“SUTHA” ปิดเทรดวันแรกพุ่ง 67.57% จากราคาไอพีโอ วิ่งสวนทางดัชนีตลาดฯปรับลด ย้ำพื้นฐานบริษัทฯสุดแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 4, 2014 08:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--IRPLUS “SUTHA” เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ วันแรก ปิดตลาดราคาหุ้นบวกเพิ่ม 67.57 % มาปิดตลาดที่ 6.20 บาท จากราคาจอง 3.70 บาท มูลค่าการซื้อขายกว่า 2,639.65 ล้านบาท “เชิดเกียรติ มนต์เสรีนุสรณ์” ประธาน กรรมการ เผยพอใจกับการปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นและ เชื่อว่าปัจจัยพื้นฐานบริษัทแข็งแกร่งจากการเติบโตของรายได้ การขยายตัวธุรกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดมีปันผลตามนโยบายไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ จากผลประกอบการงวดปี 57 ชี้อาจมีปันผลระหว่างกาล นายเชิดเกียรติ มนต์เสรีนุสรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท สุธากัญจน์ จำกัด (มหาชน) หรือ SUTHAผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า ปูนขาวร้อน (Quicklime) รายใหญ่ของประเทศและมีประสบการณ์มากว่า 10 ปี และมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมากว่า 40 ปี รวมทั้งแคลเซียมคาร์บอเนต ที่มีการใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมเหล็ก กระดาษ น้ำตาล เป็นต้น เปิดเผยถึง การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ วันนี้ (3 เมษายน 2557) เป็นวันแรกว่า รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์วันแรก โดยราคาเปิดตลาดอยู่ที่ 4.00 บาท จากราคาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก หรือ (IPO) ที่ 3.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือคิดเป็น 8.11% และปิดการซื้อขายที่ราคา 6.20 บาท ปรับเพิ่มขึ้นถึง 2.50 บาท หรือคิดเป็น 67.57% ซึ่งการปรับเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และต้องการให้ SUTHA เป็นหุ้น Growth Stock และ Dividend Stock ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายในการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 และกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ตระกูล“มนต์เสรีนุสรณ์” เป็นผู้บริหารด้วยนั้นยืนยันไม่มีแนวคิดที่จะขายหุ้นออกไปแม้หุ้นที่ถืออยู่จะติดไซเลนพีเรียดหรือไม่ติดไซเลนพีเรียด สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ลงทุนในการขยายกำลังการผลิต และลดต้นทุนการผลิต ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างการเติบโตของบริษัท เชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน จนทำให้เข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเพิ่มเติมเพื่อลงทุนหวังผลตอบแทนในระยะยาว “ผมพอใจมากกับราคาเปิดซื้อขายและราคาปิด เพราะแสดงถึงการค่อยปรับเพิ่มขึ้นของราคาไม่หวือหวามากเกินไป เพราะเราต้องการอย่างนี้ ถ้าหวือหวาเกินไปไม่ดีสำหรับนักลงทุน ประกอบกับเชื่อมั่นปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทการเติบโตของรายได้ กำไร ต่อเนื่องในระยะ3-5 ปีข้างหน้าทั้งในประเทศและต่างประเทศเรายังยืนยันจะเป็นบริษัทฯ ที่จ่ายปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราที่ดีถึง 40%ของกำไรสุทธิด้วย และอาจเห็นการจ่ายปันผลระหว่างกาล และกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ยืนยันว่าจะไม่ขายหุ้นออกไปแม้จะติดหรือไม่ติดไซเรนพีเรียด” นายเชิดเกียรติ กล่าว ด้านผลประกอบการงวดปี 2556 บริษัทมีรายได้รวม 857.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2555 ที่มีรายได้รวมจำนวน 837.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.31 จากปีก่อน โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากในประเทศร้อยละ 89-95 ซึ่งช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเพิ่มกำลังการผลิต ราคาขายรวมทั้งการขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีกำไรสุทธิงวดปี 2556 ที่ 100.88ล้านบาทคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 11.77% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ 38.60%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ