กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,283 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,298 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.34 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,600 บาท กับ 19,700 บาท และกลับมาปิดที่ 19,650 บาท กับ 19,750 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,124 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,694 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 21% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 48% GFM14 ปิด 20,090บาท และ GFQ14 ปิด 20,150 บาท GF10M14 ปิดที่ 20,080 บาท GF10Q14 ปิดที่ 20,130 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 6.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,309 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 2.5 เซ็นต์ ปิดที่ 19.571 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 782.85ตัน (คงทองเท่าเดิมโดยวันศุกร์มีการขายออก มา 2.7 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 28 เซนต์ ปิดที่ 99.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 17.66 จุด ปิดที่ 16,530.55 จุด
ข่าวที่สำคัญ
- ราคาทองคำปิดปรับตัวทะยานตัวขึ้นเหนือระดับ 1,300 เหรียญ เป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดต่อการถือครองเนื่องจากอยู่ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยจากเหตุการณ์รุนแรงทางด้านภูมิศาสตร์ทางการเมืองในยูเครนและรัสเซีย
- รายงานคิทโก้ระบุว่าเม็ดเงินจากตลาดหุ้นยังคงได้รับการโยกย้ายเข้าสู่ตลาดทองคำเนื่องจากสถานการณ์ยูเครนและรัสเซียยังไม่ยุติและยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ระดับราคาทองคำทางเทคนิคจะมีแนวต้านแรกที่ระดับ 1,320 เหรียญและมีแนวรับแรกที่ระดับ 1,300เหรียญ
- เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SPDR เทขายเพิ่มเล็กน้อยอีก 2.7 ตัน สู่ระดับ 782.85 ตัน
- รายงานจากบลูมเบริ์กระบุว่าทองคำทะยานตัวขึ้นกว่า 1.5% จากความรุนแรงทางภูมิศาสตร์ทางการเมืองในฝั่งตะวันออกของยูเครนท่ามกลางการส่งสัญญาณที่ดีขึ้นจากเศรษฐกิจสหรัฐฯหลังจากที่ผ่านช่วงเวลาฤดูการหนาวเหน็บผิดปกติไปแล้วซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าราคาทองคำจะแกว่งในกรอบของ 1,260-1,330 เหรียญ
- เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมากลุ่มต่อต้านรัฐบาลยูเครนในเขตเมืองทางฝั่งตะวันออก โอเดสซาของยูเครนได้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากกองกำลังทหารรัฐบาลยูเครนมากกว่า 50รายและยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่าทาง- -- กองทัพได้ใช้เฮลิคอร์ปเตอร์ไล่ยิงจู่โจมกลุ่มต่อต้านทำให้ประชาชนเหล่านั้นเสียชีวิตเพิ่มและมีตัวเลขที่ไม่เป็นทางการขณะที่รัสเซียประกาศไม่สามารถทำตามข้อตกลงที่เคยให้ไว้กับทางสหประชาชาติได้ในทุกกรณี
- สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของจีนนั้นได้ประกาศตัวเลข HSBC Final Purchasing Manager ออกมาที่ระดับ 48.1 จุด จากที่ก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 48.3 จุด ซึ่งยังคงต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยที่ 50.0จุด ที่ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนนั้นยังคงไม่ร้อนแรง
- ผลการสำรวจของเฟดได้พบว่าตลาดนั้นยังคงต้องการเครดิตอย่างมากซึ่งเฟดเองจะผ่อนปรนเรื่องอัตราเงินกู้เพื่อการธุรกิจที่รวมไปถึงบริษัทเอกชนต่างๆและอสังหาริมทรัพย์อีกด้วยส่วนทางภาคผู้บริโภคก็จะมีการกระตุ้นทางด้านการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มเติมด้วย
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนเมื่อคืนนี้หลังจากภาคการผลิตจีนหดตัวต่อเนื่อง ซึ่งหนุนความต้องการสกุลเงินที่มีความปลอดภัยค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3877 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3871 ดอลลาร์
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐยังคงขยายตัวได้ดีในเดือนเม.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคบริการของจีน และผลประกอบการที่อ่อนแอของไฟเซอร์ ซึ่งบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (6-9 พ.ค.) อาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยต้องจับตาประเด็นการเมืองในประเทศ และข้อมูลเศรษฐกิจเดือน เม.ย.ของจีน
- วันนี้ตลาดจับตา เวลา 10.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญจะไต่สวนพยาน 4 ปาก คดีชี้สถานะนายกฯ กรณีโยกย้ายนาย ถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งน.ส. ยิ่งลักษณ์อาจเข้าชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ด้วยตนเอง
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ระดับ 53.1 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้น55.2
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -42.3B ตัวเลขคาดการณออกมาเพิ่มขึ้น -40.1B
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงได้รับอิทธิพลจากความตึงเครียดของยูเครนทำให้ราคาปรับตัวสูงขั้นเหนือ 1,300 เหรียญอย่างต่อเนื่องไปทำจุดสูงสุด 1,315เหรียญโดยประมาณ และกลับมาปิดในตลาด COMEX ที่ระดับ 1,309 เหรียญ สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาได้แก่ Non-manufacturing PMI ยังออกมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวก็ไม่ได้กดดันราคาทองคำในทันทีเท่าไรนัก ราคาทองคำค่อยๆปรับตัวลดลงมาบ้าง โดยที่ SPDR มีการเทขายทองคำในคืนวันศุกร์ 2.7 ตัน ปัจจุบันคงทองคำที่ระดับ 782.85 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิคราคายังเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้นในระยะสั้นมาก โดยที่ราคายังคงยืนอยู่เหนือ 1,300 เหรียญได้ แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,315 เหรียญและมีแนวรับ 1,300 เหรียญ ขณะที่ระยะกลางและระยะยาวยังเป็นแนวโน้มขาลง จนกว่าราคาจะขึ้นไปยืนเหนือ 1,330 เหรียญได้ วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนในกรอบ 1,300-1,315 เหรียญ โดยที่ว่าแนวโน้มหลักยังคงเป็นแนวโน้มขาลง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำเป็นลักษณะ Wait and See หรือทำกำไรในทิศทางแนวโน้มขาลง บริหารพอร์ตให้ดีหากนักลงทุนยังมี Short Position ไม่แนะนำให้ทำ Short Position เพิ่ม ให้บริหารพอร์ตให้เหมาะสม รอความชัดเจนของทิศทางมากกว่านี้
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำให้ทำกำไรเป็นช่วงๆ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังคงแนะนำให้ถือครอง ถ้าพอร์ตไม่ว่างนักแนะนำให้ทำ Short Position เพิ่มได้ แต่ถ้าหากว่าพอร์ตมีสถานะเยอะอยู่แล้ว ไม่แนะนำให้ทำ Short Position เพิ่ม
Gold Futures M14 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,070 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,270 บาท
Gold Futures Q14 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,130 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,330 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. 6 พ.ค.57 จะเป็นวันเเรกที่ TFEX เปิดตัว mini SET50 ให้ซื้อขาย โดยลดขนาดจากของเดิมลง 5 เท่า และวางเงิน Margin น้องลง 5 เท่า แต่มีโอกาสทำกำไรได้เหมือนเดิม สนใจติดต่อ MTS Gold Futures 02-770-7799
2. รายการ “รู้ก่อนรวยกว่า” ทางสถานี TNN24 ทุกวันจันทร์และวันศุกร์ เวลา 13.05-13.30น.
3. รายการ Gold Tonight by MTS Gold ทางสถานี Money Channel ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.30 – 21.35น.