กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์
“คาลพิส แลคโตะ”เครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นผสมนมเปรี้ยวที่หมักด้วยจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัสเฉพาะของ “คาลพิส” ที่มีประโยชน์มั่นใจเป็นผู้นำเทรนด์ตลาดเครื่องดื่มแนวใหม่ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะฉีกแนวจากคู่แข่ง เน้นความสดชื่น แปลกใหม่ไม่เหมือนใครดื่มง่าย ดื่มได้ทุกที่มันส์ได้ทุกเวลาพร้อมคุณประโยชน์ที่หมักด้วยจุลินทรีย์แลคโตบาซิลัสมุ่งเดินเครื่องกิจกรรมอัดแน่นตลอดทั้งปี ทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว Brand’s Ambassador หนุ่มหล่อหน้าใสพระเอกซุปตาร์แถวหน้าของเมืองไทยพร้อมเปิดแคมเปญ “เติมจุด..จุด..สนุกได้ไม่สะดุด กับ คาลพิส แลคโตะ” และภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่รับการแข่งขันทวีความดุเดือดขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี หวังกระตุ้นยอดขาย และขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคให้กว้างขึ้น พร้อมชูกลยุทธ์การตลาด 360 องศา เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย คาดจะสามารถดันยอดให้เติบโตตามเป้าที่วางไว้...
Mr.Yoshikazu Nammoto ประธานบริษัท บริษัท คาลพิสโอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแบรนด์ “คาลพิสแลคโตะ” เครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นผสมนมเปรี้ยวที่หมักด้วยจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัสเฉพาะของ ”คาลพิส” มีประโยชน์ ดื่มอร่อยไม่ซ้ำใคร เปิดเผยว่า วงการตลาดเครื่องดื่ม ฟรังชั่นนอลดริงก์มีการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะในปีนี้ 2557 มีการแข่งขันดุเดือดกว่าปีที่ผ่านๆ มา สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายปี 2556 ที่ผ่านมาเมืองไทยประสบปัญหาต่าง ๆ อาทิ ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง เป็นต้น ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมอะไรได้มากนัก ในปีนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ผู้ผลิตต่างส่งแคมเปญการตลาดครั้งใหญ่มาสู้กันเพื่อชิงยอดขาย ทำให้ทุกแบรนด์ต่างต้องเร่งเดินหน้าทำกิจกรรมการตลาดแบบเต็มสูบตั้งแต่ต้นปี รวมถึงเครื่องดื่ม “คาลพิส แลคโตะ” ได้เน้นการทำการตลาดอย่างครบวงจรอีกครั้งหลังจากที่หายไปจากตลาดเมืองไทยประมาณ 1 ปี และปัจจุบันได้มีการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “คาลพิส แลคโตะ” อย่างเต็มรูปแบบทั่วประเทศซึ่งก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี จากกลุ่มผู้บริโภคทั้งกลุ่มเดิม และกลุ่มใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น
@ ส่ง “คาลพิส แลคโตะ” 4 รสชาติตรงกลุ่มเป้าหมาย...สดชื่นอร่อยไม่ซ้ำใครสไตล์ญี่ป่น
“คาลพิสแลคโตะ” เครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นผสมนมเปรี้ยวที่หมักด้วยจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส เฉพาะของ ”คาลพิส“ พร้อมส่ง 4 รสชาติเพื่อให้ผู้บริโภคได้เพิ่มความสดชื่นกับรสชาติที่ลงตัวดื่มได้ทุกที่ มันส์ได้ทุกเวลาเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นผสมนมเปรี้ยว อร่อยไม่ซ้ำใคร โดดเด่นด้วยบรรจุภัณฑ์ แบบขวดขนาด 350 ml และแบบกระป๋องขนาด 325 ml พกพาสะดวกมี 4 รสชาติให้เลือก คือ 1.คาลพิส แลคโตะ ออริจินัล 2.คาลพิส แลคโตะ รสส้ม 3.คาลพิส แลคโตะ โซดา ออริจินัล 4.คาลพิส แลคโตะ โซดา กลิ่นเลมอน โดยทั้ง4 รสชาติเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มวัยรุ่น อายุระหว่าง 15-24 ปี และกลุ่มเป้าหมายรองอายุ 25-34 ปี และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ไม่หยุดนิ่ง ชอบทำกิจกรรมนอกบ้านและกลางแจ้ง
โดยการกลับมาครั้งนี้คาลพิส แลคโตะ นอกจากจะมีรสออริจินัล และโซดา กลิ่นเลมอนแล้ว ยังมีรสชาติใหม่ที่ได้ให้ลิ้มลองคือ คาลพิส แลคโตะ รสส้ม รสชาติดี อร่อย สดชื่นและถูกใจผู้บริโภคอย่างแน่นอน เพราะการลอนซ์สินค้าใหม่ทุก ๆ ครั้งจะต้องทำวิจัยกับผู้บริโภคเป้าหมายเพื่อให้ได้รสชาติ ที่ถูกใจที่สุดกับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่มีความมั่นใจในตัวเอง รักสุขภาพและมีไลฟ์สไตล์ที่สนุกกับชีวิต คาดว่าจะเป็นอีกรสชาติที่กลุ่มเป้าหมายต้องลิ้มลองอย่างแน่นอน
@ เปิดตัว CALPIS LACTO Ambassador“โอ้ –มาริโอ้ เมาเร่อ” พร้อมเปิดแคมเปญ “เติมจุด..จุด..สนุกได้ไม่สะดุด กับ คาลพิส แลคโตะ”
นอกจากเป็นการตอกย้ำ การเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นผสมนมเปรี้ยว ที่หมักด้วยจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส เฉพาะข อง”คาลพิส“ พร้อมเปิดแคมเปญ “เติมจุด..จุด..สนุกได้ไม่สะดุด กับ คาลพิส แลคโตะ” และภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่“เติมจุดจุด สนุกได้ไม่สะดุดกับคาลพิส แลคโตะ” เวลา 45 วินาที เป็นเรื่องราวของชีวิตวัยรุ่นที่มีความสนุกสนาน โดยกิจกรรมแรกเป็นวัยรุ่น ที่มีความสนุกเต้นตามจังหวะของเพลง กิจกรรมต่อมาเป็นการฝึก รด. ของนักเรียน และฉากสุดท้าย เป็นการแข่งขันพายเรือคายัค โดยทุกกิจกรรมที่ทำนับว่าเป็นความสนุกสนานภายใต้อากาศร้อน ของแสงอาทิตย์แม้เจอจัดหนักก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด เพียงแค่เติมจุดจุดก็สนุกได้ไม่สะดุด กับคาลพิส แลคโตะ โดยมีพระเอกแถวหน้าของเมืองไทยรับหน้าที่เป็น CALPISLACTO Ambassador “โอ้ –มาริโอ้ เมาเร่อ”เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ มีความสนุกสนาน ความเป็นตัวเอง รักสุขภาพมีไลฟ์สไตล์สนุก กับชีวิต แม้ว่ามาริโอ้จะทำงานแทบจะไม่มีวันหยุดพักผ่อนเลยทั้งถ่ายละคร ถ่ายแบบ ออกงานอีเว้นท์ต่าง ๆหรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ แต่ก็ยังร่าเริงสดใส มีความสดชื่นได้ตลอดเวลา
@วางกลยุทธ์การตลาด พร้อมอัดโฆษณาประชาสัมพันธ์เต็มรูปแบบ
สำหรับกลยุทธ์การตลาดของ “คาลพิส แลคโตะ”จะมุ่งเน้นการสร้างการรับรู้ในเรื่องจุดเด่นของสินค้า และตอกย้ำการเป็นเครื่องดื่มดับกระหายเพื่อสุขภาพ ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลิตภัณฑ์ คาลพิส แลคโตะ เป็นเครื่องดื่มที่มาจากนมเปรี้ยวหมักด้วยจุลินทรีย์แลกโตบาซิลัส นับเป็นจุดขายที่เหนือกว่าคู่แข่ง พร้อมทั้งอัดงบโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบ ทั้ง Above the line และ below the line เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงสื่อออนไลน์ต่างๆ สื่อตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วประเทศด้วย รวมทั้งการจัดโรดโชว์ไปยังต่างจังหวัด แหล่งชุมชน แหล่งชอปปิ้ง และแหล่งรวมกิจกรรมของคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองความอร่อยของคาลพิสแลคโตะ ทั้ง 4 รสชาติ การจัดโปรโมชั่น การแนะนำผลิตภัณฑ์ในงานแสดงสินค้าต่าง ๆ รวมถึงความเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ในภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นแท้ทั้งแบบขวดและแบบกระป๋อง
นอกจากนี้ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมถึงการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดสำคัญเพี่อมุ่งเน้นสร้างการรับรู้ถึงประโยชน์จากเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นผสมนมเปรี้ยวที่หมักด้วยจุลินทรีย์ แลคโตบาซิลลัส เฉพาะของ”คาลพิส” ผ่านสื่อต่างๆ อย่างครบวงจร จัดโรดโชว์ไปยังโรงเรียนต่าง ๆ แหล่งรวมกิจกรรมของวัยรุ่น แหล่งที่อยู่อาศัย ตลอดจนห้างร้านต่าง ๆ ทั่วประเทศ เปิดโอกาสให้น้อง ๆ และผู้บริโภคทั่วไปได้ลิ้มลองความอร่อย รวมทั้งจัดโปรโมชั่นร่วมกับห้างโมเดิร์นเทรดและห้างร้านต่าง ๆ เพื่อดึงดูดใจผู้บริโภคโดยเฉพาะวัยรุ่นและกลุ่มคนทำงาน ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักอีกด้วย
@ ภาพรวมและอัตราการเติบโตของตลาดเมืองไทย
ปัจจุบันตลาดรวมเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์มีมูลค่าประมาณ 7,100 ล้านบาท มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในแต่ละปีประมาณ 25% ขณะที่มูลค่าตลาดรวมเครื่องดื่มอัดลมประมาณ 36,000 ล้านบาท มีการเติบโตประมาณ 5% ในปีที่ผ่านมา คาดว่ายังคงมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยแต่ละค่ายต่างก็งัดกลยุทธ์เด็ดมาแข่งขันกันอย่างดุเดือดตั้งแต่ต้นปีเพื่อชิงยอดขาย และตอบโจทย์ได้ตรงใจผู้บริโภค
ในปี 2557 นี้ คาลพิส แลคโตะ ตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 1,300 ล้านบาท คาดว่าจะได้ตามเป้า ที่วางไว้ด้วยกลยุทธ์การตลาดและกิจกรรมการตลาดที่หลากหลายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น การจัดโปรโมชั่น จับมือพันธมิตรทางการค้า จัดโรดโชว์ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาด การทำ CSR เพิ่มช่องทางจำหน่าย เป็นต้น ทั้งนี้ “คาลพิส แลคโตะ” เป็นสินค้าที่ต้องการของกลุ่มผู้บริโภคอยู่แล้วโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ทั่วประเทศ สามารถครองความเป็นผู้นำตลาดในเมืองไทย และดันยอดขายให้เติบโตตามเป้าได้อย่างไม่ยากนัก