กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--โพลีพลัส พีอาร์
“เซ็นทรัลเอ็มบาสซี” พลิกบทใหม่แห่งวงการ “ลักชัวรี่ รีเทล”เปิดตัวแลนด์มาร์คแห่งเอเชีย มูลค่า 18,000 ลบ.ตั้งเป้าดันไทยขึ้นสู่เมืองแห่งการช้อปปิ้งระดับโลกด้วยคอนเซ็ปต์ “Infinite Possibilities” ทุกความเป็นไปได้ จะเกิดขึ้นที่นี่
กลุ่มเซ็นทรัล พลิกโฉมใหม่แห่งวงการลักชัวรี่รีเทล เดินหน้า เต็มสูบพร้อมเปิดตัว “โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี” ปรากฏการณ์ใหม่ของไลฟ์สไตล์แห่งการ ช้อปปิ้งระดับหรู สร้างชีวิตให้กับโครงการ “ไอคอนนิค รีเทล แลนด์มาร์ค” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Infinite Possibilities” ทุกความเป็นไปได้จะเกิดขึ้นที่นี่ กับสินค้าแบรนด์ระดับไฮเอนด์กว่า 200 ร้านค้า บนพื้นที่ใจกลางเซ็นทรัลแบงค็อก ด้วยมูลค่าโครงการรวมกว่า 18,000 ล้านบาท ตั้งเป้าดันไทยขึ้นสู่เมืองแห่งการช้อปปิ้งระดับโลก
ชาติ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ เผยว่า นับตั้งแต่วันที่ กลุ่มเซ็นทรัลประมูลที่ดินผืนงามขนาด 9 ไร่ ตรงสถานทูตเพลินจิตตัดกับถนนวิทยุได้ในปี 2549 เป็นเวลากว่า 7 ปีแห่งการรอคอย และในวันนี้ โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้เสร็จสมบูรณ์พร้อมอวดโฉมในวันที่ 8 พฤษภาคม ที่กำลังจะมาถึงนี้ วิสัยทัศน์ของกลุ่มเซ็นทรัล คือ การปักธงประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวแบบลักชัวรี่ไลฟ์สไตล์ โดยการเปิดตัว โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี พลิกโฉมตลาดลักชัวรี่ รีเทล ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่แห่งประสบการณ์ช้อปปิ้งระดับหรู และ เป็นความตื่นตาตื่นใจของประเทศไทยในฐานะไอคอนนิคแลนด์มาร์คร่วมสมัยที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็นจุดหมายใหม่แห่งสุดยอดลักชัวรี่ช้อปปิ้งของเอเชียที่ทั่วโลกจะต้องจับตามอง
“การสร้างโครงการระดับโลกเช่น โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี นั้นต้องใช้เวลาและความทุ่มเท เป็นอย่างมาก กลุ่มเซ็นทรัลใช้เวลากว่า 4 ปี ในการพัฒนาคอนเซ็ปต์จนตกผลึกเป็น โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ที่ชูแนวคิด “Infinite Possibilities : ทุกความเป็นไปได้ จะเกิดขึ้นที่นี่” และใช้เวลากับการก่อสร้างโครงการอีกกว่า 3 ปี เพื่อให้ทุกรายละเอียดของโครงการมีความสมบูรณ์ โดยใช้เม็ดเงินลงทุนเพื่อสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกบนพื้นที่โครงการ 144,000 ตารางเมตร เป็นมูลค่ากว่า 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นที่ดิน 6,000 ล้านบาท, โครงสร้าง 7,000 ล้านบาท และเงินลงทุนในการตกแต่งภายในของทางศูนย์และร้านค้าต่างๆ อีกกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นเงินลงทุนต่อตารางเมตรสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ รีเทลของไทย เพื่อให้ได้มาซึ่งผลงานที่ไร้ที่ติอย่างที่ไม่เคยมีศูนย์การค้าใดในโลกทำได้มาก่อน โดยการผสมผสานมุมมองทางศิลปะเข้าไปในทุกๆ รายละเอียดของการออกแบบ จึงนับว่า โครงการ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เป็นงานศิลปะชิ้นเอกของวงการรีเทลโลกเลยทีเดียว โดยคาดว่าหลังจากเปิดตัวจะมีจำนวนลูกค้าหมุนเวียน 5 – 6 หมื่นคนต่อวัน โดยเป็นลูกค้าชาวต่างชาติจากทั่วโลกถึงร้อยละ 50”
โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดดเด่นกว่าศูนย์การค้าระดับหรูอื่นๆ ในเอเชีย นอกเหนือจากเรื่องของ ไอคอนนิคดีไซน์ (Iconic Design) แล้ว เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ยังเป็นแห่งแรกที่จะเปิดตัว 7 Façade Brands คือ Bottega Veneta, Chanel, Gucci, Hermes, Miu Miu, Prada, และ Ralph Lauren ในรูปแบบ ไอคอนนิค สโตร์ (Iconic Store) ที่นำเสนอรูปแบบร้าน Duplex 2 ชั้น โดย Façade ของทั้ง 7 แบรนด์ถูกสร้างจากกระจกโค้งไร้รอยต่อแห่งแรกในโลก ด้วยการตกแต่งที่ผสมผสานศิลปะระดับหรูและเลือกเฟ้นวัสดุจำเพาะอย่างปราณีตส่งตรงมาจากทั่วมุมโลก นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์หรูกว่า 200 แบรนด์ ที่พาเหรดเรียงแถวมาเปิดตัวร้านในรูปแบบใหม่ล่าสุดโดยการผสานศิลปะเข้าไปในทุกรายละเอียดและไลน์สินค้าที่ครบสมบูรณ์ที่สุด อาทิ A.P.C., BCBG Max Azria, Calvin Klein Collection, CH Carolina Herrera, Christian Louboutin, Givenchy, Isabel Marant, Jil Sander, John Varvatos, Maison Martin Margiela, McQ, Moschino, Mulberry, Paul Smith, Proenza Schouler, Red Valentino, Roberto Cavalli, Saint Laurent, Tom Ford, Versace และแบรนด์ watch & jewelry อาทิ Anyallerie, Audemars Piguet, Chavana, Chopard, Hublot, Pomellato รวมถึงร้านอาหารดังจากทุกมุมโลกและโรงภาพยนตร์ “The Embassy Diplomat Screens” ที่จะมาสร้างประสบการณ์ใหม่แห่งการชมภาพยนตร์ซึ่งเปรียบเสมือนการเดินทางของการบริการระดับเฟิร์สคลาส พร้อมกันนี้ยังเป็นที่ตั้งของ โรงแรม ปาร์ค ไฮแอท กรุงเทพ (Park Hyatt Bangkok) สุดยอดแห่งโรงแรมระดับ 6 ดาว ซึ่งมีเพียง 36 สาขาทั่วโลกเท่านั้น จะมาเปิดตัวที่ โครงการเซ็นทรัลเอ็มบาสซี เป็นแห่งแรกในประเทศไทย
คุณชาติ กล่าวต่อไปว่า “สำหรับงานเปิดตัว โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ที่กำลังจะมีขึ้น ในวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2557 นี้ เราทุ่มทุนกว่า 100 ล้านบาท นำมาเนรมิตงานแกรนด์โอเพนนิ่งซึ่งเต็มไปด้วยสุดยอดความเซอร์ไพรส์ จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแขกที่มาร่วมงาน พร้อมกันนี้หลังจากวันเปิดเรายังมุ่งสร้างโมเมนตั้มอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมงบประมาณอีกกว่า 200 ล้านบาท เพื่อสร้างสรรค์ “เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซิกเนเจอร์อีเว้นท์” (Central Embassy Signature Event) ตลอดทั้งปี โดยรูปแบบของกิจกรรมที่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี จะนำมาเปิดตัวนั้นจะเป็นงานที่ผสมผสานศิลปะในรูปแบบต่างๆ เพื่อจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้มาร่วมงานทุกๆ คนอย่างแน่นอน
ทั้งนี้เป้าหมายแห่งความทุ่มเททั้งหมดไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างงานชิ้นเอกของกลุ่มเซ็นทรัล แต่ยังเป็นการนำประเทศไทยขึ้นสู่การเป็นประเทศแนวหน้าในตลาดลักชัวรี่ไลฟ์สไตล์ โดยทางบริษัทฯ จะนำโมเดลของ โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี มาขยายผลต่อในจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทยที่มีศักยภาพเพื่อเติมเต็มทุกความต้องการด้านลักชัวรีช้อปปิ้งของลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ”
“ปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยจำนวน 26.7 ล้านคนต่อในปี 2556 สร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.18 ล้านล้านบาท (มกราคม – กันยายน 2556 : ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) แต่คนเหล่านี้มีความสนใจในการช้อปปิ้งเพียงร้อยละ 10 จากกิจกรรมทั้งหมดเท่านั้น (ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) ซึ่งนับว่าน้อยมากหากเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ทั้งนี้เป้าหมายระยะยาวของ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี คือการเพิ่มยอดการใช้จ่าย ในแง่ของการช้อปปิ้งขึ้นให้ทัดเทียมกับประเทศฮ่องกง, สิงคโปร์หรือญี่ปุ่น รวมถึงการสร้างจุดเด่นอีกหนึ่งความภูมิใจของประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กันมาท่องเที่ยวประเทศไทยให้มากขึ้น และร่วมขับเคลื่อนให้ประเทศไทยขึ้นเป็นสวรรค์ของการช้อปปิ้งในภูมิภาคเอเชียอย่างแท้จริง” คุณชาติ กล่าวทิ้งท้าย
รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด
โทร. 0-2100-9797 แฟ็กซ์ 0-2100-9777
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท โพลีพลัส พีอาร์ จำกัด 0-2572-4444 ต่อ 351, 354