กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--IR network
TVD เผยปี 56 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 41.20 ลบ. ส่วนบอร์ดใจดีควักกระเป๋าจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งหลังปี 56 หุ้นละ 0.03 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปีจ่าย 0.10 บาทต่อหุ้น พร้อมเปิด 5 กลยุทธ์หลักรุกธุรกิจเต็มรูปแบบ ขยายช่องทางจำหน่ายสินค้า-เปิดตัวสินค้าใหม่-ขยายฐานลูกค้าใหม่จับกลุ่มวัยรุ่น-เพิ่มบริการเสริม-พัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ ด้านผู้บริหารหนุ่มไฟแรง “ทรงพล ชัญมาตรกิจ” มั่นใจปี 57 รายได้รวมแตะ 2.5 พันลบ.เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน และวางเป้า Net Profit Margin อยู่ที่ 4.5-5.5%
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย (Multichannel Marketing) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานในปี 2556 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,231 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 41.20 ล้านบาท และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 มีมติอนุมัติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลัง 2556 ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท โดยที่ผ่านมา TVD ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ไปแล้ว ในอัตรา 0.07 บาท ต่อหุ้น ดังนั้นรวมทั้งปี 2556 จะมีการจ่ายเงินปันผลรวม 0.10 บาทต่อหุ้น
นายทรงพล กล่าวต่อไปว่าในปี 2557 บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้จะอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน และมี Net Profit Margin อยู่ที่ 4.5-5.5% ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน เพราะในปีนี้บริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ 5 แนวทาง ซึ่งประกอบด้วย 1.ขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม 2.เปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อสร้างความหลากหลายและแปลกใหม่มากยิ่งขึ้น 3.ขยายฐานลูกค้าใหม่จับกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น 4.เพิ่มบริการเสริม เช่น การจัดส่งสินค้าไปให้ผู้บริโภค ซึ่งเป็นอีกช่องในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และ 5.พัฒนาบุคลากรเพื่อให้เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งสามารถสื่อสารและตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าโดยทันที ขณะเดียวกันบริษัทฯ สามารถลดต้นทุนสินค้าและบริหารจัดการค่าใช้จ่ายภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
“ในปีนี้ TVD มีกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ 5 แนวทางคือการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่มรวมทั้งเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อสร้างความหลากหลายและแปลกใหม่มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยจับกลุ่มวัยรุ่นเนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีฐานขนาดใหญ่และจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคคือกลุ่มคนรุ่นใหม่กล้าที่จะสั่งซื้อสินค้าผ่านสื่อดิจิตอลและมีเดียมากขึ้น ตลอดจนเพิ่มบริการเสริม รวมทั้งสามารถสื่อสารและตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าโดยทันทีและพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้ผลประกอบการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นจึงค่อยข้างมั่นใจว่าปีนี้จะทำได้คือรายได้อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท ” นายทรงพล กล่าวในที่สุด