กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--Public Hit
สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์สจะย้ายที่ทำการสู่ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด (HIA) ซึ่งเป็นท่าอากาศยานที่ทันสมัยและใหม่ที่สุดในโลก ในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ และท่าอากาศยานนี้ ก็จะเป็นบ้านหลังใหม่ของสายการบินประจำชาติของประเทศกาตาร์อย่างเป็นทางการ
สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ใช้ท่าอากาศยานนานาชาติโดฮาเป็นศูนย์ปฏิบัติการมาเป็นเวลา 17 ปี ตั้งแต่ในช่วงแรกที่มีเครื่องบินเพียงไม่กี่ลำ ให้บริการเฉพาะในภูมิภาค จวบจนวันนี้ที่สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส มีเครื่องบินถึง 134 ลำ ให้บริการสู่ 138 จุดหมายปลายทางทั่วโลก
การย้ายศูนย์ปฏิบัติการไปยังท่าอากาศยานนานาชาติฮามัดจะช่วยให้สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ให้บริการระดับห้าดาวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เนื่องจากท่าอากาศยานแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารมากมาย และยังช่วยให้สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ขยายการให้บริการได้อย่างต่อเนื่องสู่จุดหมายปลายทางอื่นๆ ในอนาคตได้อีกด้วย
“ทางสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ได้วางแผนเรื่องการย้ายมาเป็นเวลานานแล้ว และในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้จะเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของประวัติศาสตร์สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส และของประเทศกาตาร์ เนื่องจากเราจะเริ่มการปฏิบัติการในท่าอากาศยานนานาชาติฮามัดอย่างเป็นทางการ” นายอัคบาร์ อัล เบเกอร์ ประธานบริหารสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส กล่าว
“ท่าอากาศยานแห่งนี้จะยกระดับการเดินทางให้แก่ผู้โดยสารนานาชาติ และเป็นมิติใหม่ของสุดยอดความเป็นเลิศในแวดวงท่าอากาศยาน นอกจากนี้ท่าอากาศยานนี้ยังช่วยให้สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส มอบบริการที่เป็นเลิศให้แก่ผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย”
ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัดเป็นท่าอากาศยานนานาชาติแห่งล่าสุดของโลก อยู่ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติโดฮา 4 กิโลเมตร สร้างอยู่บนพื้นที่ที่เคยเป็นทะเลถึง 60% ตัวท่าอากาศยานจะเริ่มให้บริการในส่วนอาคาร A B และ C ในช่วงแรก และจะสามารถต้อนรับผู้โดยสารได้ถึงปีละ 30 ล้านคน และจะยกระดับความเป็นเลิศของท่าอากาศยานสู่ระดับที่เหนือกว่า ในอนาคต ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัดจะสามารถต้อนรับผู้โดยสารได้ถึงปีละ 50 ล้านคน เมื่ออาคาร D และ E เปิดให้บริการเต็มและท่าอากาศยานมีความพร้อม อย่างเต็มรูปแบบ
ท่าอากาศยานชั้นนำของโลกแห่งนี้มีเคาน์เตอร์เช็คอินถึง 138 เคาน์เตอร์ แบ่งเป็น 5 โซน มีเคาน์เตอร์สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัดของสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ถึง 108 เคาน์เตอร์ พร้อมด้วยบริเวณเช็คอินพิเศษสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งอีก 14 ที่นั่ง และสำหรับชั้นธุรกิจ 16 เคาน์เตอร์ นอกจากนี้ ท่าอากาศยานนานาชาติ ฮามัดมีทางออกสู่เครื่องบินถึง 41 ทางออก ซึ่งจะเป็น 65 ทางออกเมื่อเปิดให้บริการอาคาร D และ E โดยมีทางออกพิเศษ 6 ทางออก เพื่อใช้สำหรับเครื่องบินแอร์บัส A380 ซึ่งทางสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ได้สั่งซื้อให้ถึง 13 ลำ และจะเริ่มส่งมอบในเดือนมิถุนายนนี้
ผู้โดยสารที่เดินทางมาต่อเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัดจะได้พบกับบริเวณบริการผู้โดยสารที่มีเนื้อที่กว้างขวางถึง 600,000 ตารางเมตร มีเสาที่โค้งมนสวยงาม แสงธรรมชาติเพื่อความรู้สึกโปร่ง และศิลปะตกแต่งต่างๆ ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อท่าอากาศยานแห่งนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งร้านค้าและร้านอาหารชั้นนำมากมาย บริเวณสำหรับกิจกรรมต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เนต สนามเด็กเล่น บริเวณพักผ่อน และบริการอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้ท่าอากาศยานแห่งนี้เป็นมิติใหม่แห่งการเดินทาง
มร.จิมมี่ ซึง ผู้จัดการประจำเขตประเทศไทยและประเทศเมียนมาร์ สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส กล่าวว่า การย้ายศูนย์ปฏิบัติการของสายการบินไปยังท่าอากาศยานแห่งใหม่นี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หันมาเลือกใช้บริการสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส มากขึ้น
“ด้วยความล้ำสมัยของสถานที่และความหลากหลายของบริการที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด ผู้โดยสาร ที่ต้องเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นสามารถเพลิดเพลินไปกับการจับจ่ายใช้สอย พักผ่อน รับประทานอาหาร หรือใช้เวลาว่างระหว่างต่อเครื่องเพื่อทำงานหรือติดต่อธุระส่วนตัวได้อย่างสะดวกสบาย และความสะดวกสบายก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้บริการสายการบิน ดังนั้นการย้ายศูนย์ของสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติฮามัดจะช่วยให้ผู้โดยสารสนใจที่จะเดินทางกับสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส มากขึ้นด้วย” มร. จิมมี่ กล่าว