้ว ลูกค้าจะได้พบกับเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ใหม่ๆที่วางขายเฉพาะในเซ็นทรัล ชิดลม เท่านั้น อาทิ ชาร์ลส์ จูดอง (Charles Jourdan) วิเวียน แทม(Vivienne Tam) สเตรเนสส์(Strenesse) และ จูสซี่ คูทัวร์ แอคเซสเซอร่ส์(Juicy Couture Accessories)
ทั้งนี้ เซ็นทรัล ชิดลม ยังได้เพิ่มแบรนด์เสื้อผ้าใหม่ๆที่เป็นที่ต้องการของลูกค้าเซ็นทรัล เช่น ไคลน์(Ann Kleine) ไข่(Kai) ดีเซล(Diesel) ซีเค คาลวิน ไคลน์(,CK Calvin Klein) ฮิวโก้ บอส (Hugo Boss) และดันฮิล(Dunhill)
นอกจากนี้ ที่ชั้น 1 ยังมีแผนก Luxury Watch & Jewelry ซึ่งจะนำแบรนด์นาฬิกาและเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเข้ามาจำหน่ายดังนี้ เปียเจต์(Piaget) โช ปาร์ด์(Chopard) บุลการี(Bvlgari) และโอเมก้า(Omega) และในส่วนของเครื่องประดับคือ Lofus Arts de Vivre
ชั้น 2 แผนกสินค้าเสื้อผ้าวัยรุ่นสตรี เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงทำงาน (Career Wear) รองเท้า เครื่องหนัง และมาร์คแอนด์สเปนเซอร์(M&S)
ชั้นนี้จะนำเสนอคอนเซ็ปต์ Women World ที่รวบรวมกระเป๋าและรองเท้าแบรนด์ชั้นนำไว้อย่างครบครันกว่า 60 แบรนด์ โดยการตกแต่งจะเน้นสีเบจ และสีชมพูอ่อนเป็นหลัก ให้ความรู้สึกทันสมัย สะอาดตา ในแผนกรองเท้าสตรีจะมีลูกเล่นเพิ่มขึ้นให้สะดุดตาโดยออกแบบให้ลายพื้นทางเดินทอดยาวไปบนผนังจนสุดเพดาน
สำหรับแบรนด์ใหม่ที่นำมาแนะนำในแผนกนี้ ได้แก่ Mexx สำหรับผู้หยฺง Liz Claiborne Accessories สำหรับหญิงสาวที่ชื่นชอบกระเป๋าดีไซน์น่ารัก และพบกับแบรนด์รองเท้าใหม่คือ Studio Shoes ที่มีความทันสมัยในรูปแบบของความเป็นแคชชวลและสไตล์เรียบ หรู ซึ่งจะวางจำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัล ชิดลม เท่านั้น
นอกจากนี้แล้ว ลูกค้าจะได้พบกับร้านอาหารเก๋ในชื่อ"VISAGE"ให้บริการอาหารสไตล์ Fusion Food จากฝีมือเชฟชาวฝรั่งเศส ภายในร้านตกแต่งด้วยบรรยากาศสบายๆ โปร่ง และ สบายตา ด้วยโทนสีขาว เหมาะสำหรับการรับประทานอาหาร หรืออิ่มอร่อยกับขนมเค้กและน้ำชาในยามว่าง
ชั้น 3 เป็นสินค้าของวัยรุ่นและวัยทำงาน คอนเซ็ปต์เหมาะสำหรับผู้รักแฟชั่น และ Young at Heart มีทั้งแผนก Zeen Zone แผนกรองเท้า กระเป๋า และเสื้อผ้าแบรนด์ต่างๆมากมาย ชั้นนี้จะมีการปรับโฉมให้ทันสมัย จะมีแบรนด์ใหม่ๆเข้ามา เช่น
Denim Bar ที่รวบรวมเดนิมแบรนด์ดังเข้ามารวมกันไว้ที่นี่ อาทิ Take Two และ Gabba,Rifle จากประเทศอิตาลี Gsus จากประเทศเดนมาร์ก Mooks และ Grab จากประเทศออสเตรเลีย และ Evisu จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีจำหน่ายเฉพาะที่ เซ็นทรัล ชิดลมเท่านั้น
โฉมใหม่ของเคาน์เตอร์แบรนด์สุดฮิตของชั้น 3 อาทิ Billabong, Quick Silver,Roxy,CK Jean,GAS,Miss sixty,Energy,Adidas,Nike,Puma รวมทั้งแผนกนาฬิกาซึ่งเซ็นทรัล ชิดลม เป็นห้างที่มียอดขายสูงสุดก็มีการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งหมด พรั่งพร้อมด้วยนาฬิกากว่า 80 แบรนด์ พร้อมกับโฉมใหม่ของร้านอาหาร Greyhound
ชั้น 4 แผนเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ
จะมีเสื้อผ้าและแบรนด์ใหม่ๆเข้ามา อาทิ Mexx สำหรับผู้ชาย Ashworth เสื้อผ้าลำลองสำหรับวันสบายๆรองเท้า Dr.Martens และยังพบกับร้าน Supersports ครบเครื่องด้วยอุปกรณ์กีฬาทุกชนิด พร้อมพบกับโฉมใหม่ของร้านอาหาร Sixth Sense ที่ย้ายขึ้นมาจากชั้น 3 โดยจะให้บริการ Wine Bar และอาหารไทย
ชั้น 5 แผนกบ้านและของตกแต่งบ้าน เครื่องครัว สินค้าไทย และ Power Buy
ชั้นนี้นำเสนอสินค้าที่ทาง เซ็นทรัล ได้พัฒนาขึ้นเองเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แล้วยังมีร้านอาหาร The Mediterra nean โดยจะให้บริการอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่เน้นการใช้น้ำมันมะกอกในการประกอบอาหาร ซึ่งจะมีทั้งสลัด พาสต้า และแซนด์วิช
นอกจากนี้แล้วที่แผนก Home ถือว่าเป็นแผนกที่เป็นจุดเด่นและมีชื่อเสียงของเซ็นทรัลมาตลอดในด้านความเป็นผู้นำที่รวบรวมสินค้าสำหรับใช้ในบ้านมากที่สุดให้เลือกได้อย่างครบครัน โดยมีสินค้าที่เซ็นทรัลผลิตและสั่งนำเข้าโดยตรงจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก
ชั้น 6 แผนกเด็ก ของเด็กเล่น และชุดชั้นในสตรี
โดยทั้งชั้น จะมีปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดยจะมีเครื่องเล่น ม้าหมุน ที่แผนกของเด็กเล่นเพื่อเป็นสื่อให้ระลึกถึงช่วงเวลาสนุกๆในวัยเด็กได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง พร้อมพบกับหุ่นที่เคลื่อนที่ได้ จะทำให้เด็กๆตื่นเต้น พบกับความสนุกสนานและยังจะมีเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ใหม่ของเด็กวัยทีน คือ Billabong Junior เสื้อผ้าที่เป็นขวัญใจของเด็กๆวัย 12 ปี ในสไตล์เซิร์ฟ แคชชวล
นอกจากนี้แล้ว ลูกค้ายังได้พบกับโฉมใหม่ของห้องอาหาร The Terrace
ชั้น 7 Food Loft และ B2S
ร้านอาหาร FoodLoft เป็นร้านอาหารที่ถูกกล่าวขานจากผู้คนเป็นจำนวนมาก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเราได้คัดสรรร้านอาหารที่มีคุณภพ ชื่อเสียง และมีรสชาติที่ดีเพื่อบริการให้กับล๔กค้าของเซ็นทรัล
นอกจากนั้น ยังได้พบกับบริการที่สุดแสนประทับใจ สิทธิพิเศษมีระดับมอบให้แด่สมาชิกเซ็นทรัล มาสเตอร์การ์ด แพลทตินัม ณ ห้อง Platinum Lounge ที่ให้ลูกค้าผู้ถือบัตรสามารถผ่อนคลายได้อย่างสุขสบาย และห้อง Premier Lounge ห้องพักผ่อนหลังจากการช้อปปิ้ง โดยมรเครื่องดื่มและนิตยสารชั้นนำไว้คอยบริการ พร้อมกับเคาน์เตอร์ Thai Ticket Master บริการขายบัตรคอนเสิร์ต/ละคร/การแสดง สื่อกลางความบันเทิงทุกรูปแบบเพื่อความสะดวกสบายในการจองบัตร เคาน์เตอร์บริการลูกค้า Customer Service และความสะดวกสบายด้านบริการทางการเงินที่ Financial Centre--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ