โพลล์เผยความคิดเห็นของผู้ปกครองต่อการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาช่วงเปิดเทอม

ข่าวทั่วไป Thursday May 15, 2014 14:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ช่วงนี้เป็นเวลาเปิดภาคเรียนของปีการศึกษาใหม่ สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน ค่าครองชีพประจำวันสูงขึ้นประกอบกันผู้ปกครองมีภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษาต่าง ๆ ตามมาเป็นจำนวนมาก สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ โดยศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส ,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ, ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ,ดร.กุลธิดา เสาวภาคย์พงศ์ชัย กรรมการรองผู้อำนวยการและอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษา ร่วมแถลงผลวิจัยความคิดเห็นของผู้ปกครอง ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของบุตรหลานช่วงเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2557 สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามจึงจัดทำแบบสำรวจขึ้นเพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดและวางแผนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึงโดยปราศจากอุปสรรคด้านค่าใช้จ่าย และช่วยเหลือผู้ปกครองในการลดภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของบุตรหลาน สำนักวิจัยฯได้ทำการสอบถามกลุ่มสำรวจที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ไม่จำกัดอาชีพจำนวน 1,097 คน ระหว่างวันที่ 6-12 พฤษภาคม 2557 ศ.ศรีศักดิ์ กล่าวว่าจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,097 คน สามารถสรุปผลได้ดังต่อไปนี้ ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 52.14 ส่วนร้อยละ 47.86 เป็นเพศชาย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 26.89 มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 36 ถึง 40 ปี รองลงมามีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 41 ถึง 45 ปี คิดเป็นร้อยละ 22.88 กลุ่มตัวอย่างเกือบหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 30.45 ประกอบอาชีพเป็นลูกจ้าง/พนักงานในห้างร้านหรือบริษัทเอกชน ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 23.52 และร้อยละ 21.24 เป็นข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจตามลำดับ สำหรับการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของกลุ่มตัวอย่างนั้น ในช่วงเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2557 นี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ต้องมีภาระรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาสำหรับบุตรหลาน 2 ถึง 3 คน คิดเป็นร้อยละ 52.96 ส่วนประเภทค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของบุตรหลานในช่วงเปิดภาคเรียนปีการศึกษา พ.ศ. 2557 ที่กลุ่มตัวอย่างต้องรับผิดชอบสูงสุด 3 อันดับได้แก่ ค่าบำรุงทางการศึกษาให้กับโรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 77.85 ค่าอุปกรณ์ทางการศึกษา (สมุด/ดินสอ/ตำรา) คิดเป็นร้อยละ 75.02 และค่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย คิดเป็นร้อยละ 72.56 ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 56.15 ระบุว่ารายได้ในปัจจุบันเพียงพอต่อรายจ่ายในช่วงเปิดภาคเรียน แต่กลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสามซึ่งคิดเป็นร้อยละ 32.13 ระบุว่าไม่เพียงพอ นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งระบุว่าตนเองไม่จำเป็นต้องกู้ยืมเงินเพื่อมาใช้จ่ายในช่วงเปิดภาคเรียนคิดเป็นร้อยละ 60.16 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 27.62 ระบุว่าจำเป็น แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 28.35 ระบุว่าหากมีความจำเป็นต้องกู้เงินในช่วงเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2557 แหล่งเงินกู้ที่ตั้งใจจะกู้เป็นอันดับแรกคือสถานธนานุบาล (โรงรับจำนำ) ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเกือบหนึ่งในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 24.89 ตั้งใจจะกู้จากญาติพี่น้อง นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 17.68 ตั้งใจจะกู้จากแหล่งเงินกู้นอกระบบ หากเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบในช่วงเปิดภาคเรียนของปีการศึกษา 2557 นี้ กับปีการศึกษาที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 45.03 ระบุว่าปีการศึกษา 2557 สูงกว่า สำหรับประเภทค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาที่กลุ่มตัวอย่างต้องการให้หน่วยงานภาครัฐช่วยรับผิดชอบสูงที่สุด 3 อันดับได้แก่ ค่าบำรุงทางการศึกษาให้กับโรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 79.31 ค่าอุปกรณ์ทางการศึกษา (สมุด/ดินสอ/ตำรา) คิดเป็นร้อยละ 76.03 และค่าเล่าเรียน/ค่าเทอม คิดเป็นร้อยละ 73.02 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างค่าเล่าเรียน/ค่าเทอมกับค่าบำรุงการศึกษาให้กับโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างถึงเกือบสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 65.72 มีความคิดเห็นว่าโรงเรียนควรเลิกเก็บค่าบำรุงการศึกษาให้กับโรงเรียนมากกว่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ