กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--โซล คอร์ปอร์เรชั่น
โซล คอร์ปอร์เรชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมแสดงความยินดี ธเนศ ลีลาภรณ์ นักธุรกิจเครือข่ายเจ้าของหนังสือ "รู้ก่อนตอนนี้ ดีกว่ารู้งี้ตอนหลัง" ยอดขายพุ่งติดอันดับ Bestseller ในร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ ย้ำอ่านได้ทุกเพศทุกวัย ได้แง่คิดพิชิตงาน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนชีวิตอนาคตได้ทันที
นางเพ็ญทิพย์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซล คอร์ปอร์เรชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (SOL) เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้นักธุรกิจเครือข่ายระดับผู้นำ "คุณทอม-ธเนศ ลีลาภรณ์" ได้เปิดตัวหนังสือ "รู้ก่อนตอนนี้ ดีกว่ารู้งี้ตอนหลัง" เพื่อถ่ายทอดหลักการและแนวคิดการทำงานจากประสบการณ์ และได้สรุปเป็นบันไดเพียง 7 ขั้น สู่การสร้างอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ระดับเงินล้านต่อเดือน รวมทั้งยังช่วยให้ผู้สนใจที่ร่วมเดินทางในอาชีพนี้จำนวนมากมีรายได้ในระดับที่ดี SOL จึงขอร่วมแสดงความยินดีที่หนังสือดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้อ่านและเป็นหนังสือขายดีมีประโยชน์จนเป็นที่ยอมรับ และได้รับความนิยมติดอันดับ Bestseller ได้ภายในเวลารวดเร็ว เนื่องจากเนื้อหานั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจเครือข่ายและอาชีพอื่นได้ โดยเฉพาะการเปิดเผยเคล็ดลับวิธีสร้างเงินล้านโดยไม่ต้องทำงานเก็บเงินเป็นเวลานานเหมือนกับอาชีพอื่น และผู้เขียนมีความตั้งใจนำรายได้จากการจำหน่ายหนังสือทุกบาททุกสตางค์ไปใช้เพื่อสร้างประโยชน์แก่สังคมเป็นสาธารณกุศล จึงมีความภาคภูมิใจที่นักบริหารธุรกิจเครือข่ายระดับผู้นำมีจิตสาธารณะเสียสละเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้คนและสังคม ทั้งทางตรงและทางอ้อมสมกับที่เป็นผู้นำธุรกิจเครือข่ายสีขาวในยุคนี้
ทั้งนี้ หนังสือ “รู้ก่อนตอนนี้ ดีกว่ารู้งี้ตอนหลัง” จัดพิมพ์ในรูปเล่ม 4 สีสวยงามกับกระดาษถนอมสายตา โดยสำนักพิมพ์สต็อคทูมอร์โรว์ ซึ่งขณะนี้ขึ้นอันดับ Bestseller ของเมืองไทย เนื่องจากในหนังสือเล่มนี้ได้ถ่ายทอดวิธีการทำงานที่มีรายได้หลายล้านบาทต่อเดือน กับบันใด 7 ขั้นสู่การสร้างชีวิตที่ไม่ต้องทำงานไปทั้งชีวิต ถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรงของนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จในวัยเพียง 32 ปี ซึ่งผู้อ่านจะรู้ได้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร? และในระหว่างทางเดินนั้นได้พบกับอุปสรรคอะไร? รวมทั้งมุมมองในการแก้ไขปัญหาและแนวคิดต่าง ๆ ที่ทำให้ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ ที่สำคัญหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อคนที่ทำธุรกิจเครือข่ายอย่างเดียวเท่านั้น แต่แนวคิดและประสบการณ์นั้นคนทั่วไปสามารถนำไปใช้ได้ในการดำเนินชีวิตและการทำงาน ซึ่งสามารถอ่านได้ทุกเพศ ทุกวัย หากเป็นนักเรียนและนักศึกษาถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะทำให้ทราบว่าชีวิตหลังจากเรียนจบแล้วต้องเจอกับอะไรบ้าง? สำหรับคนในวัยทำงานจะทำให้ทราบว่างานที่ทำอยู่สามารถให้สิ่งที่ต้องการได้จริงหรือไม่ ? ส่วนผู้ที่กำลังวางแผนทำธุรกิจส่วนตัวจะทำให้รู้ก่อนว่าควรรู้และวางแผนอย่างไร หากเป็นผู้อ่านที่เป็นผู้มีรายได้มากอยู่แล้วแต่ยังไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร หนังสือเล่มนี้จะทำให้รู้ก่อนว่าอะไรคือทรัพย์สินและอะไรคือหนี้สิน นี่คือเหตุผลที่ทำให้หนังสือ “รู้ก่อนตอนนี้ ดีกว่ารู้งี้ตอนหลัง” ติดอันดับหนังสือขายดีในร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปในขณะนี้