กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--PRDD
สภาวะตลาดวันที่ 23 มิถุนายน 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,310.0-1,317.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM14 อยู่ที่ 20,300 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,250 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM14 อยู่ที่ 648 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 648 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.28 น. ของวันที่ 23/06/14)
แนวโน้มวันที่ 24 มิถุนายน 2557
เอสบีซี (HSBC) และ มาร์กิต เปิดเผยผลสำรวจขั้นต้นแสดงถึงภาคกิจกรรมภาคการผลิตของเอกชนในจีนขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นสัญญาณใหม่ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังมีเสถียรภาพ ขณะที่ตัวเลขนี้ได้หนุนราคาทองคำให้สามารถรักษาระดับไว้ได้ หลังจากราคาทองคำปิดตลาดสัปดาห์ที่ผ่านด้วยการพุ่งขึ้นราว 3 % ถือเป็นการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 3 เดือน และเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาเมื่อสกุลเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าในช่วงสั้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐสามารถทรงตัว ประกอบกับ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาอในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยหุ้นของบริษัท 330 แห่งของสหรัฐปรับตัวเพิ้มสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ได้ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนให้ไหลออกจากตลาดทองคำ โดยไหลสู่ตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดของสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งนี้ แรงขายทองคำยังคงไม่มากนัก แต่ก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำเกิดการปรับฐานในระยะสั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้หลังจากราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้านี้ โดยแนะนำนักลงทุนติดตามเหตุการณ์รุนแรงในอิรัก หากสถานการณ์ความขัดแย้งเพิ่มความวิตกกังวลจากการรุกคืบอย่างรวดเร็วของกลุ่มกบฏ ซึ่งอิรักเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับสองของกลุ่มโอเปก ปัจจัยดังกล่าวจะหนุนราคาน้ำมันดิบให้ทะยานขึ้นอันเนื่องมาจากภาวะชะงักงันด้านอุปทาน และราคาทองคำก็จะถูกดันให้ปรับตัวสูงขึ้นตา เช่นกัน ทั้งนี้ วายแอลจี ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านในโซน 1,332 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่ถ้าไม่สามารถผ่านได้ยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรทางเทคนิคออกมา ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไรเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า หลังจากราคาทองคำทะยานขึ้นในช่วงที่ผ่าน ราคาทองคำอาจชะลอการปรับตัวขึ้นต่อ และในระยะสั้นอาจต้องเคลื่อนไหวในกรอบในรูปแบบการปรับฐานของราคาเพื่อสะสมแรงซื้อาอีกครั้ง ทั้งนี้ หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาทองคำอาจมีย่อตัวลงมา โดยประเมินแนวรับที่ 1,306 หรือ 1,297 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคาก็พร้อมขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,322 หรือ 1,332 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระยะสั้น แนะนำให้เล่นในกรอบให้รอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้าน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,306 (20,060บาท) 1,297 (19,920บาท) 1,283 (19,700บาท)
แนวต้าน 1,322 (20,300บาท) 1,332 (20,460บาท) 1,342 (20,610บาท)
GOLD FUTURES (GFM14)
แนวรับ 1,306 (20,170บาท) 1,297 (20,030บาท) 1,283 (19,820บาท)
แนวต้าน 1,322 (20,420บาท) 1,332 (20,570บาท) 1,342 (20,730บาท)
SILVER FUTURES (SVM14)
แนวรับ 20.55 (640 บาท) 20.35 (633 บาท) 20.20 (629 บาท)
แนวต้าน 21.10 (658 บาท) 21.35 (666 บาท) 21.50 (671 บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148