กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--บลจ.แอสเซท พลัส
นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทยระยะสั้น แม้ว่าจะยังโดนกดดันจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศ แต่หากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า หากสถานการณ์ทางการเมืองไม่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจของประเทศไทยจะสามารถเดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่องทันที โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนสำคัญทางด้านการส่งออก และการท่องเที่ยว จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการฟื้นตัวของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ ที่ตัวเลขการจ้างงานและความมั่นใจผู้บริโภคอยู่ในระดับดี ด้านเศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจนมากขึ้น สะท้อนจากตัวเลข PMI ที่ยังคงปรับตัวดีขึ้น และอยู่ในระดับสูงกว่า 50 ซึ่งเป็นระดับที่สะท้อนมุมมองเศรษฐกิจขยายตัว ด้านญี่ปุ่น นโยบายการเงินผ่อนคลายผลักดันให้เงินเฟ้อสูงกว่า 1% ได้สำเร็จ และคาดการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 5% เป็น 8% และค่าเงินเยนผันผวนจะส่งผลลบในไตรมาส 2 อย่างไรก็ตาม คาดว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น จะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมหากตัวเลขเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ
ในส่วนของมุมมองด้านการลงทุน จากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบัน SET Index ได้สะท้อนการขยายตัวที่จุดต่ำของภาวะเศรษฐกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการลงทุนช่วงหุ้นขาลงถือเป็นโอกาสการลงทุนที่ดี อย่างไรก็ดี ค่า P/E ของตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 13-14 เท่า จากระดับ 11 เท่า โดยประเมินแนวโน้มของการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลการดำเนินงานของตลาดหุ้นไทยมีความเสี่ยงลดลง ซึ่งถือว่าตลาดหุ้นไทยเริ่มมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นและสามารถเรียกความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุนต่างชาติได้
“บริษัทฯเชื่อมั่นว่าการเลือกเข้าลงทุนในตลาดหุ้นในระดับปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะยังไม่เห็นผลตอบแทนที่ดีในระยะสั้น จากความไม่แน่นอนของปัจจัยทางการเมืองเพียงปัจจัยเดียว แต่หากพิจารณาจากความแข็งแกร่งของภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังปัจจัยการเมืองคลี่คลายแล้วนั้น กลับเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยในระยะยาว” นายรัชต์ กล่าว
นายรัชต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการเสนอทางเลือกการลงทุนในหุ้นไทยและรองรับการลงทุนในทุกช่วงเวลาที่เหมาะสม ดังนั้น ระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 9 พฤษภาคม นี้ บริษัทฯ เปิดเสนอขายกองทุนเปิด แอสเซทพลัสหุ้นไทย (ASP-THEQ) กองทุนเปิดไม่กำหนดอายุโครงการ เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทจดทะเบียนในประเทศ โดยเปิดซื้อขายทุกวันทำการ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการลงทุน ซึ่งกองทุน ASP-THEQ มีการบริหารเชิงรุก (Active management) โดยผู้จัดการกองทุนใช้การบริหารแบบปรับสัดส่วนระหว่างเงินสดและการลงทุนในหุ้น (Cash-Equity switching) การปรับเปลี่ยนการลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ (Sector rotation) ใช้กลยุทธ์การคัดเลือกหุ้น (Stock selection) โดยมีกระจายการลงทุน (Diversified portfolio) ในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐาน และมีศักยภาพที่ดี
“ความเหมาะสมของการเข้าลงทุนหุ้นไทย หากประเมินจากสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ผู้ลงทุนควรถือลงทุนในระยะประมาณ 1-2 ปี เพื่อรอให้ผลลัพธ์ทางการเมืองในประเทศมีความชัดเจน และประเทศมีการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้นโยบายเศรษฐกิจต่าง ๆ เริ่มเดินหน้าได้ ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่กองทุน ASP-THEQ สนใจลงทุน คือ กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อาทิ พลังงาน และปิโตรเคมี แต่หากการเมืองคลี่คลาย ปัจจัยเศรษฐกิจภายในปรับตัวดีขึ้น กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจเป็นลำดับต่อไป อาทิ ธนาคาร สื่อสาร และ อสังหาริมทรัพย์” นายรัชต์กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวน ได้ที่ Asset Plus Call Center 02-672-1111