GUNKUL ตอกย้ำปีนี้ขอทำผลงานโตแบบจัดเต็ม โชว์กำไรปี 56 พุ่ง 868 ลบ./ผถห.เริงร่ารับหุ้นปันผลพร้อมเงินสด

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 17, 2014 13:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--IR network บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ตอกย้ำปี 2557 ขอโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ต้อนรับการกลับมาของรายได้จากการส่งออกไปยังเมียนม่าร์ พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนอย่างครบวงจรทั้งผู้ผลิตไฟฟ้าและงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า (EPC) ดันรายได้รวมปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 50% “สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย” โชว์กำไรปี 56 ของ GUNKUL โต 867.81 ล้านบาท และสร้างเซอร์ไพรส์เอาใจผู้ถือหุ้น มอบโชคสองชั้นปันผลเป็นหุ้นอัตราส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นอัตราการจ่ายหุ้นปันผล 0.333 บาทต่อหุ้น และจ่ายปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.038 บาท รวมจ่ายหุ้นปันผลและเงินสดเท่ากับอัตราหุ้นละ 0.371 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปีนี้น่าจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ต้อนรับการกลับมาของรายได้ส่งออกไปยังประเทศสหภาพเมียนม่าร์ ตามที่บริษัทได้แจ้งข่าวกับทางตลาดหลักทรัพย์ไปแล้วประมาณ 500 ล้านบาท ประกอบกับบริษัทมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 60 เมกะวัตต์ ที่ตำบลห้วยบง จำนวน 2 โครงการ ภายในระยะเวลา 2 ปีนี้ โดยจะดำเนินการผ่านบริษัท พัฒนาพลังงานลม จำกัด (ถือสัดส่วน 70%) ขนาด 60 เมกะวัตต์ และบริษัท กรีโนเวชั่น เพาเวอร์ จำกัด (ถือสัดส่วน 100%) ขนาด 60 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนอย่างครบวงจร ทั้งการเป็นผู้ผลิตไฟฟ้า รวมถึงงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า (EPC) เพื่อผลักดันธุรกิจของกลุ่มบริษัทให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยวางเป้าหมายรายได้รวมในปี 2557 เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% หรือ 3,000 ล้านบาท “บริษัทยังคงมุ่งเน้นผลักดันให้ผลการดำเนินงานในทุกภาคส่วนของธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตในส่วนของอัตรากำไรสุทธิ หรือ รายได้รวม โดยมีเป้าหมายสำคัญในการเป็นผู้นำธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนอย่างครบวงจร ทั้งการเป็นผู้ผลิตไฟฟ้า รวมถึงงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า (EPC) เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวต่อผู้ถือหุ้น” สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2556 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556) ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 867.81 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 768.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 99.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.95% โดยรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างลดลงเป็นจำนวน 681.39 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันกับปีก่อนที่มีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างจำนวน 2,318.06 ล้านบาท เนื่องจากมีการเลื่อนลงนามสัญญารับเหมาก่อสร้างงานติดตั้งระบบไฟฟ้ารวมถึงการจัดหาอุปกรณ์จาก บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) และงานก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จาก บริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี (ชัยภูมิ) จำกัด และ บริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี (นครราชสีมา) จำกัด ขณะที่รายได้จากการขายรวมลดลงอยู่ที่ 1,302.40 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,876.47 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของรายได้ส่งออกไปยังต่างประเทศ (สาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์) ด้านรายได้ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าลดลงอยู่ที่จำนวน 19.21 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 98.24 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้จำหน่ายเงินลงทุนของ บริษัท จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด 60% ให้บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน), บริษัท กันกุล ชูบุ พาวเวอร์เจน จำกัด 49% ให้กับ บริษัท ชูบุ อีเล็คทริค เจ็ม บีวี ส่งผลให้การรับรู้รายได้ในส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เปลี่ยนเป็นการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนและบริษัทที่ควบคุมร่วมกันอยู่ที่จำนวน 150.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันกับปีก่อน (ปี 2555 แสดงจำนวน -48.67 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ส่วนของรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นอยู่ที่จำนวน 41.59 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่จำนวน 12.75 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับสัญญาว่าจ้างการดูแลและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วจากบริษัทร่วมและลูกค้าภายนอกเพิ่มขึ้น และในส่วนของต้นทุนจากการรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่จำนวน 613.95 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่จำนวน 1,755.41 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 65.03% ส่วนต้นทุนขายอยู่ที่จำนวน 952.05 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันกับปีก่อนอยู่ที่จำนวน 1,475.63 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 35.48% ซึ่งการลดลงของต้นทุนในการรับเหมาก่อสร้างและต้นทุนขายเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างและรายได้จากการขายที่ลดลง พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2557 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2556 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556) ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 3 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล รวมจำนวน 220,000,000 บาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล 0.333 บาทต่อหุ้น และจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.038 บาท คิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 25,080,000 บาท รวมเป็นการจ่ายปันผลทั้งในรูปแบบของหุ้นปันผลและเงินสดทั้งปี เท่ากับอัตราหุ้นละ 0.371 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 22 เมษายน 2557 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 23 เมษายน 2557 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 18 เมษายน 2557 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2557

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ