กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส
- ทองร่วงสัปดาห์แรกหลังปิดบวกต่อเนื่อง 6 สัปดาห์
- SPDR ถือทองเพิ่มขึ้น 4.19 ตัน
- ปัญหาไครเมียช่วงสุดสัปดาห์เริ่มกลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทอง
- ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์แรก หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันตลอด 6 สัปดาห์ก่อนหน้า ประเด็นปัญหาระหว่างรัสเซียและยูเครนที่เริ่มคลี่คลาย และคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐในช่วงกลางสัปดาห์เป็นปัจจัยลบที่กดดันให้ราคาทองปรับตัวลงในปริมาณมาก
- การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้โดยรวมแล้วคาดว่าจะแกว่งตัวขึ้นลงระหว่างแนวรับและแนวต้านบริเวณ 1,320-1,390 ดอลลาร์ ปัจจัยลบจากคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐซึ่งส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังมีการยุติการผ่อนคลายทางการเงิน ยังคงกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ในกรอบจำกัด แต่เงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงยังคงส่งผลบวกต่อราคาทองในประเทศ
- สัปดาห์นี้การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐโดยรวมมีแนวโน้มว่าจะออกมาดี ทั้งรายงานการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาสที่ 4 และรายงานตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ต่างมีแนวโน้มว่าจะส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งยังเป็นปัจจัยลบกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทอง อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ความตึงเครียดในไครเมียในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งกำลังทหารของรัสเซียพยายามเข้ายึดดินแดนในไครเมียที่มีฐานทัพของยูเครนตั้งอยู่อาจเป็นประเด็นที่ส่งผลให้ราคาทองเริ่มดีดตัวกลับ
- จากภาพการเคลื่อนไหวรายสัปดาห์ของราคาทองพบว่า ราคาดีดตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในการปรับขึ้นในรอบนี้ที่แนวต้านบริเวณ 1,390 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มอ่อนตัวลง และกลับลงมาเคลื่อนไหวต่ำสุดในสัปดาห์ก่อนที่แนวรับบริเวณ 1,315 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างกรอบแนวรับและแนวต้านนี้ต่อไป โดยมีแนวรับและแนวต้านในระยะสั้นของวันอยู่ที่ 1,320 และ 1,342 ดอลลาร์ ตามลำดับ
- ราคาโลหะเงินอ่อนตัวลงติดต่อกันหลายวัน จึงมีแนวโน้มว่าอาจมีการดีดตัวทางเทคนิค ในระยะสั้นหากราคายังไม่กลับลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 20.0 ดอลลาร์ คาดว่าจะเริ่มมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้า
โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.57
Close chg. Support Resistance
20,590 -30.00 20,450/20,350 20,650/20,750
ราคาทองอ่อนตัวลงจากแนวต้านบริเวณ 1,342 ดอลลาร์ หากยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ สามารถถือครองสถานะขายเก็งกำไรต่อไป โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,345-1,350 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับสำหรับเก็งกำไรฝั่งซื้ออยู่ที่บริเวณ 1,320 และ 1,305 ดอลลาร์ ตามลำดับ