กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--PRDD
สภาวะตลาดวันที่ 14 มีนาคม 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,368.15-1,376.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ14 อยู่ที่ 21,120 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,090 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ14 อยู่ที่ 679 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 679 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.21 น. ของวันที่ 14/03/14)
แนวโน้มวันที่ 17 มีนาคม 2557
รัสเซียส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องแผนการผนวกเขตปกครองตนเองไครเมียของประเทศยูเครนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย โดยเริ่มต้นการซ้อมรบครั้งใหม่ใกล้พรมแดนยูเครนและกองทัพของรัสเซียเข้าควบคุม ไครเมียในทะเลดำ ซึ่งมีคนเชื้อชาติรัสเซียอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ และ มีฐานทัพรัสเซียประจำการอยู่ การแสดงออกทางการทหารของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ดันราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 6 เดือน และมีแนวโน้มที่ราคาทองจะทะยานขึ้นต่อเนื่อง หากเกิดความรุนแรงที่เพิ่มสูงขึ้นจนเข้าสู่สภาวะสงคราม ทางด้านนายกรัฐมนตรีแองเจลา เมอร์เคลของเยอรมนีเตือนถึง "หายนะ" ที่จะเกิดขึ้น นอกเสียจากว่ารัสเซียจะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ ขณะที่ นาย จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและยุโรปจะดำเนินการอย่างจริงจัง ถ้าหากไครเมียจัดการลงประชามติ ในเรื่องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลยอดค้าปลีกและการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ แสดงถึงสัญญาณเศรษฐกิจที่สดใสมากขึ้น และหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ต่อไป ได้เป็นแรงฉุดรั้งการขยับขึ้นของราคาทองคำเบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นเหนือโซน 1,357 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งต้องรอดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำว่าจะสามารถยืนในบริเวณ 1,385 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งหรือไม่ หากสามารถยืนได้ประเมินว่าราคาทองคำจะขยับขึ้นชนแนวต้านในโซน 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,357 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งนักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,357 หรือ 1,345 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลังแบบ Sideway Up โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,385 หรือ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,357 (20,750บาท) 1,345 (20,560บาท) 1,333 (20,380บาท)
แนวต้าน 1,385 (21,180บาท) 1,400 (21,410บาท) 1,414 (21,630บาท)
GOLD FUTURES (GFJ14)
แนวรับ 1,357 (20,910บาท) 1,345 (20,720บาท) 1,333 (20,540บาท)
แนวต้าน 1,385 (21,340บาท) 1,400 (21,570บาท) 1,414 (21,780บาท)
SILVER FUTURES (SVJ14)
แนวรับ 21.10 (670 บาท) 20.85 (666 บาท) 20.50 (654 บาท)
แนวต้าน 21.50 (687 บาท) 21.75 (695 บาท) 22.00 (712 บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148