พีดีเฮ้าส์ ไม่หวั่นการเมืองออกหัว-ก้อย คาดยอดขายครึ่งปีแรกทะลุ 700 ล้าน

ข่าวอสังหา Thursday June 5, 2014 13:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--เอ็ม แอนด์ เอส ครีเอชั่น พีดีเฮ้าส์ ประเมินผลกระทบจากปัญหาการเมืองเศรษฐกิจชะลอตัวครึ่งปีแรก เผยเน้นปรับตัวเชิงรุกแทนการตั้งรับสถานการณ์ เชื่อตลาดรับสร้างบ้านยังไปได้สวย เหตุผู้บริโภคใช้เงินสดมากกว่าการกู้ยืมธนาคาร คาดยอดขายครึ่งปีแรกทะลุ 700 ล้านบาทต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ พร้อมเล็งปรับลดเป้ายอดขายปี 57 ลงเล็กน้อย แต่มั่นใจขยายสาขาครบ 10 สาขาตามแผนฯ นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.พีดีเฮ้าส์คอร์ปอเรชั่น เจ้าของและผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่มีการชุมนุมประท้วงมานานกว่าครึ่งปี กระทั่งเกิดการรัฐประหารขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ สถานการณ์ที่กล่าวมาถือเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจและการค้าของประเทศในปีนี้ชะลอตัว โดยล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปี 2557 ติดลบร้อยละ 0.6% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว และปรับตัวลดลงจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 ร้อยละ 2.1% ในส่วนของภาคธุรกิจรับสร้างบ้านเอง ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบดังกล่าวได้เช่นกัน ประเมินได้จากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัวในช่วงกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจนี้ต้องเร่งปรับตัว ซึ่งมีทั้งการปรับตัวแบบตั้งรับสถานการณ์และรุกสวนกระแสตลาดที่ชะลอตัว แตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละกิจการว่าจะงัดกลยุทธ์ใดออกมาใช้ในการแข่งขัน เพื่อฝ่าสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปีนี้ “บริษัทฯ เองประเมินว่า แม้ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านจะชะลอตัวในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีกำลังซื้อของผู้บริโภคส่วนหนึ่ง ที่ไม่ได้สนใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจซึ่งถือเป็นกำลังซื้อที่แท้จริง ไม่มีการเก็งกำไร และที่สำคัญเป็นการใช้ “เงินออมหรือเงินสด” สำหรับการลงทุนสร้างบ้านหลังใหม่ มากกว่าจะขอ “กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน” ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าผู้มีกำลังซื้อของตลาดรับสร้างบ้านนั้น แตกต่างจากตลาดบ้านจัดสรรและอาคารชุดอย่างเห็นได้ชัดเจน เพราะเมื่อใดที่เศรษฐกิจมีปัญหากำลังซื้อก็จะหดตัวทันที ดังนั้น แนวทางการปรับตัวของบริษัทฯ จึงเลือกที่จะรุกขยายตลาด แทนการตั้งรับเช่นคู่แข่งรายอื่นๆ ซึ่งจะสอดคล้องกับแผน5 ปีของบริษัทฯ ที่วางไว้จะขยายสาขาออกไปทั่วประเทศให้ครบ 50 สาขาในเร็วๆ นี้” จากแนวทางการปรับตัวที่เน้นเจาะกลุ่มกำลังซื้อพื้นที่ใหม่ๆ ด้วยการขยายสาขาในต่างจังหวัด ส่งผลให้ในช่วง 5 เดือนแรก บริษัทฯ สามารถทำยอดขายบ้านจากสาขาทั่วประเทศได้กว่า 500 ล้านบาท และคาดว่าครึ่งปีแรกนี้จะมียอดขายทะลุ 700 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แผนการตลาดในปี 2557 บริษัทฯ เองได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ 2,000 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อประเมินจากทิศทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมือง ที่ผ่านมาในช่วงครึ่งปีแรกและแนวโน้มครึ่งปีหลังแล้ว บริษัทฯ คงจะต้องทบทวนและปรับเป้ายอดขายในปีนี้ลงบางส่วน แต่คงจะไม่ปรับลดลงมากนัก ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอดูยอดขายบ้านอีกหนึ่งเดือนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด นายพิศาล กล่าวอีกว่า ในส่วนของการขยายสาขาใหม่ในปี 2557 นี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าหมาย 10 สาขาตามแผนฯ ที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบันเปิดดำเนินการแล้ว 2 แห่งคือ สาขาจังหวัดชุมพรและสุพรรณบุรี และอยู่ในระหว่างฝึกอบรมบุคลากรหรือเตรียมความพร้อมอีก 5 สาขา ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด ลำปาง มุกดาหาร กาฬสินธุ์ และบุรีรัมย์ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่าง พิจารณาว่าสาขาใดจะลงทุนเอง และสาขาใดจะให้สิทธิ์นักลงทุน ที่สนใจระบบแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ คาดว่าจะสามารถขยายสาขาได้ครบตามแผนฯ ที่วางไว้ ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่เรื่องของความโชคดี แต่เป็นเพราะบริษัทฯ มีการปรับตัวและเลือกที่จะโฟกัสธุรกิจเป็นสำคัญ เสพข่าวสารและปัญหาทางการเมืองน้อยลง ด้วยเพราะต้องการสมาธิมากเป็นพิเศษ เพื่อจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสกลับคืนมา สำคัญที่สุด เป้าหมายหลักที่บริษัทฯ ต้องการจะเห็นคือ ธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นที่ยอมรับและขยายออกไปในวงกว้างทั่วประเทศนั้น ณ เวลานี้ก้าวมาถึงจุดที่เรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ซึ่งในฐานะหนึ่งในฟันเฟืองหลักที่ช่วยขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าว ก็รู้สึกภาคภูมิใจด้วยเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ