สคร.7 ห่วงวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์โดยขาดการป้องกัน ในวันวาเลนไทน์

ข่าวทั่วไป Wednesday February 12, 2014 10:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--สนง.ป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ใกล้ถึงวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ สคร.7 ห่วงวัยรุ่นแสดงความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์ เผยผลโพลประชาชนเชื่อว่าแจกถุงยางอนามัยให้วัยในวันวาเลนไทน์ช่วยลดการท้องและป้องกันเอดส์ได้ นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี (สคร.7) กล่าวว่า วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ตรงกับวันวาเลนไทน์ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งความรัก แต่ละคนจะแสดงออกถึงความรักให้แก่กันในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนในสังคมไทย อิทธิพลจากสื่อต่างๆ ส่งผลให้เยาวชนแสดงความรักต่อกันอย่างไม่ถูกต้อง เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยขาดการป้องกัน ทำให้เกิดปัญหา การตั้งครรภ์ในวัยเรียน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไปจนถึงติดเชื้อเอดส์ นพ.ศรายุธ กล่าวต่อว่า รายงานจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 จนถึงเดือนกันยายน 2555 พบมียอดผู้ป่วยโรคเอดส์สะสมทั้งสิ้น 276,947 ราย ประมาณร้อยละ 85 ของผู้ป่วยโรคเอดส์ มีอายุระหว่าง 15-45 ปี ส่วนสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในพื้นที่รับผิดชอบของ สคร.7 ได้แก่ (จ.ยโสธร จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี จ.อำนาจเจริญ จ.มุกดาหาร จ.นครพนมและจ.สกลนคร) มีแนวโน้มของโรคในช่วง ๑๓ ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น โดยอัตราป่วยสูงที่สุดในปี 2556 เท่ากับ 68.09 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน สคร.7 จึงลงพื้นที่สำรวจทัศนคติ ความเห็น และพฤติกรรมในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การใช้ถุงยางอนามัยของประชาชน ในพื้นที่เขตเมืองและชนบทของ จังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนม จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดยโสธร ในระหว่างวันที่ 30 - 31 มกราคม 2557 แบ่งเป็น 4 ช่วงอายุ คือ ช่วงอายุ 15-30 ปี 31-45 ปี 46-60 ปี และอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จำนวนทั้งสิ้น 400 คน พบว่า ประชาชนร้อยละ 88.5 มีความรู้ความเข้าใจว่าการใช้ถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ร้อยละ 84.5 เชื่อว่าการแจกถุงยางอนามัยในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ให้แก่เยาวชนจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ได้ และประชาชนร้อยละ 79.8 เห็นด้วยหากผู้ปกครองหรือบุคคลในครอบครัวสอนให้บุตรหลานตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นรู้จักวิธีใช้และพกถุงยางอนามัย นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบอีกว่า มีประชาชนที่เคยใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์เพียงร้อยละ 51..25 เท่านั้น ดังนั้นมาตรการแก้ไขปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเชื้อเอดส์ จึงต้องเน้นการรณรงค์ให้ประชาชนมีพฤติกรรมที่เหมาะสม รู้จักวิธีการป้องกันก่อนมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอนามัย เพราะสามารถลดอัตราการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ ทั้งนี้ผู้ปกครองหรือบุคคลในครอบครัวควรสอนให้บุตรหลานรู้จักวิธีใช้และแนะนำให้พกถุงยางอนามัย รวมทั้งให้บุตรหลานรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองหรือวิธีการหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์นี้ แต่หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ต้องป้องกันโดยการใช้ถุงยางอนามัย ดั่งคำขวัญ “รักจริงต้องใส่ใจ รักปลอดภัย ต้องป้องกัน” นพ.ศรายุธ กล่าว.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ