กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,298 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,301 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.24 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,800 บาท กับ 19,900 บาท และกลับมาปิดที่ 19,800 บาท กับ 19,900 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,000 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,457 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.4% แบบ 10 บาท ลดลง 0.05% GFJ14 ปิด 19,940 บาท และ GFM14 ปิด 19,990 บาท GF10J14 ปิดที่ 19,940 บาท GF10M13 ปิดที่ 20,010 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 3.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,303.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น14.5 เซ็นต์ ปิดที่ 19.634 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 798.43 ตัน (ขายออก 8.39 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1 เซ็นต์ ปิดที่ 103.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 162.29 จุด ปิดที่ 16,424.85 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบที่ได้แรงสนับสนุนจากการเก็งกำไรและซื้อปิดสถานะ Short Covering อยู่บ้าง ทองคำกลับดูเหมือนว่าจะเริ่มทรงตัวหลังจากเกิดแรงเทขายกระหน่ำลงมาเมื่อ 2 วันก่อน พร้อมทั้งปัญหาภูมิศาสตร์ทางการเมืองและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯบางตัวยังคงหนุนราคาทองคำให้สูงอยู่ในเวลานี้
รายงานคิทโก้ระบุว่า จากคำกล่าวของประธานเฟด เจเน็ต แยลเลนเมื่อคืนนี้ก็ยังไม่ได้มีผลต่อตลาดมากนักตลาดยังคงไม่อ่อนไหวไปกับถ้อยคำดังกล่าว ส่วนปัญหาทางด้านยูเครนกับรัสเซียยังคงไม่ยุติซึ่งในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้จะเป็นวันหยุดที่อาจจะมีแรงซื้อทองคำตามเทศกาลและเป็นไปในรูปแบบสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอยู่บ้าง
SPDR ลดการถือครองทองคำลงอีก 8.39 ตันสู่ระดับ 798.43 ตันเมื่อคืนนี้
ทางการจีนมีการประกาศตัวเลขทางด้านการเติบโตของเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดิม 7.3% สู่ระดับ 7.4% ที่ส่งผลให้เกิดแรงซื้อทองคำแท่งในตลาดได้
จิม เวคคอฟ นักวิเคราะห์จากคิทโก้กล่าวว่าทองคำดูเหมือนเป็นภาวะอารมณ์กระทิงขาขึ้นแต่จะต้องทำการแตะตัวเหนือจุดเบรคให้ได้เสียก่อนแนวต้านแรกจะอยู่ที่ระดับ 1,320 เหรียญ และจุดเบรกแนวต้านที่ระดับ 1,331 เหรียญ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ระดับ 1,284 เหรียญ
เมื่อเย็นวานนี้ เลขาธิการด้านการคลังของอินเดียกล่าวว่า ธนาคารกลางของอินเดียอาจจะรอตัวเลขยอดดุลการค้าก่อน ในการพิจารณาที่จะผ่อนคลายมาตรการลดการนำเข้าทองคำ
คำกล่าวจากประธานเฟด เจเน็ต แยลเลนเมื่อคืนนี้ได้กล่าวเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินในเวลานี้ได้ใช้กฎในแบบแผนธรรมดาที่จะคอยปรับเปลี่ยนไปตามสภาวะที่เปลี่ยนแปลงและยังคงใส่ใจในระดับอัตราว่างงานที่ต้องการให้ประชาชนส่วนมากได้มีงานทำและมีรายได้สำหรับเรื่องอัตราดอกเบี้ยก็จะยังคงดำเนินการใช้แบบแผนเดิมเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจไปก่อน เยเลนสื่อว่า เฟดได้เตรียมที่จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำไว้ ตราบใดที่อัตราว่างงานยังอยู่ระดับสูง และเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าจะค่อยๆมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับปกติ ซึ่งอาจใช้เวลาถึง 2 ปี
สรุปภาพรวมและการคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟดหรือ Beige Book เมื่อคืนนี้ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้เติบโตขึ้นในส่วนใหญ่ของประเทศ เนื่องจากสภาพอากาศที่ดีขึ้นแล้ว โดยเฉพาะในส่วนภาคเหนือที่เคยโดนพายุหิมะไป และคาดว่าเศรษฐกิจส่วนใหญ่จะเติบโตได้ในระดับ “เล็กน้อยถึงปานกลาง” แต่อาจจะชะลอตัวในรัฐเคลฟแลนด์และเซนต์ หลุยส์
ขณะที่วิกฤตยูเครนกับรัสเซียยังคงไม่ยุติทั้งนี้รัฐบาลยูเครนได้ใช้กองกำลังทหารเข้าควบคุมกลุ่มผู้ประท้วงต้องคอยติดตามว่าหากเกิดความไม่แน่นอนทางการสหรัฐฯอาจส่งกองกำลังระดับชาติเข้าช่วยเหลือยูเครนเพื่อเป็นการตอบโต้และสนับสนุนให้ยูเครนมีการพัฒนาและดำเนินต่อไป
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากคำกล่าวของเจเน็ต แยลเลนที่จะยังคงใช้แบบแผนที่จะยังคงเป็นไปในเชิงกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง 0.1%เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรสู่ระดับ 1.3836 ยูโรต่อดอลลาร์ ขณะที่เทียบกับเยนร่วงลง 0.3% สู่ระดับ 102.09 เยนต่อดอลลาร์
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวเย็นรุนแรง
ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากนิกเกอิทะยานขึ้นแข็งแกร่งกว่า 3% เมื่อวานนี้ อันเป็นผลมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของจีนและการอ่อนค่าของเงินเยนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวาน
- Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.01M ออกมาลดลงที่ระดับ 0.99M
- Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.92M ออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.95M
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
-Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 300K คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 316K
-Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 9.0 คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 9.6
ทิศทางราคาทองคำ
ภาพรวมราคาทองคำเมื่อวานเคลื่อนตัวในกรอบแคบ หลังจากปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันอังคารเกือบถึง 30 เหรียญ โดยที่ทองคำได้รับแรงกดดันของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาค่อนข้างดี และความกังวลที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดยที่เมื่อวานนี้ SPDR เทขายทองคำออกมาอีก 8.39 ตัน เหลือการถือครองทองคำเพียง 798.43 ตัน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯในค่ำคืนนี้ ได้แก่ Unemployment Claims ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลง โดยมีผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานเพิ่มขึ้นประมาณ 16,000 ราย สู่ระดับ 316,000 ราย ขณะที่ Philly Fed Manufacturing Index คาดว่าจะออกมาดีขึ้น
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
โดยภาพรวมราคาทองคำในระยะสั้นกลับเป็นแนวโน้มขาลงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่หลุดระดับ 1,315 เหรียญลงมา วิเคราะห์ได้ว่าวันนี้น่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบเช่นเดิม ระหว่าง 1,290-1,310 เหรียญ สำหรับค่าเงินบาทเองก็ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบแข็งค่าเล็กน้อยบริเวณ 32.24 บาท/ดอลลาร์
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเป็นกลยุทธ์ในกรอบ 1,290-1,310 เหรียญ เน้นในทิศทางขาลงมากกว่า
นักลงทุนที่ถือ Long Position
พยายามปิดสถานะ Long เมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น และทำ Stop Loss เอาไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยงบริเวณ 1,290 เหรียญ
นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ทำกำไรเป็นช่วงๆ และเปิดสถานะ Short เพิ่มขึ้นบริเวณแนวต้าน
Gold Futures J14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,840 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,040 บาท
Gold Futures M14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,890 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,090 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ กลุ่มสาขาร้านทองแม่ทองสุก จะปิดทำการในช่วงระหว่าง 13-18 เม.ย.57 ได้แก่ ร้านทองดิโอลด์ ชั้น 1สาขาที่เปิดให้บริการตามปกติ ได้แก่ ร้านทองสาขาวงเวียนใหญ่ และร้านทองสาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น G
2. รายการ “รู้ก่อนรวยกว่า” ทางสถานี TNN24 ทุกวันจันทร์และวันศุกร์ เวลา 13.05-13.30น.
3. รายการ Gold Tonight by MTS Gold ทางสถานี Money Channel ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.30 – 21.35น. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป