สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 17, 2014 10:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,372 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,382 เหรียญ/ออนซ์(22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.26 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20,950 บาท กับ 21,050 บาท และกลับมาปิดที่ 20,900 บาท กับ 21,000 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 529 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,424 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1% แบบ 10 บาท ลดลง 2% GFJ14 ปิด 21,270 บาท และ GFM14 ปิด 21,340 บาท GF10J14 ปิดที่ 21,270 บาท GF10M13 ปิดที่ 21,340 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 6.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,379 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 21.5 เซ็นต์ ปิดที่ 21.41 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 816.59 ตัน (ซื้อเข้า 3.29 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 69 เซ็นต์ ปิดที่ 98.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 43.22 จุด ปิดที่16,065.67 จุด ข่าวที่สำคัญ ทองคำทะยานตัวขึ้น15% ที่ความตึงเครียดในคาบสมุทรไครเมียระหว่างยูเครนกับรัสเซีย อีกทั้งเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ได้ประกาศกดดันตลาดหุ้นให้ร่วงลงต่ำสุดและร่วงลงยาวนานติดต่อกันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี2012 ฟิลล์ สตายเบิ้ลนักวิเคราะห์จากอาร์เจโอเบรียนกล่าวว่านักลงทุนออกจากตลาดที่มีความเสี่ยงมากกว่าอย่างหุ้นหันเหเข้าตลาดทองคำอย่างมาก SPDR เข้าถือครองทองคำเพิ่มอีก 3.29ตัน สู่ระดับ 816.9ตัน รายงานจากคิทโก้ระบุว่าการประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าที่ทำให้นักลงทุนอาจเริ่มลังเลในการชะลอการลดเม็ดเงินอัดฉีดแต่ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ส่วนมากยังคงให้การคาดการณ์เดิมว่ายังคงที่จะลดเม็ดเงินอัดฉีดในระบบ สองปัจจัยหลักที่จะมีผลสัปดาห์หน้าต่อราคาทองคำจะมีเรื่องการเลือกตั้งในพื้นที่ไครเมียของยูเครน และการประชุมเฟด 2 วัน ผลสำรวจจากคิทโก้ได้รับการตอบรับทั้งหมด 25ราย สำหรับสัปดาห์นี้ 21 รายมองว่าราคาจะทะยานตัวขึ้นต่อ 2รายมองว่าราคาร่วงลง และอีก 2รายมองว่าราคาจะไม่เปลี่ยนแปลง เดบบี้ คาร์สันนักวิเคราะห์จากคิทโก้ระบุว่า ทองคำทะยานตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งมีโอกาสสูงที่จะขึ้นไปทดสอบที่ 1,400เหรียญได้ในสัปดาห์หน้า นักวิเคราะห์จากบลูมเบริ์กระบุว่าการทะยานตัวขึ้นของทองคำอาจได้รับแรงจำกัดเพราะเขาเชื่อว่าเฟดจะมีการปรับลดเม็ดเงินอัดฉีดลงอีก รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหภาพยุโรปจะเดินทางประชุมไปร่วมประชุมที่กรุงบัสเซลในวันนี้ที่แสดงการไม่ยอมรับวีซ่าและระงับทรัพย์สินบางส่วนที่ได้ดำเนินการไว้กับรัสเซียในฐานะที่รัฐบาลปูตินนั้นได้ทำการเข้ายึดครองพื้นที่คาบสมุทรไครเมียและจะทำการประชุมเหล่าผู้นำอีกครั้งในวันที่ 20-21 มีนาคมนี้โดยที่อาจจะต้องเพิ่มเงื่อนไขจากเดิมมากขึ้น กลุ่มวีโต้(Veto)ชาติอภิสิทธิ์ในกลุ่มสมาชิกทั้ง 13 ประเทศได้ร่วมกันยับยั้งในปัญหาพื้นที่คาบสมุทรไครเมียต่อสหประชาชาติหรือว่า ยูเอ็นว่าการยึดพื้นที่ดังกล่าวของรัสเซียนั้นควรอยู่ในสถานะโมฆะขณะที่การประชุมดังกล่าวประเทศจีนงดการออกเสียงในการแสดงมติต่อยูเอ็น ทางการจีนได้ทำการจัดสรรเงินงบประมาณมากกว่า 1 พันล้านล้านหยวนหรือ 163 พันล้านเหรียญสหรัฐฯเพื่อฟื้นฟูย่านชานติทาวน์ (Shantytown) ด้วยการสร้างระบบเทคโนโลยีสื่อสารและเครื่องจักรต่างๆเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรในพื้นที่แถบชนบท ค่าเงินเยนยังคงแข็งค่าจากมาตรการคว่ำบาตรในการกระทำของรัสเซียที่ได้เข้ายึดคาบสมุทรไครเมียส่งผลให้เยนยังอยู่ในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในเวลานี้ ค่าเงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.44 เยนต่อดอลลาร์ และค่าเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3903 ยูโรต่อดอลลาร์ที่ก่อนหน้าแข็งค่าทะยานตัวขึ้นแตะที่ระดับ 1.3967 ยูโรต่อดอลลาร์แต่ได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นที่ร่วงลง ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลง2.3% จากความกังวลในการชะลอตัวลงของภาคเศรษฐกิจของจีนอีกด้วย ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยูเครน พร้อมกับจับตาดูการลงประชามติของเขตปกครองพิเศษไครเมียในยูเครนซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดวันนี้ที่ 14,254.32 จุด ลดลง 73.34 จุด หรือ -0.51% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพในยูเครน หลังจากผลนับคะแนนการลงประชามติบ่งชี้ว่าชาวไครเมียส่วนใหญ่ต้องการแยกตัวออกจากยูเครนและเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดแนวโน้มสัปดาห์นี้ (17-21 มี.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาสถานการณ์การเมืองไทย รวมถึงผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (18-19 มี.ค.) ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวาน - PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.2% ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ -0.1% - Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.2% ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ -0.2% - Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 81.2 ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ 79.9 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้ - Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 4.5 คาดการณ์ออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 6.6 - TIC Long-Term Purchases ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -45.9B คาดการณ์ออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 23.4B ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 โดยที่ไปทำจุดสูงสุดประมาณ 1,385 เหรียญ จากความตึงเครียดในแถบคาบสมุทรไครเมีย และเมื่อวานนี้ 16 มี.ค. ประชาชนส่วนใหญ่เลือกจะไปอยู่รัสเซียมากกว่า 80% คงต้องดูต่อไปว่าท่าทีของสหรัฐอเมริกาและอียูที่จะมีต่อรัสเซียจะเป็นอย่างไร ขณะที่ SPDR เข้าซื้อทองคำต่อเนื่องอีก 3.29 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 816.59 ตัน สำหรับคืนนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสองตัวได้แก่ Empire State Manufacturing Index ที่จะออกมาดีขึ้นสู่ระดับ 6.6 จุด และ TIC Long-Term Purchases ที่จะปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 2.34 หมื่นล้านเหรียญดอลลาร์ ซึ่งสองตัวนี้จะมีผลอย่างมากต่อค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลุดระดับ 32.30 บาท/ดอลลาร์ ลงมาอีกครั้ง อยู่บริเวณ 32.28 บาท/ดอลลาร์ โดยคาดว่าค่าเงินบาทจะเคลื่อนในกรอบ 32.20 – 32.35 บาท/ดอลลาร์ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว โดยที่กราฟในระยะยาว Weekly Chart เริ่มปรับค่าขึ้น 0 ใน Oscillator ต่างๆ โดยเฉพาะ MACD ราคาทองคำจะมีแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,400 เหรียญ และมีแนวต้านสำคัญที่เป็นจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 1,425 เหรียญ แนวรับขยับขึ้นมาที่ระดับ 1,365 เหรียญ ในขณะที่เงินบาทมีแนวรับสำคัญ 32.20 บาท/ดอลลาร์ ถ้าหลุดแนวนี้ลงมาอาจจะเห็นที่ 32.00 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งอาจทำให้ราคาทองของไทยปรับตัวสูงขึ้นไม่มากนัก โดยทองไทยมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 21,400 บาท/บาททองคำ เป็นระดับสำคัญในทองคำแท่ง และมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 20,800 บาท/บาททองคำ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังเป็นการลงทุนตามทิศทางขาขึ้น ตามแนวโน้มตลาด -นักลงทุนที่ถือ Long Position หาจังหวะปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน ซื้อกลับเมื่อราคาอ่อนตัว -นักลงทุนที่ถือ Short Position ยังคงแนะนำให้ปิดสถานะ Short และกลับมาเปิดสถานะ Long Gold Futures J14 จะมีแนวรับที่ระดับ 21, 200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,400 บาท Gold Futures M14 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,270 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,470 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. รายการ “รู้ก่อนรวยกว่า” ทางสถานี TNN24 มีการเปิดสายด่วนเพื่อให้นักลงทุนสอบถามเรื่องการลงทุนในทองคำและทิศทางแนวโน้มของทองคำได้ในช่วง“คลินิกการลงทุน” ทุกวันจันทร์และวันศุกร์ เวลา 13.05-13.30น. โดยติดต่อได้ที่หมายเลข 02-725-7997 2. รายการ Gold Tonight by MTS Gold ทางสถานี Money Channel กลับมาออกอากาศได้ตามปกติ เวลาเดิม 21.30 – 21.35น. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ