ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่มีประกัน “บ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น” เป็น “AA” จาก “AA-” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 3, 2014 14:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “AA” จาก “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจของบริษัทที่แข็งแกร่งขึ้นโดยมีปัจจัยเกื้อหนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม การประหยัดต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ และกฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้นและส่งผลในทางบวกต่ออุตสาหกรรม ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังรวมถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัทและส่วนแบ่งทางการตลาดที่เข้มแข็งอีกด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวมีข้อจำกัดบางประการจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมสื่อสารแบบไร้สายและวัฏจักรของการลงทุนขนาดใหญ่ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงความสามารถในการแข่งขันและการดำเนินงานที่แข็งแกร่งไว้ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังให้บริษัทให้บริการบนโครงข่าย 3จี มากขึ้นซึ่งจะได้ประโยชน์จากต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ที่ประหยัดได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจได้รับแรงกดดันให้ต้องปรับลดลงหากอัตราส่วนหนี้สินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของบริษัทสูงเกิน 1.3 เท่าอย่างต่อเนื่อง สถานะทางธุรกิจที่แข็งแรงมากของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดของบริษัทที่แข็งแกร่งโดยเป็นผู้ประกอบธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 30% ของจำนวนลูกค้าและรายได้จากการให้บริการทั้งหมด ณ สิ้นปี 2556 บริษัทมีลูกค้าทั้งสิ้นจำนวน 27.9 ล้านราย และสร้างรายได้ 94,617 ล้านบาท สถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งช่วยให้บริษัทมีรายได้และกระแสเงินสดที่แน่นอน ธุรกิจที่แข็งแรงของบริษัทยังคงได้รับแรงหนุนจากตราสินค้าที่มีชื่อเสียงและโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ครอบคลุม นอกจากนี้ การจัดอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงความช่วยเหลือและการสนับสนุนแบบกลุ่มจาก Telenor ASA (Telenor) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านสื่อสารโทรคมนาคมจากประเทศนอร์เวย์ด้วย โดย ณ เดือนธันวาคม 2556 Telenor ถือหุ้นในสัดส่วน 42.6% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท บริษัทมีรายได้ซึ่งไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม (Interconnection Charge -- IC) ในปี 2556 เพิ่มขึ้น 10.4% จากปีก่อน ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นจากระดับการเติบโตที่ 5%-8% ต่อปีในช่วงปี 2553-2555 โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของบริการด้านข้อมูลเป็นสำคัญที่เกิดจากกระแสความนิยมในสังคมเครือข่ายที่ติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต (Social Network) และราคาที่ย่อมเยาลงของโทรศัพท์แบบ Smartphone บริษัทเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านโครงข่ายโทรศัพท์ 3จี (3G) บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz (Gigahertz) ในเดือนกรกฎาคม 2556 ณ สิ้นปี 2556 บริษัทมีลูกค้าประมาณ 12 ล้านรายบนโครงข่าย 3จี หรือคิดเป็นประมาณ 43% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด ในปี 2556 รายได้จากบริการเสริม (Value-added Service -- VAS) ซึ่งรวมถึงบริการอินเทอร์เน็ต ส่งข้อความ และสื่อดิจิตอลที่ใช้งานบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัทเติบโตอย่างมากถึง 49% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ระดับ 36% ในช่วงปี 2557-2559 สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตโดยเฉลี่ย 5% ต่อปี โดยปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจจะมาจากบริการด้านข้อมูล ทั้งนี้ การเติบโตที่แข็งแกร่งในบริการด้านข้อมูลจะชดเชยการลดลงของรายได้จากบริการด้านเสียงและช่วยรักษากระแสรายได้ของบริษัท บริษัทมีอัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) อยู่ที่ 31.3% ในปี 2556 ปรับตัวดีขึ้นจาก 29.8% ในปี 2555 โดยเป็นผลมาจากการได้ประโยชน์จากต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ (Regulatory Cost) ที่ประหยัดได้ โดยลดลงจากระดับ 32.5% ของรายได้ซึ่งไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมในปี 2555 มาอยู่ที่ 31% ในปี 2556 ต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ภายใต้ใบอนุญาตอยู่ที่ 5.25% ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ภายใต้สัญญาสัมปทานที่ 30% ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรของบริษัทในช่วงปี 2557-2559 จะอยู่ในช่วง 34%-37% อัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้นสะท้อนความคาดหวังในต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลงจากฐานลูกค้าบนโครงข่ายโทรศัพท์ 3จี ที่เพิ่มขึ้น ความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทได้รับแรงหนุนจากความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่เข้มแข็งขึ้นและระดับสภาพคล่องที่เพียงพอ โดยเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้นจากระดับ 22,000 ล้านบาทต่อปีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามาอยู่ที่ระดับ 25,682 ล้านบาทในปี 2556 ทริสเรทติ้งคาดว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตต่อเนื่องไปอยู่ในช่วง 29,000-35,000 ล้านบาทต่อปี โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมจะสูงกว่า 90% ในปี 2557-2559 ระดับภาระหนี้ของบริษัทในปี 2556 ปรับสูงขึ้นเล็กน้อยจากปีกก่อนอันเป็นผลจากการขยายโครงข่าย 3จี อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน ณ สิ้นปี 2556 เพิ่มเป็น 49% จากระดับ 46.5% ในปี 2555 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนในช่วงปี 2557-2559 โดยรวมประมาณ 30,000 ล้านบาทสำหรับการขยายโครงข่าย ทั้งนี้ อันดับเครดิตได้พิจารณารวมไปถึงค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติมในช่วงปี 2557-2559 จากค่าใบอนุญาตใบใหม่ โดยประมาณการต้นทุนอยู่ในช่วงราคาใกล้เคียงกับต้นทุนใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2.1 GHz แม้จะเข้าสู่การลงทุนรอบใหม่ แต่บริษัทจะยังคงการจ่ายเงินปันผลในระดับสูง ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถรักษาสมดุลเพื่อคงระดับอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับไม่เกิน 50% และรักษาระดับสำรองทางการเงินที่เพียงพอไว้ด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ