กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--ถนัดจัดทำ ออแกไนซ์
นิตยสาร SMEs สร้างอาชีพ ประกาศรางวัลเชิดชูเกียรติกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีชั้นนำ ภายใต้ชื่อ “SMEs สร้างอาชีพ อวอร์ด ครั้งที่ 1” ผนึกกำลังสร้างแรงบันดาลใจแก่กลุ่มธุรกิจ คาดสิ้นปี 2557 การเติบโตโดยรวม 1.8% ของภาคธุรกิจเอสเอ็มอี ด้านผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว ม.หอการค้าไทย แนะตลาดต่างประเทศเดินหน้าลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง ประชาธิปไตยประชาชนลาว, กัมพูชา
นางสาวพรทิพย์ แก่นจันทร์ บรรณาธิการบริหารนิตยสาร SMEs สร้างอาชีพ เปิดเผยว่า “สำหรับนิตยสาร SMEs สร้างอาชีพได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ มีจุดแข็งในการทำข่าวเชิงธุรกิจแก่ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี กำลังจะก้าวสู่ปีที่3 จึงได้จัดงานประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติแก่ผู้ประกอบการ ภายใต้ชื่อ “ SMEs สร้างอาชีพ อวอร์ด ครั้งที่ 1” วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ณ สมาคมศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ สาธร ซอย 1
จุดประสงค์ของการจัดกิจกรรมนี้ เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ได้มาพบปะสังสรรค์และได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านธุรกิจกัน พร้อมกันนี้การจัดประกาศรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ประกอบการที่มีการพัฒนาและดำเดินธุรกิจจนประสบความสำเร็จ และให้เกิดความภูมิใจ อีกทั้งต้องการสร้างความตื่นตัวในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ให้มีแรงกระตุ้นและพัฒนาธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ และถือเป็นโอกาสนี้จัดเลี้ยงขอบคุณสปอนเซอร์ผู้สนับสนุน เนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปีก้าวสู่ปีที่ 3 ของทางนิตยสารฯ อีกด้วย
นอกจากนี้สิ่งที่คาดหวังให้กลุ่มนักธุรกิจหรือนักลงทุนในธุรกิจ SMEs เกิดความสนใจและเข้าร่วมงานเพื่อให้เกิดแรงกระตุ้นจูงใจในการที่จะพัฒนาธุรกิจเพื่อแข่งขันเข้ารับรางวัลและร่วมกิจกรรมในการจัดงานของปีต่อๆไป เพื่อให้อีกทั้งกลุ่มผู้ประกอบการเกิดไอเดียและความคิด แรงบันดาลใจจากการร่วมแชร์ประสบการณ์ พร้อมยังสร้างความภาคภูมใจสำหรับธุรกิจที่ได้รับรางวัลดีเด่น และสามารถนำไปต่อยอดกิจการในอนาคต
สำหรับแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานนี้ประกอบด้วยกลุ่มนักธุรกิจผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ชั้นนำของไทย อาทิ ผู้บริหารกลุ่มบริษัท ADT ONLIND ผู้ผลิตตู้เติมเงินมือถืออันดับหนึ่งของเมืองไทย, กลุ่ม หจก. วันเดอร์ไลฟ์เจ้าของผลิตภัณท์เสริมอาหาร D-VITE, ผู้บริหารแบรนด์ Sweet’n Soft เจ้าของแฟรนไซน์เค้กอันดับหนึ่งของเมืองไทย และผู้บริหารจากอีกหลายธุรกิจที่เป็นผู้นำด้านการตลาด SME รวมถึงผู้มีประสบการณ์และความรู้ด้านธุรกิจ SME จากหลายสถาบัน เป็นต้น
ด้านภาพรวมเศรษฐกิจ SME ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 นับเป็นปีแห่งความท้าทายของผู้ประกอบธุรกิจ SMEs อย่างมาก ความเปลี่ยนแปลงในภาคการเมืองที่ผ่าน มาส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจของทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งหลังจากการเปลี่ยนแปลงในเชิงมหภาคครั้งใหญ่ทางการเมือง ซึ่งถึงตอนนี้ทิศทางของภาคธุรกิจเอสเอ็มอีในช่วงครึ่งปีหลังนั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยโตไม่ถึง 1% พร้อมคาดการณ์ว่าหากในช่วงครึ่งปีหลังนี้ การเมืองคลี่คลาย เศรษฐกิจไทยน่าจะดีขึ้น โดยมีโอกาสจะเติบโตได้ราว 3% แต่เมื่อรวมทั้งปีน่าจะอยู่แค่เพียง 1.8%
ส่วนทางด้าน ผศ. ดร.เอกชัย อภิศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเสริมว่า “ จากการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม จะเห็นว่าสถานการณ์ธุรกิจเอสเอ็มอีในช่วงครึ่งปีหลัง อาจอยู่ในภาวะกาณ์ที่ลำบาก เนื่องจากเกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดจากปัจจัยมากมาย อาทิ ความกังวลเรื่องของงบประมาณ ความไม่ชัดเจนของหลายภาคส่วนทำให้การลงทุนชะงัก ภาคเกษตรผลผลิตตกต่ำ ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้เศรษฐกิจไทย เกิดการชะลอตัว
ส่วนธุรกิจที่มีความเสี่ยงมากจากนี้ไป คือกลุ่มธุรกิจที่ใช้เงินทุนสูงมากๆ อย่างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ซึ่งจะกระทบกันเป็นลูกโซ่ และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ส่วนภาคการเกษตรนั้น ยังคงน่าเป็นห่วงอยู่ เพราะสินค้าเกษตรอยู่ในภาวะตกต่ำ
“ในช่วงครึ่งปีจากนี้สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีต้นทุนไม่สูงมากนัก ก็เชื่อว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่ถ้าธุรกิจใดที่ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงมาก ก็น่าเป็นห่วงอยู่พอสมควร แต่ถ้าผู้ประกอบการธุรกิจมีสินค้าหรือบริการที่แข็งแกร่ง มี Know How อยู่แล้ว ก็ต้องเร่งมองหาตลาดการค้าใหม่ๆ พร้อมมองหาพาร์ทเนอร์ในการทำธุรกิจใหม่ โดยในช่วงแรกนี้อาจโฟกัสไปที่ตลาดในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง ประชาธิปไตยประชาชนลาว, กัมพูชา ฯลฯ ” ผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย