กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--อเบอร์ดีน แอสเสท แมเนจเมนท์ เอเชีย
ฮิว ยัง กรรมการผู้จัดการ อเบอร์ดีน แอสเสท แมเนจเมนท์ เอเชีย เชื่อว่าเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิคยังคงอยู่ในสภาวะที่ดี โดยคาดการณ์ว่าธุรกิจจะมีกำไรสุทธิที่เติบโตได้ในระดับปานกลางด้วยอัตราเลขหนึ่งหลักระดับสูงสำหรับปีนี้ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคที่เดินหน้าอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีมานี้เข้าสู่ช่วงชะลอตัวลงตามวงจรเศรษฐกิจอย่างไรก็ตามพื้นฐานธุรกิจอันแข็งแกร่งของหลายๆบริษัทและแนวโน้มที่ดีในระยะยาวของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ยังคงสดใสไม่เปลี่ยนแปลง
ฮิว ยัง กรรมการผู้จัดการ อเบอร์ดีน แอสเสท แมเนจเมนท์ เอเชีย ให้ความเห็นว่า :
“เศรษฐกิจในหลายภูมิภาคต่างประสบกับภาวะชะลอตัวลงตามวงจรเศรษฐกิจเช่นเดียวกับเศรษฐกิจของหลายประเทศในเอเชียที่กำลังอ่อนตัวลงเช่นกัน แต่นักลงทุนบางคนกลับเข้าใจผิดว่าเป็นเพราะโครงสร้างเศรษฐกิจเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรซึ่งไม่เป็นความจริง การลงทุนในเอเชียในปัจจุบันยังคงน่าสนใจ เช่นเดียวกับในช่วงที่ผ่านมาที่มีเศรษฐกิจดี โดยในหลายประเทศรัฐบาลมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ประชาชนผู้บริโภคไม่มีการกู้หนี้เกินตัวเมื่อเทียบกับมาตรฐานในประเทศตะวันตกโดยสถานะทางการเงินของภาคธุรกิจยังคงแข็งแกร่งและมีระดับหนี้สินที่อยู่ในระดับที่จัดการได้ แต่ก็ยังคงมีปัจจัยทางการเมืองที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเช่นในประเทศไทย อินเดียและอินโดนีเซีย และอาจจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นในตลาดยังคงสร้างแรงดึงดูดเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา โดยอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E)เฉลี่ยอยุ่ที่ 12.3 เท่าในปีปฎิทิน2557แม้ว่ากำไรสุทธิในภาคธุรกิจมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้พอประมาณด้วยอัตราเลขหนึ่งหลักระดับสูง แต่สถานะทางการเงินของภาคธุรกิจยังคงแข็งแกร่ง
ผลการเลือกตั้งทั่วประเทศในอินเดีย
“ความผิดหวังของประชาชนอินเดียต่อพรรคคองเกรสที่เป็นฝ่ายรัฐบาล กำลังแปรผลเป็นชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างไม่ต้องสงสัยของ นเรนทรา โมดิ จากพรรคภารติยะ ชนาตะ (BharatiyaJanata Party - BJP) โดยมีความคาดหวังอย่างสูงว่า โมดิ ผู้ที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้จะทำให้เกิดพลังหนุนเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมเช่นเดียวกับสมัยที่เขาเคยได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งในรัฐกุจารัตที่เป็นบ้านเกิดมาแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นการก้าวไปสู่การเลือกตั้งในระดับประเทศ ซึ่งเป็นธรรมดาที่เราจะคาดหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมีความจริงใจในการจัดการปฎิรูปเศรษฐกิจขึ้นมาใหม่อีกครั้ง พร้อมทั้งการจัดการงบประมาณแผ่นดินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่กำลังล่าช้า ทั้งนี้ ก็เพื่อประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
“เศรษฐกิจของอินเดียตกต่ำที่สุดในรอบทศวรรษ โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่เพียง 4.7% เมื่อไตรมาสที่ผ่านมา แม้ว่าการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของอินเดียได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญแล้ว แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง โดยราคาอาหารกำลังขยับสูงขึ้นอีกและความต้องการของผู้บริโภคกำลังชะลอตัวลง จนกลายเป็นอุปสรรคต่อการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของอินเดียยังคงได้รับประโยชน์จากตลาดขนาดใหญ่ภายในประเทศ ที่มีจำนวนประชากรหนุ่มสาวในวัยทำงานและกลุ่มชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น
“อเบอร์ดีนลงทุนในภาคธุรกิจของอินเดียมาเป็นเวลานาน บริษัทของอินเดียที่อเบอร์ดีนลงทุนล้วนมีการบริหารจัดการที่ดีและมีวัฒนธรรมของผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง ตัวอย่างเช่น HDFC ซึ่งเป็นสถาบันการเงินด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยชั้นแนวหน้าของอินเดียที่มีสินทรัพย์คุณภาพดีหรือบริษัทGodrej Consumer Productsซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในครัวเรือนและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว ซึ่งเป็นผู้นำตลาดทั้งภายในประเทศและในประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ”
การปรับสมดุลเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนและความกังวลต่อการขยายตัวของสินเชื่อ
“ในความเห็นของอเบอร์ดีนรัฐบาลจีนอาจจะต้องยอมรับว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่ขยายตัวมากเกินไปในตลาด ซึ่งเห็นได้จากการเกิดระบบธนาคารเงาและการเก็งกำไรราคาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวต่อไป โดยคาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับสูงต่อไปและส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์จากการลงทุนในโครงการใหม่ๆของรัฐแต่หากจะทำให้สมดุลทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นได้จริง อัตราเงินเฟ้อจะต้องมีเสถียรภาพและอัตราค่าแรงที่ชดเชยอัตราเงินเฟ้อแล้วก็จะเพิ่มขึ้นได้เนื่องจากผลิตภาพที่ดีขึ้น การปราบปรามการทุจริตในประเทศเมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของคณะผู้นำชุดใหม่ในการรวมอำนาจและที่สำคัญกว่านั้น ความต้องการที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคมในขณะที่ความแตกต่างของรายได้ในหมู่ประชาชนกำลังเพิ่มขึ้น
“อเบอร์ดีนคิดว่าการเติบโตของกำไรสุทธิในหลายๆบริษัทจะอยู่ในระดับที่ลดลง โดยอาจจะเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่า 10%การดำเนินงานของภาคธุรกิจยังคงมีอุปสรรคจากภาวะเศรษฐกิจในปี 2557 ที่ซบเซากำไรของธุรกิจลดลงและยังมีผลกระทบจากนโยบายการควบคุมสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น สำหรับบริษัทที่
อเบอร์ดีนลงทุนมีข้อบ่งชี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคทางการเงินในบางบริษัท ซึ่งเป็นเพราะบริษัทเหล่านี้ยังมีสถานะทางการเงินและการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง รวมถึงการมีรูปแบบการทำธุรกิจที่เติบโตได้อย่างยั่งยืน”
เหตุใดบริษัทที่อยู่ในภูมิภาคกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของอาเซียนจึงได้รับความนิยมจากอเบอร์ดีน?
“อเบอร์ดีนลงทุนในตลาดการบริโภคที่มีการขยายตัวในวงกว้าง มีหนี้สินต่ำ ตลาดสินเชื่อที่ขยายตัวดี และมีความมั่งคั่งของประชาชนที่สูงขึ้นซึ่งเป็นการวิเคราะห์ตลาดอย่างตรงไปตรงมาที่ทำให้เราค้นพบหุ้นที่มีคุณภาพดี หลายบริษัทในท้องถิ่นยังมีศักยภาพในด้านต่างๆ เช่นเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าและการหาแหล่งวัตถุดิบในขณะที่ในด้านกฎระเบียบของทางการอาจจะช่วยลดการแข่งขันกับต่างชาติลงได้ นอกจากนี้ บางบริษัทอาจจะมีลักษณะเป็นกิจการครอบครัว ที่มีแนวทางการบริหารธุรกิจอย่างระมัดระวัง และมีการกู้เงินในระดับต่ำ ปัจจัยเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการถือเงินสดและผลตอบแทนจากการลงทุนและทรัพย์สินของกิจการในที่สุด
ฮิว และทีมงานมืออาชีพในสายการลงทุน30 คนได้ร่วมกันบริหารจัดการทรัพย์สินการลงทุนในตลาดหุ้นของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคที่มีมูลค่ามากกว่า 3.5 หมื่นล้านยูโร ทีมงานเหล่านี้ได้ทำการวิเคราะห์บริษัทที่จะลงทุนด้วยตนเองอย่างจริงจัง ก่อนที่จะทำการลงทุนในหุ้นของบริษัทเหล่านี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าบริษัทที่จะลงทุนสามารถผ่านเกณฑ์คุณภาพของอเบอร์ดีนได้โดยจะต้องทำการตรวจสอบในด้านต่างๆด้วย ตั้งแต่ฐานะการเงินที่มั่นคง การรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อย ธรรมาภิบาลของบริษัท เสถียรภาพของธุรกิจ และแนวโน้มความยั่งยืนของกิจการในระยะยาว ต่อจากนั้น ทีมงานจึงสามารถให้ความมั่นใจได้ว่าหุ้นของบริษัทดังกล่าวอยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม ขั้นตอนการลงทุนของอเบอร์ดีนก็จะยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง แม้ภายหลังบริษัทเหล่านี้ได้เข้ามาอยู่ในพอร์ตการลงทุนของเราแล้วก็ตาม