กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. ประกาศผลงานโครงการ “หุ้นใหม่ ความภูมิใจของจังหวัด” มีบริษัทสมัครเข้าร่วมโครงการ 219 ราย จาก 39 จังหวัด โดย 16 บริษัท ที่ได้รับอนุญาตออกเสนอขายหลักทรัพย์ (ไอพีโอ) จาก ก.ล.ต. ได้รับโล่เชิดชูเกียรติ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในงานมอบโล่เชิดชูเกียรติโครงการ “หุ้นใหม่ ความภูมิใจของจังหวัด” ครั้งที่ 1
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ตั้งแต่ เริ่มต้นโครงการ “หุ้นใหม่ ความภูมิใจของจังหวัด” เมื่อปี 2555 ก.ล.ต.ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากองค์กรพันธมิตร ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย ชมรมวาณิชธนกิจ และผู้สอบบัญชีมาโดยตลอด และปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งใน 2 ปีที่ผ่านมา ได้จัดโครงการไปแล้ว 2 รุ่น มีบริษัทสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 219 ราย ครอบคลุม 39 จังหวัด โดย 16 บริษัทได้รับมอบโล่เชิดชูเกียรติ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมีความพร้อมและได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ในการทำไอพีโอได้ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนด
16 บริษัทที่ได้รับมอบโล่เชิดชูเกียรติ ได้แก่ บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน (ขอนแก่น) บมจ.ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรมบมจ.นามยง เทอร์มินัล บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ชลบุรี) บมจ.พี.ซี.เอส. แมชีน กรุ๊ป โฮลดิ้ง (นครราชสีมา) บมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (นครสวรรค์) บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (นนทบุรี) บมจ.ฟอร์จูนพาร์ท อินดัสตรี้ บมจ.ยูเรกา ดีไซน์ (ปทุมธานี) บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (ปราจีนบุรี) บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ระยอง) บมจ.สุธากัญจน์ (ลพบุรี) บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (สมุทรปราการ) บมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์ บมจ.เอไอ เอนเนอร์จี (สมุทรสาคร) และ บมจ.โอเชี่ยนคอมเมิรช (สิงห์บุรี) ซึ่งบางบริษัทได้เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นบริษัทแรกของจังหวัดด้วย”
นายวรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการ “หุ้นใหม่ ความภูมิใจของจังหวัด” เป็นกลไกขับเคลื่อนบทบาทของตลาดทุนในการพัฒนาประเทศ สร้างทางเลือกให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนระยะยาวผ่านการระดมทุนจากตลาดทุนได้ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านกระบวนการปรับตัวให้มีโครงสร้างที่โปร่งใส มีบรรษัทภิบาล ตรวจสอบได้ สร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น เป็นที่น่าเชื่อถือแก่ผู้ลงทุนคู่ค้าและพันธมิตร
หากธุรกิจที่มีศักยภาพในแต่ละจังหวัดสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่องก็จะส่งผลให้ตลาดทุนและเศรษฐกิจของประเทศเติบโตตามไปด้วย ในขณะเดียวกันธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการนี้ก็เป็นเสมือนกลไกเปลี่ยนแปลง (change agent) ที่สำคัญในการกระตุ้นให้ธุรกิจในจังหวัดต่างๆ ปรับปรุงให้มีการบริหารจัดการที่ดี เป็นกำลังสำคัญในการกระจายความเจริญสู่จังหวัดและภูมิภาคต่างๆ นับเป็นการเสริมสร้างความรับผิดชอบทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยอีกทางหนึ่ง ซึ่งผู้ลงทุนทั่วโลกสนใจ
และให้ความสำคัญในการตัดสินใจลงทุน อันเป็นการสร้างความพร้อมของทั้งประเทศให้แข่งขันได้พร้อมรับมือตลาด AEC การเป็นผู้นำในภูมิภาคและก้าวสู่เวทีสากล
ทั้ง 16 บริษัทที่ได้รับโล่เชิดชูเกียรติเห็นพ้องว่าโครงการนี้มีประโยชน์ ทำให้ผู้ประกอบการทั่วไทยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดทุน การระดมทุนจากประชาชนผ่านกลไกตลาดทุน การเตรียมตัวของธุรกิจอย่างถูกวิธี ซึ่งหากธุรกิจที่มีศักยภาพในแต่ละจังหวัดสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้เติบโตต่อเนื่อง ก็จะสร้างความภาคภูมิใจแก่บ้านเกิด สร้างงานให้คนในท้องถิ่น นำความเจริญมาสู่ชุมชน
ช่วยให้คนในพื้นที่ไม่ต้องย้ายถิ่นฐานเข้าเมืองหลวง อันเป็นการเสริมสร้างความเจริญสู่แต่ละภูมิภาคสร้างชื่อเสียง และเป็นส่วนสำคัญในเศรษฐกิจของประเทศต่อไป นอกจากนี้ หวังว่าผลงานการนำร่องจะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สมาชิกในโครงการเพื่อศึกษาและพัฒนาธุรกิจของตนให้เติบโตก้าวหน้าต่อไปด้วย
เนื่องจากยังมีธุรกิจในต่างจังหวัดอีกหลายแห่งที่ต้องการเข้าร่วมโครงการแต่สมัครไม่ทันในรุ่นที่ 1 และ 2 ทาง ก.ล.ต. และองค์กรพันธมิตร จึงได้จัดโครงการหุ้นใหม่ฯ รุ่นที่ 3 ขึ้นเพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว โดยจะเปิดรับสมัครถึงเดือนพฤษภาคมนี้”