กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--กระทรวงการคลัง
ข้อมูลที่ได้มาจากการสำรวจภาคสนามของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์โดยเป็นข้อมูลจากโครงการที่อยู่ระหว่างการขายเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย
จังหวัดภูเก็ตมีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังของโครงการของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในระหว่างการขายทั้งสิ้นประมาณ
31,650 หน่วย แบ่งเป็นหน่วยบ้านจัดสรรประมาณ 13,900 หน่วย อาคารชุดประมาณ 16,900 หน่วย และบ้านพักตากอากาศประมาณ 850 หน่วย ในประเภทบ้านจัดสรร มีโครงการบ้านจัดสรรซึ่งอยู่ระหว่างการขาย 89 โครงการ
มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 13,900 หน่วย มีมูลค่าโครงการการตามหน่วยในผังรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 57,100 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 4,000 หน่วย มูลค่าหน่วยเหลือขายรวมประมาณ 18,400 ล้านบาท
ในจำนวนนี้ เป็นโครงการที่เปิดขายก่อนปี 2553 และยังเหลือขายอยู่มากถึง23 โครงการ
แบ่งตามพื้นที่ พบว่าโครงการบ้านจัดสรรอยู่ในอำเภอเมืองภูเก็ต 45 โครงการ
7,300 หน่วย อำเภอถลาง 28 โครงการ 4,700 หน่วย และอำเภอกะทู้ 16 โครงการ 1,800 หน่วย
แบ่งตามประเภทของหน่วย พบว่าร้อยละ 33 เป็นบ้านเดี่ยว ขณะที่ร้อยละ 30 เป็นทาวน์เฮ้าส์ และอีกร้อยละ 26 เป็นบ้านแฝดที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์พักอาศัยและที่ดินเปล่าในโครงการ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และอาคารพาณิชย์พักอาศัยส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท และทาวน์เฮ้าส์ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ทั้งนี้
ไม่มีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังโครงการที่มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทเลย
สำหรับหน่วยบ้านจัดสรรเหลือขายประมาณ 4,000 หน่วยนั้นอยู่ในอำเภอเมืองภูเก็ตประมาณ 2,000 หน่วย อยู่ในอำเภอถลางประมาณ 1,500 หน่วย และอยู่ในอำเภอกะทู้ประมาณ 500 หน่วย
ในภาพรวมมีบ้านเดี่ยวเหลือขายประมาณ 1,600 หน่วยจากหน่วยในผัง 4,600 หน่วย ทาวน์เฮ้าส์เหลือขายประมาณ 1,000 หน่วยจากหน่วยในผัง 4,200 หน่วย บ้านแฝดเหลือขายประมาณ 1,000 หน่วยจากหน่วยในผัง 3,700 หน่วย และอาคารพาณิชย์พักอาศัยเหลือขายประมาณ 400 หน่วยจากหน่วยในผัง 1,200 หน่วย
สำหรับสถานะของการก่อสร้างหน่วยในผังโครงการทั้งหมด พบว่าร้อยละ 53 เป็นหน่วยก่อสร้างแล้วเสร็จ และร้อยละ 33 เป็นหน่วยซึ่งอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ส่วนอีกร้อยละ 14 เป็นหน่วยที่ยังไม่เริ่มสร้าง ทั้งนี้ มีบ้านสร้างเสร็จเหลือขาย (หรือเป็นบ้านว่าง) รวมกันทั้งสิ้นประมาณ 700 หน่วย
ผู้ประกอบการซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณร้อยละ 18 ของจำนวนโครงการ และร้อยละ 15 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด
ในประเภทอาคารชุด มีโครงการอาคารชุดซึ่งอยู่ระหว่างการขาย 91 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 16,900 หน่วย มูลค่าโครงการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 64,400 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 6,000
หน่วย มูลค่าหน่วยเหลือขายรวมประมาณ 25,400 ล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นโครงการที่เปิดขายก่อนปี 2553 และยังเหลือขายอยู่ถึง 21 โครงการ
แบ่งตามพื้นที่ พบว่าจากอาคารชุดทั้งหมด อยู่ในอำเภอเมืองภูเก็ต 54 โครงการ 11,800 หน่วย ในอำเภอกะทู้ 23 โครงการ 3,300 หน่วย และอำเภอถลาง 14 โครงการ 1,800 หน่วย
จากจำนวนหน่วยในผังโครงการทั้งหมด พบว่าร้อยละ 40 เป็นห้องชุดแบบสตูดิโอ ขณะที่ร้อยละ 45 เป็นแบบหนึ่งห้องนอน ส่วนอีกร้อยละ 12 เป็นแบบสองห้องนอน ที่เหลือเป็นแบบสามห้องนอนขึ้นไป
สำหรับหน่วยห้องชุดเหลือขายประมาณ 6,000 หน่วยนั้น อยู่ในอำเภอเมืองภูเก็ตประมาณ 4,000 หน่วย อยู่ในอำเภอกะทู้ประมาณ 1,300 หน่วย และอยู่ในอำเภอถลางประมาณ 700 หน่วย
โดยในภาพรวมมีห้องแบบสตูดิโอเหลือขายประมาณ 2,000 หน่วยจากหน่วยในผัง 6,800 หน่วย แบบหนึ่งห้องนอนเหลือขายประมาณ 2,900 หน่วยจากหน่วยในผัง 7,700 หน่วย แบบสองห้องนอนเหลือขายประมาณ 900 หน่วยจากหน่วยในผัง 2,100 หน่วย และแบบสามห้องนอนขึ้นไปเหลือขายน้อยกว่า 200 หน่วยจากหน่วยในผัง
300 กว่าหน่วย
สำหรับสถานะของการก่อสร้างหน่วยในผังโครงการทั้งหมด พบว่ามากถึงร้อยละ 64 หรือประมาณสองในสามเป็นหน่วยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างร้อยละ 18 และก่อสร้างแล้วเสร็จเพียงร้อยละ 18
โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเหลือขาย (หรือเป็นห้องชุดว่าง) ประมาณ 650 หน่วย
ในประเภทบ้านพักตากอากาศหรือวิลล่า
นับเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบริมทะเลหรือเชิงเขาที่มีราคา 15 ล้านบาทขึ้นไปโครงการที่มีหน่วยเหลือขายอย่างน้อย 1 หน่วย มีทั้งสิ้น 42 โครงการรวมประมาณ 850 หน่วย อยู่ในอำเภอถลาง 20 โครงการ รวมประมาณ 450 หน่วย
ในอำเภอเมืองภูเก็ต 15 โครงการ รวมประมาณ 300 หน่วย และในอำเภอกะทู้ 7 โครงการ รวมประมาณ 100 หน่วย
มีทั้งประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์โดยร้อยละ 86 เป็นบ้านเดี่ยว
จากจำนวนหน่วยในผังโครงการทั้งหมดนี้ มีหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 620 หน่วย มีหน่วยที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างประมาณ 170 หน่วย และยังไม่ก่อสร้างประมาณ 70 หน่วย โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ
มีเหลือขาย (หรือเป็นห้องชุดว่าง) 90 หน่วย
ผู้ประกอบการซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณร้อยละ 11 ของจำนนวนโครงการ และร้อยละ 20ของจำนวนหน่วยทั้งหมด