กลุ่ม KTIS พร้อมเทรด 28 เมษายน ในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 28, 2014 15:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย - นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม KTIS ผู้นำธุรกิจน้ำตาลทรายที่มีกำลังการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก 55,000 ตันอ้อยต่อวัน เปิดเผยว่าจากการเสนอขายหุ้นของบริษัท ฯ ระหว่างวันที่ 21-23 เมษายน ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ได้รับการตอบรับและความสนใจจากนักลงทุนทั้งสถาบัน นักลงทุนรายย่อย รวมถึงชาวไร่อ้อยที่ต้องการเข้ามาเป็นเจ้าของโรงงาน ทั้งนี้บริษัทฯ จะเข้าทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 28 เมษายน ศกนี้ โดยจะเข้าเทรดในหมวดอาหารและเครื่องดื่มและใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า KTIS “จำนวนหุ้นที่กระจายในตลาดคิดเป็นร้อยละ 24.6 ของทุนจดทะเบียนของบริษัท หรือเท่ากับ 957,827,000 หุ้น ราคาพาร์ต่อหุ้นหุ้นละ 1 บาท และราคาเสนอขายต่อหุ้นหุ้นละ 10 บาท แบ่งเป็นหุ้นออกใหม่ของบริษัท 585,427,000 หุ้น และหุ้นที่ผู้ถือหุ้นเก่านำออกขาย 372,400,000 หุ้น โดยเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้เท่ากับ 5,854,270,000 บาท โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไป ลงทุนในการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อยอีก 2 แห่ง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทฯ ซึ่งมีขนาดรวม 100 เมกะวัตต์ ประมาณ 1,400 ล้านบาท โครงการผลิตน้ำเชื่อม (Liquid Sugar) และโครงการผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ (Super Refined Sugar) ประมาณ 980 ล้านบาท ลงทุนในการสร้างโรงงานปุ๋ยชีวภาพ ประมาณ 20 ล้านบาท และส่วนหนึ่งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นสิงคโปร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัท 2,082.3 ล้านบาท” นายประพันธ์กล่าวต่อไปว่า “ปัจจุบันกลุ่ม KTIS มีโรงงานน้ำตาลทรายรวม 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานน้ำตาลเกษตรไทย โรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ และโรงงานน้ำตาลรวมผลฯ ซึ่งโรงงานน้ำตาลเกษตรไทยเป็นโรงงานที่มีกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดในโลกถึง 55,000 ตันอ้อยต่อวัน และรวมกับโรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ที่มีกำลังการผลิต 18,000 ตันอ้อยต่อวัน โรงงานรวมผลฯที่มีกำลังการผลิต 15,000 ตันอ้อยต่อวัน เท่ากับว่าโรงงานน้ำตาลของบริษัทมีกำลังการผลิตรวม 88,000 ตันอ้อยต่อวัน นอกจากธุรกิจอ้อยและน้ำตาลแล้ว กลุ่มKTIS ยังดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างครบวงจร ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษฟอกขาวจากชานอ้อย ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล ธุรกิจไฟฟ้าชีวมวล และธุรกิจผลิตและจำหน่ายปุ๋ยชีวภาพ เป็นต้น ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมชั้นนำรายใหญ่ เช่น บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด บริษัท คาราบาว ตะวันแดง จำกัด บริษัท แลคตาซอย จำกัด บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า จำกัด บริษัท โอสถสภา จำกัด เป็นต้น สำหรับกลุ่มลูกค้าต่างประเทศนั้นส่วนใหญ่เป็นบริษัท เทรดดิ้งชั้นนำรายใหญ่ของโลก” “สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่ม KTIS ในปี 2556 นั้น มีรายได้จากการขาย และบริการ 18,052 ล้านบาท (ไม่รวมรายได้อื่น 787 ล้านบาท) รายได้รวมของกลุ่ม KTIS อยู่ที่ 18,052 ล้านบาท โดยรายได้จากธุรกิจอ้อยและน้ำตาลมีสัดส่วนร้อยละ 80 ของรายได้และรายได้จากธุรกิจอุตสาหกรรมต่อเนื่อง มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 20 ของรายได้ แบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจเอทานอล ร้อยละ 8.6 รายได้จากธุรกิจเยื่อกระดาษฟอกขาวจากชานอ้อย ร้อยละ 8.3 และรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลร้อยละ 1.5 และรายได้อื่นๆ ร้อยละ 2.9” นายประพันธ์กล่าว อนึ่ง กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) “กลุ่ม KTIS” ก่อตั้งโดยคุณจรูญ และคุณหทัย ศิริวิริยะกุล มีประสบการณ์ในธุรกิจอ้อยและน้ำตาลมานานกว่า 50 ปี ปัจจุบันดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาล และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างครบวงจร โดยได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 3,274,573,000 บาท เป็น 3,888,000,000 บาท เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 เพื่อรองรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 3,274,573,000 บาท และในปี 2556 ที่ผ่านมาสองบริษัทยักษ์ใหญ่ คือ ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น บริษัทเทรดดิ้งชั้นนำระดับโลก และนิสชิน ชูการ์ ผู้ผลิตน้ำตาลรีไฟน์รายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น ได้เล็งเห็นศักยภาพของกลุ่ม KTIS และได้ตัดสินใจลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ในปี 2556 ที่ผ่านมา เพื่อเข้ามาถือหุ้นในกลุ่ม KTIS หลังจากที่หุ้น KTIS เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ทั้งนี้ พันธมิตรทางธุรกิจทั้งสองจะนำความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ในการเป็นบริษัท เทรดดิ้งชั้นนำของโลกมาเพื่อขยายตลาดและฐานลูกค้า รวมถึงknowhowต่างๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มมูลค่าและความหลากหลายให้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม KTIS มากยิ่งขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ