กรุงเทพฯ--11 มิ.ย.--เอเอสวี อินเตอร์ กรุ๊ป
จิ้งหรีด เป็นแมลงที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยมาเป็นเวลาช้านาน สามารถพบได้ทุกภาค เจริญเติบโตและเจริญพันธุ์ได้ดีสำหรับอากาศในประเทศไทย จากอดีตการเลี้ยงจิ้งหรีดในหลายๆประเทศ จะนิยมนำมาแข่งขันเสียงร้องกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในชนบทมักพบเห็นกันจนชินตา และบริโภคเป็นอาหารมาช้านาน เนื่องจากมีรสชาติอร่อย สามารถประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด หาได้ง่ายตามธรรมชาติ วงจรชีวิตสั้น เลี้ยงง่าย โตไว ขายได้เร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จิ้งหรีดพันธุ์ทองแดงลาย ที่ชาวบ้านในแถบภาคอีสานจะเรียกว่า “แมงสะดิ้ง” ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมบริโภคในปัจจุบัน
จากข้อมูลทางโภชนาการระบุว่าจิ้งหรีดมีคุณค่าทางอาหารสูง ในจิ้งหรีด ๑๐๐ กรัม มีปริมาณโปรตีน เท่ากับ ๑๘.๖ กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณโปรตีนที่มีในเนื้อหมู เนื้อไก่ และปลาทู นอกจากนี้ยังมีปริมาณกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด ดังนั้น จิ้งหรีดจึงเป็นอาหารที่เป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกที่มีคุณภาพชนิดหนึ่ง ที่สำคัญจิ้งหรีดเป็นแมลงกินพืชและเป็นแมลงที่มีความไวต่อสารเคมีเป็นอย่างมาก จึงเป็นแมลงที่สะอาดและปลอดภัยจากสารพิษและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ปัจจุบันเราสามารถหาซื้อจิ้งหรีดมาบริโภคได้ตามท้องตลาดทั่วไป และได้มีผู้ประกอบการได้ทำธุรกิจจิ้งหรีดอบกรอบและบรรจุกระป๋องจำหน่ายในต่างประเทศทั้งในแถบยุโรปและออสเตรเลีย นอกจากนี้ จิ้งหรีดยังสามารถนำไปเป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ได้อีกด้วย
“จิ้งหรีด” กลายมาเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่กำลังได้รับความนิยมและสร้างรายได้ให้กับเกษตรผู้เพาะเลี้ยงเพราะมีประโยชน์ทั้งการบริโภคเป็นอาหาร และใช้เป็นอาหารสัตว์ จึงมีการส่งเสริมให้เลี้ยงจิ้งหรีดในฐานะเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
นายนำชัย พรหมมีชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงการส่งเสริมการเลี้ยงจิ้งหรีดในประเทศไทยว่า “ กรมฯ มีบทบาทภารกิจในการส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีทางการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสามารถประกอบอาชีพทางการเกษตร สร้างรายได้ และความมั่นคงให้แก่เกษตรกรและครอบครัว ซึ่งในปัจจุบัน จิ้งหรีดกำลังเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน เนื่องได้รับการยอมรับจากตลาดสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี เพราะมีการดูแลการเพาะพันธุ์และการเลี้ยงที่ไม่ยากเกินไป โดยใช้พื้นที่ไม่มาก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการเลี้ยงใน บ่อปูนซีเมนต์ และมีแหล่งเพาะเลี้ยงใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ซึ่งจริงๆ แล้ว จิ้งหรีดเป็นแมลงที่สามารถอยู่และเติบโตได้ดีในภาวะอากาศร้อนชื้น ซึ่งเท่ากับว่าสามารถเพาะเลี้ยงได้เกือบทุกพื้นที่ของประเทศ โดยหากเกษตรกรมีความรู้และมีความเข้าใจในด้านวิชาการเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงจิ้งหรีด ก็จะช่วยสร้างศักยภาพเพิ่มผลผลิต และเพิ่มคุณภาพ ให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี และนำมาซึ่งรายได้ของเกษตรกรเอง” นายมีชัย กล่าว
นายเพ็ชร วงศ์ธรรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านแสนตอ ตำบลบัวใหญ่ เกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดในอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า “เมื่อก่อนเคยไปศึกษาดูงานร่วมกับกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดขอนแก่น (ศูนย์ฯ ผึ้ง) แล้วกลับมาลงทุนเลี้ยงจิ้งหรีดสร้างรายได้ให้อย่างมาก จนชาวบ้านข้างเคียงเริ่มสนใจหันมาเลี้ยงตาม ซึ่งจิ้งหรีดนั้นเลี้ยงง่าย สามารถใช้เวลาว่างจากการเกษตรหลักมาเพาะเลี้ยงหรือจะเพาะเลี้ยงเป็นอาชีพหลักก็ได้ เพราะการเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดใช้พื้นที่จำกัด และมีความเสี่ยงน้อยเนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ก็ต้องมีความรู้ความเข้าใจในด้านวิชาการควบคู่กันไปด้วยซึ่งก็จะทำให้การเพาะเลี้ยงจิ้งหรีด มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายเพ็ชร วงศ์ธรรม กล่าว
ปัจจุบันที่บ้านผู้ใหญ่เพ็ชร ได้กลายเป็นแหล่งศึกษาด้านการเลี้ยงจิ้งหรีดแหล่งสำคัญของจังหวัด ที่มีผู้สนใจแวะเวียนเข้าไปดูงานอย่างไม่ขาดสาย
จากจิ้งหรีดที่คนไทยคุ้นชินกันในนามของ “ผู้ขับขานบทเพลงจากธรรมชาติ” สู่ ความเป็นสัตว์เศรษฐกิจ ที่ทำรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างเป็นกอบเป็นกำ การสร้างรากฐานทางวิชาการเพื่อส่งเสริมให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดจึงนับเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะเป็นส่วนที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพในด้านต่างๆ ให้กับเกษตร และนำมาซึ่งรายได้ที่จะเข้ามาเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ