กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
วันที่ 10 มิ.ย. 2557 เวลา 13.00 น./พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10), พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล และ พล.ต.ต.จีรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. ได้ออกตรวจตราสภาพการจราจรบนถนนสายต่าง ๆ ในพื้นที่ บก.น.6 หลังการผลักดันนโยบาย 5 จริง เป็นวันที่ 5 จากการสังเกตพบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ การจราจรเป็นระเบียบและมีความคล่องตัวมากขึ้น พบรถที่จอดบนพื้นผิวจราจรบ้างเล็กน้อยเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้อุปกรณ์ล็อกล้อ โดยมุ่งหวังส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนมีวินัยในการจราจรและช่วยกันแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ผบก.จร. เปิดเผยว่า ตัวชี้วัดความสำเร็จของนโยบายนี้ มิได้อยู่ที่ตัวเลขจำนวนรถยนต์ที่ถูกยก หากแต่มองไปถึงการสร้างวินัยทางจราจรให้เกิดขึ้นในใจของพี่น้องประชาชนทุกคน “นานวันไป ยิ่งออกใบสั่งได้น้อยเท่าใด ยิ่งจับกุมได้น้อยเท่าใด นั่นคือความสำเร็จของนโยบาย 5 จริง”
จากนั้น เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.วุฒิฯ ที่ปรึกษา (สบ 10) และคณะ ได้เข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบงานด้านการจราจรจากทุก สน. ใน บก.น.6 เพื่อรับทราบสภาพปัญหาการจราจรในช่วงเวลาต่าง ๆ ของถนนสายสำคัญในพื้นที่ บก.น.6 จากนั้น พล.ต.อ.วุฒิฯ ที่ปรึกษา (สบ 10) ได้สั่งการให้ สน.ต่าง ๆ ใน บก.น.6 เร่งดำเนินการใน 4 ประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. จะต้องเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นการจราจรบนถนนสาทร
2. นำการแก้ไขปัญหาการจราจรในช่วงเช้าบริเวณหน้าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนมาเป็นต้นแบบ แก้ปัญหาจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษาอื่น ๆ ในพื้นที่ บก.น.6
3. เร่งแก้ปัญหาการจราจรในพื้นที่ สน.ปทุมวัน ให้ดีขึ้นภายใน 10 วัน
4. ให้พิจารณาความเหมาะสมเรื่องจุดผ่อนผัน
หลังการประชุมมอบนโยบายและเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ บก.น.6 แล้ว พล.ต.อ.วุฒิฯ ที่ปรึกษา (สบ 10) ได้เปิดเผยว่า ในพื้นที่ บก.น.6 มี สน.ในความรับผิดชอบ 8 แห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจ มีการจราจรคับคั่งเกือบทั้งวัน ประกอบกับบางส่วนของพื้นที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน จึงได้สั่งการให้ผู้รับผิดชอบงานจราจรในพื้นที่ เร่งแก้ไขการจราจรติดขัดบน ถ.สาทรและหน้าสถานศึกษา เช่น โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และ โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก เป็นต้น หลังจากผลักดันให้นโยบาย 5 จริง ไปแล้ว 5 วัน ก็ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี (ปรากฏตามภาพถ่าย) และหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเชื่อว่าการจราจรในกรุงเทพฯ จะลื่นไหลได้แน่นอน