ดัชนีเชื่อมั่นทองคำเม.ย.ลด ผู้ลงทุน-ผู้ค้าเห็นสวนทาง เชื่อยูเครนและนโยบายเฟดกระทบ กรอบ 1,200-1,340 ดอลล์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 11, 2014 15:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--GT Wealth Management ศูนย์วิจัยทองคำเผยดัชนีเชื่อมั่นทองคำเดือนเม.ย.ลดลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือนอยู่ที่ระดับ 48.01 จุด เหตุผู้ลงทุนมองเชิงลบ แต่ผู้ค้ามองแนวโน้มดี แต่ให้น้ำหนักปัจจัยกระทบคล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะแนวนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และค่าเงินบาทผัวผวน ส่วนประเด็นข้อพิพาทระหว่างยูเครน และรัสเซียเชื่อยังกระทบอีกยาว ให้กรอบราคาทองคำในตลาดโลก 1,200-1,340 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนเมษายน 2557 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำลดลงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุดครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 48.01 จุด ลดลงจากดัชนีในเดือนมีนาคม 5.72 จุด หรือลดลง 10.65% จากระดับ 53.73 จุด สะท้อนทัศนคติในเชิงลบเล็กน้อยต่อราคาทองคำเดือนเมษายน โดยกลุ่มผู้ลงทุนคาดราคาอ่อนตัว สะท้อนผ่านความเชื่อมั่นที่ลดลงจากเดือนก่อน ซึ่งสวนทางกับกลุ่มผู้ค้าที่มีค่าดัชนีที่ระดับ 56.39 จุด ที่สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำระหว่างเดือนเมษายน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในช่วงสามเดือนข้างหน้าจากการสำรวจพบว่า ดัชนีโดยรวมอยู่ที่ระดับ 54.57 จุด ที่แม้ว่าจะลดลงจากเดือนมีนาคม 5.15 จุด หรือ 8.63% แต่ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 จุด ทำให้เชื่อว่ากลุ่มตัวอย่างยังคงมีมุมมองระยะกลางต่อราคาทองคำในเชิงบวก โดยมองปัจจัยเรื่องความผันผวนของค่าเงินบาท ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการปรับเปลี่ยนนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยปัจจัยที่เชื่อว่าจะกระทบราคาทองคำในประเทศในช่วงหนึ่งเดือนนั้น กลุ่มผู้ลงทุนให้น้ำหนักกับประเด็นกับแนวนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ถึง 43.10% หลังมีการชะลอมาตรการ QE และสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย หลังการประชุมในช่วงกลางเดือนมีนาคม เฟดได้ส่งสัญญาณเรื่องดอกเบี้ยที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะสร้างความวิตกต่อตลาดการลงทุนว่าเฟดอาจจะเริ่มหันมาเข้มงวดมาตรการทางการเงินมากขึ้นหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวจะเป็นปัจจัยที่กระทบต่อราคาทองคำ เช่นเดียวกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด โดยเฉพาะอัตราการว่างงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และพร้อมกดดันราคาทองคำที่จะเคลื่อนไหวสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นค่าเงินบาทที่ให้น้ำหนัก 39.13% โดยเชื่อว่าระหว่างเดือนเมษายนค่าเงินบาทจะยังผันผวนในกรอบกว้าง จากการได้รับผลกระทบทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ อย่างปัจจัยการเมืองในประเทศ การปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นต้น ส่วนประเด็นข้อพิพาทยูเครนและรัสเซียที่ผลักดันราคาทองคำในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีการให้น้ำหนัก 38.56% โดยผู้ลงทุนมองว่าประเด็นดังกล่าวจะยังกระทบต่อราคาทองคำในระยะต่อไป ดร.ทรรศนะ บุญขวัญ เปิดเผยบทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 10 ตัวอย่าง เชื่อว่าราคาทองคำในประเทศในเดือนเมษายนน่าจะมีราคาเฉลี่ยใกล้เคียงกับเดือนมีนาคมหรือต่ำกว่า ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนเมษายน 2557 ของกลุ่มผู้ค้ามีค่าดัชนีที่ระดับ 56.39 จุด สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำ ขณะที่มองว่าราคาทองคำในตลาดโลกกรอบสูงสุดน่าจะอยู่ระหว่าง 1,340-1,420 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ขณะที่กรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดจะอยู่ที่ 1,200-1,280 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 95.5%) กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่ 20,500-21,500 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 18,500-19,500 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าทองคำมองปัจจัยที่คาดว่าจะกระทบราคาทองคำเช่นเดียวกับผู้ลงทุน คือ การชะลอมาตรการ QE และสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทิศทางค่าเงินบาท การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงข้อพิพาทระหว่างยูเครนและรัสเซียที่อาจทำให้ความวิตกภาวะสงครามและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมีสูงขึ้นส่งผลให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยมีสูงขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านราคาพลังงานในกรณีที่ข้อพิพาทบานปลายไปสู่การรบกันในภูมิภาค ขณะเดียวกัน ยังมีปัจจัยความต้องการทองคำในตลาดโลกเริ่มลดลง เนื่องจากอยู่ในช่วงนอกเทศกาลสำคัญ แม้จะมีความต้องการทองคำของธนาคารกลางสนับสนุนก็ตาม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ