กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,296 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,293 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.51 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,850 บาท กับ 19,950 บาท และกลับมาปิดที่ 19,850 บาท กับ 19,950 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,042 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,104 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50บาท ลดลง 2% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 3% GFM14 ปิด 20,030 บาท และ GFQ14 ปิด 20,100 บาท GF10M14 ปิดที่20,030 บาท GF10Q14 ปิดที่ 20,100 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 20 เซ็นต์ ปิดที่ 1,293.40 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 15.5 เซ็นต์ ปิดที่ 19.329 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 781.98 ตัน (ขายออก 0.27ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 52เซ็นต์ ปิดที่ 102.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 44.50จุด ปิดที่ 16,491.31 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ตลาดทองคำดูจะเงียบเหงาไม่ขยับมากนักขณะที่นักลงทุนส่วนมากกลับเทขายพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐฯ ซึ่งราคาพันธบัตรร่วงลงสู่ระดับ 2.5% นักวิเคราะห์ได้ให้คำจำกัดเอาไว้ว่าเนื่องเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำดังนั้นเม็ดเงินจึงไปสู่แหล่งเงินกู้ประเภทอื่นที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า ขณะที่นักลงทุนบางรายคิดว่าอาจจะต้องจับตาดูที่ราคาพันธบัตรที่อาจจะเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้ทองคำนั้นขยับตัวขึ้นได้ อีกทั้งสัปดาห์หน้าในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้เป็นวันหยุดเนื่องในวัน Memorial Day ที่ตลาดซื้อขายและธนาคารจะปิดทำการเป็นวันหยุดสัปดาห์ที่ติดต่อกัน
ผลสำรวจจากคิทโก้ได้รับการตอบรับในการสำรวจแนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์หน้า ได้รับการตอบรับ 25 รายพบว่า รายมองว่าราคาจะแกว่งตัวในกรอบ 8 รายมองว่าจะปรับตัวลดลงและอีก 6 รายมองว่าราคาจะขยับตัวเพิ่มขึ้น
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SPDR ลดการถือครองลงเล็กน้อย 0.27 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 781.98 ตัน
นักวิเคราะห์จากดอยซ์แบงก์ได้ให้กรอบราคาทองคำในสัปดาห์หน้าไว้ที่ระดับ 1,280 – 1,305 เหรียญ ซึ่งยังคงให้แนวคิดเป็นเชิงภาวะหมีขาลง และมีปัจจัยที่จะทำให้ทองคำนั้นไดรับแรงกดดันจากภาพรวมทางเศรษฐกิจมหภาคคือดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะกดดันราคาทองคำให้ร่วงลงได้
ภาคอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ได้แรงหนุนจากการเข้าจองประเภทบ้านเดี่ยวสไตล์ครอบครัว ซึ่งตัวเลข Housing Start ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง13.2% สู่ระดับ1.07ล้านยูนิต จากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวก็แสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันเปิดใจรับภาระหนี้จากตลาดบ้านมากขึ้นและเริ่มผ่านพ้นวิกฤตทางการเงิน
ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงกว่าที่คาดสู่ระดับ81.8จุดจากระดับเดิมที่ 84.1จุดจากเมื่อเดือนเมษายนครั้งก่อน เนื่องจากผู้คนส่วนมากเริ่มกังวลกับราคาอาหารสดและราคาน้ำมันที่ดีดตัวสูงขึ้นทำให้ต้องรับภาระเพิ่มเติมในค่าใช้จ่ายซึ่งก่อนหน้านี้ผลสำรวจดัชนีความรู้สึกของผู้บริโภคให้ความพึงพอใจในด้านอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นพิเศษและปรับตัวสูงขึ้นซึ่งก็เป็นปัจจัยที่สอดคล้องกัน
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนจะมีการประชุมและร่วมพูดคุยกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินอละเหล่าผู้นำทางฝั่งตะวันออกกลางและเอเชียใต้หลังจากที่ได้มีการร่วมหารือที่จะส่งก๊าซธรรมชาติเข้าสู่ประเทศจีนซึ่งการประชุมครั้งนี้จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าวันที่20พ.ค.นี้
ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงอย่างมากจากที่นักลงทุนเทขายหุ้นพันธบัตรรัฐบาลออกมาจากความไม่มั่นใจต่อการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจขิงยูโรโซนค่าเงินยูโรร่วงลงถึง0.1% สู่ระดับ1.3694ยูโรต่อดอลลาร์
ค่าเงินยูโรร่วงลงต่ำสุดที่ระดับ1.3648 ยูโรต่อดอลลาร์ เมื่อคืนนี้ค่าเงินยูโรที่ร่วงลงส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นอีกทั้งได้แรงสนับสนุนจากตัวเลขธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นก็สอดคล้องกับคำกล่าวของแยลเลนเมื่อครั้งก่อนที่ได้พูดถึงภาคธุรกิจขนาดเล็กและประชาชนได้มีงานทำเพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์ตลาดหุ้น มองว่า มีโอกาสที่ทางธนาคารกลางยุโรป(ECB)จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในช่วงเดือน มิ.ย.อาจเป็นแรงกระตุ้นให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามา
ในเวลานี้ทางการยูเครนยังคงดำเนินการเข้าจู่โจมผู้ที่ฝักใฝ่ในรัสเซียที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนออกจากยูเครนเพื่อเป็นเอกเทศและขึ้นตรงกับรัสเซียแบบไครเมียซึ่งทางการยูเครนจะมีการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 25พฤษภาคมนี้ ตามรายงานบลูมเบริ์กระบุเพิ่มว่า ตั้งแต่วันที่ 21 – 26 พฤษภาคมนี้ ต้องติดตามสถานการณ์ยูเครนอย่างใกล้ชิด ทางการยูเครนเป็นกังวลอย่างมากที่รัสเซียอาจนำกำลังกองทัพทางทหารมาประชิดฝั่งชายแดนตะวันออกและการกระทำของรัสเซียไม่ใช่การออกมาซ้อมรบตามปกติอย่างที่เคยประกาศและอาจขัดขวางการเลือกตั้งได้ ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามากล่าวเตือนรัสเซียหากการเลือกตั้งของยูเครนไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากเหตุวุ่นวายทางรัสเซียจะได้รับมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดปรับตัวสูงขึ้นในคืนวันศุกร์ จากแรงซื้อหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลที่อยู่อาศัยที่สดใสของสหรัฐฯ จึงช่วยสกัดการปรับตัวร่วงลงของตลาดหุ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดบวกเพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
วุฒิสภาเตรียมเสนอตั้งนายกรัฐมนตรีใหม่อีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ โดยคณะทำงานของนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ได้สรุปแนวทางดำเนินการไว้ 2 วิธีคือ ให้ สว. 1 ใน 4 เข้าชื่อกันขอเปิดประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีตามข้อบังคับการประชุมของวุฒิสภา หรือให้นายสุรชัยตัดสินใจนำชื่อนายกฯขึ้นทูลเกล้าฯ โดยไม่ต้องผ่านที่ประชุม สว. ซึ่งคาดว่านายสุรชัยจะเลือกใช้แนวทางอย่างหลังมากกว่า
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองแนวโน้มสัปดาห์นี้ (19-23 พ.ค.57) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาสถานการณ์การเมือง และข้อมูลจีดีพีไตรมาส 1/57 ของไทย
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์
- Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 1.00M ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.08M
- Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.95M ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.07M
- Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 84.1 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 81.8
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
-ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ทิศทางราคาทองคำ
ภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนตัวในกรอบแคบระหว่าง 1,290-1,297 เหรียญเท่านั้น โดยที่ยังมีปัจจัยเรื่องยูเครนกับสหรัฐอเมริกาที่ผลักดันให้ราคาทองคำเคลื่อนตัวในทิศทางขึ้นและลงสลับกัน ในภาพหลักยังมองว่าราคาจะเคลื่อนตัวกรอบแคบจนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆมาผลักดันไม่ว่าจะเรื่องของยูเครน หรือตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ขณะที่วันศุกร์ SPDR ขายทองออกอีก 0.27 ตัน ปัจจุบันถือครอง 781.98 ตัน สำหรับคืนนี้จะไม่มีการประกาศปัจจัยสำคัญ จึงคาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวกรอบแคบ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,280 – 1,300 เหรียญในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะบีบตัวแคบลงมาเรื่อยๆ ในเชิงเทคนิคเหมือนกับลักษณะ Symmetrical Triangle ที่บีบตัวแคบลงมา และคาดว่าจะเบรคออกจากกรอบนี้ในปลายสัปดาห์หรือต้นสัปดาห์หน้า
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เป็นกลยุทธ์กรอบแคบในทิศทางขาลง
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position บริหารพอร์ตให้เหมาะสม
Gold Futures M14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,930บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,070 บาท
Gold Futures Q14 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,200บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1.ตลาด TFEX มีการ Update ระบบ Streaming สำหรับ iphone และ iPad สามารถ Update ระบบใหม่ได้ที่ App Store หากไม่ Update จะไม่สามารถเข้าระบบได้ สอบถามเพิ่มเติม 02-770-7799
2. รายการ “รู้ก่อนรวยกว่า” ทางสถานี TNN24 ทุกวันจันทร์และวันศุกร์ เวลา 13.05-13.30น.
3. รายการ Gold Tonight by MTS Gold ทางสถานี Money Channel ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.30 – 21.35น.