กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--ช่อง2
“ตั้งแต่จำความได้ผมคือเด็กขอทาน” นี่คือคำบอกเล่าของ “สำลี สังวาลย์” วัย 28 ปี อดีตนักมายากลเด็ก และผู้ช่วยคู่บุญของนักมายากลระดับแนวหน้า “ฟิลิป คอปเปอร์ฟิลด์” ผู้ซึ่งเจ้าตัวเรียกว่า “ป๊า” เพราะเขาคือคนที่เก็บหนุ่มสำลีมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก แต่แล้วอยู่ๆ ชีวิตพลิกผันกลายเป็นคนเร่ร่อน ไร้งานทำ สาเหตุเพราะวันนั้นเขาเลือก “ความรัก” วันนี้ “สำลี” เปิดหมดเปลือกในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” พร้อมกับมี “ภรรยา-ลูกชาย-ลูก” สาวมานั่งเป็นกำลังใจ พร้อมถึงชีวิตรันทด ประสบการณ์กัดก้อนเกลือจะเป็นอย่างไรไปฟังกัน
ทำไมถึงออกมา ?
“ไม่อยากเดือนร้อนป๊า ไม่อยากขอตังก์ป๊า จริงๆ ป๊าเขาเป็นคนดี แล้วก็รักผมด้วยนะ ใจดีเป็นคนเมตตา ไม่ใช่เลี้ยงหนูคนเดียว มีเด็กอีก 23 คน เด็กฝรั่ง แล้วก็คนไทยอีกคนหนึ่ง อุปการะมาเหมือนกัน”
ตอนออกมาเป็นข่าว ?
“ไม่ๆ ไม่เป็นข่าวเลย ไม่มีใครรู้เลยว่าสำลีหายไปไหน หนูก็มารู้ข่าวอีกทีว่าแถวชลบุรีสำลีตายไปแล้ว โดนรถชนตาย คนชลบุรีเขาพูดกัน เพราะหลังๆ เราไปโชว์คนก็มามองว่าใช่สำลีเหรอมองแล้วมองอีก เราก็บอกใช่ครับ ตัวจริงครับ เขาบอกตายไปแล้วไม่ใช่เหรอที่นี่เขาลือกันลั่นเลย โดนรถชนตายไปแล้ว บางกระแสบอกสำลีร่ำรวยเงินทองนั่งรถเบนซ์”
หลังจากออกมา พาภรรยาไปอยู่ที่ไหนกัน ?
“ที่นอนที่หรูที่สุดเลย สวนหย่อม สวนหย่อมใครนอนก็ได้ครับหนูก็ไปนอนตรงนั้น เดินกันไปก็ลากกระเป๋า ร้องห่มร้องไห้ ก็ไม่รู้จะไปนอนไหน กินอะไรวันนี้ เราก็เกิดไอเดียไปนอนสวนหย่อมแล้วกัน เราก็รู้จักวินมอไซค์ ก็ไปมั่วกับเขา เขาจะกินยาดองก็ไปนั่งคุยนั่งกินกับเขา แฟนก็ลุยๆ มันมีกับแกล้ม วิธีเรา ทำอย่างนั้นเกือบ 4-5 เดือน ไปขอเขากินอย่างนั้น”
ไม่มีรายได้ ?
“ไม่มีเลย”
ทำไมตัดสินใจไปนอนแบบนั้น ?
“เราก็ไม่มีที่พึ่งไงครับ เพิ่งขออาจารย์ออกมา ไม่รู้จะไปอยู่กับใคร ไปพึ่งใคร แต่เราก็ยังโทรไปหาลูกศิษย์คนหนึ่ง เพราะป๊าเขาให้สอนมายากล เราก็เป็นอาจารย์สอนก็โทรไปหาลูกศิษย์คนนี้ เขาก็จะรู้ประวัติเรา เป็นเด็กขอทานเป็นอะไรมาก่อน เราก็โทรไปเล่าให้พ่อเชิดคนที่มาเรียนกลเนี่ย เราก็เล่าให้เขาฟัง ว่าไม่มีกินเลย เขาก็บอกจะให้พ่อช่วยยังไง หนูขอตังก์เปิดห้อง อย่างน้อยต้องมีที่นอน ให้มา 4,000 บาท ก็พอละค่อยยังชั่ว ไม่ต้องเร่ร่อน”
โทรขอเงินคนไปทั่ว ?
“ใช่ครับ นี่คือเรื่องจริง โทรไปของานขอเงิน ไม่มีใครให้เลย ไม่มีใครช่วยเลย”
ของานทำไมไม่มีใครให้งาน ?
“อาจจะเป็เพราะว่ากลัวป๊ามั้ง เกรงใจป๊า เพราะเขารู้ว่าสำลีอยู่กับป๊าก็เช่าห้องอยู่ได้เดือนหนึ่ง เดือนต่อไปไม่มีเงินไปจ่ายค่าห้องอีก แล้วก็ล๊อคห้องเหมือนในห้องไม่มีคน แอบอยู่ในนั้น เพราะเขาจะมาเก็บค่าห้องเดือนต่อไป พอตกดึกออกไปสวนหย่อม สุดท้ายก็ต้องออกมาจากห้องอยู่ดี แล้วแฟนเริ่มท้องด้วย”
ที่ผ่านมาหากินได้เพราะชื่อฟิลิป ไม่ใช่สำลี ?
“อาจจะประมาณนั้น”
คิดผิดไหมที่ออกจากบ้านมา ?
“หนุไม่คิดผิดนะ ป๊าเนี่ยพร้อมที่จะรับหนูตลอด อ้าแขนรับหนูได้ตลอดหนูรู้นิสัยป๊า แต่หนูจะแสดงให้เห็นว่าเราออกไปแล้ว เราไม่ใช่เล่นๆ กับชีวิตที่ผ่านมาให้ป๊าเห็นว่าเราเอาจริง เราจะรับผิดชอบเขาจริง คืออยากให้เห็นว่าเราโตขึ้น”
ป๊าน่าจะเข้าใจเรื่องความรัก ?
“เรื่องนี้ป๊าเขาฟิกมาตลอดเลย ตั้งแต่เรียน”
เป็นกฎเหล็กของครอบครัวว่าห้ามยุ่งเรื่องผู้หญิง ?
“อาจจะประมาณนั้น แล้วบวกกับที่เรารับปากแล้วทำไม่ได้”
กัดก้อนเกลือกินกับภรรยา ?
“มีทะเลาะกันบ้าง แต่มีอยู่มื้อหนึ่งที่ทำให้เรารักกันมาก เดือนนั้นรู้สึกว่าซื้อไก่มา แล้วอีกวันหนึ่งไม่มีเงินซื้อข้าว กระดูกที่เหลือเราก็ ปวดท้องหิวข้าว แฟนก็เอากระดูกที่เหลือในถังขยะมาต้มให้เรากิน มันเป็นจุดที่ว่าเขาก็ไม่ได้รังเกียรติเรา เขาก็ยังทนกับเรา”
อยู่แบบนั้นนานไหม ?
“รู้สึกแฟนจะท้องประมาณ 6 เดือน ไปสมัครงานก็โดนไล่ออกบ้าง ทำไม่ถึงเดือน แล้วแฟนก็โทรหาพ่อตา เขาก็กลัวกลับไปจะโดนตี แล้วก็ยังท้องอีก เขาก็บอกหนูท้องนะ จะกลับไปบ้านพ่อจะว่ายังไง เขาก็บอกก็กลับมาเถอะลูก อย่างน้อยบ้านเราก็มีข้าวกินเขากลับเราก็ต้องไปด้วย เลยบอกว่าต้องเอาแฟนกลับไปด้วยนะ แฟนมันไม่มีที่ไป”
ครั้งแรกที่ไปหาพ่อตาเขาว่ายังไง ?
“ครั้งแรกนี่ไม่มีใครพูดกับหนูเลย เหมือนไม่มีใครเห็นเรา ถามว่าเขาเมตตาเราไหม ตอนนั้นยังมองไม่เห็นอะไรเลยครับ รู้สึกผิดที่เอาลูกเขาไป แต่ครอบครัวยีนส์(ภรรยา)ก็ใจดี รักเราครับให้เราไปนอนในห้อง พ่อตาก็เสียสละไปนอนหน้าห้องน้ำ เขาก็ยังเมตตาเราอยู่ บอกกับตัวเองว่าวันหนึ่งต้องเป็นของเรา และโชคดีที่ไม่ติดยาเพราะป๊าสอนเรามา อย่าไปยุ่งกับยาเสพติด”
พอไปอยู่บ้านพ่อตามีงานไหม ?
“ตอนใกล้ๆ ลูกคนโตจะคลอด พ่อตาเขาก็ใจดี เขารู้จักคนเยอะแถวนั้นเขาก็มีงานบวช ก็ให้เอาสำลีไปเล่นมันจะได้ ได้ค่านมลูก สงสารมัน 500 บ้าง 200 บ้าง เราก็ประทังชีวิตไปซื้อนมลูกได้ ดีกว่าไม่มีเลย ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้โทรไปหาป๊านะ กลัวว่าป๊าจะคิดยังไง”
ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทางช่อง 2 ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 7.00/11.00/17.00/20.00/23.00 น. และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/thaich2