บล.ทรีนีตี้ ชี้ดัชนีหุ้นไทยก.ค.สวิงหนักในกรอบ 1,440-1,520 จุด รับฟันด์โฟล์ต่างชาติ-สภาพคล่องส่วนเกิน 2 หมื่นล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 3, 2014 12:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง บล.ทรีนีตี้ คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยเดือนกรกฎาคม ผันผวนสูงในกรอบ 1,440-1,520 จุด ก่อนจะทะยานสู่กรอบลงทุนใหม่ 1,500-1,600 จุด ในระยะ 3-12 เดือน ตอบรับฟันด์โฟล์ต่างชาติ และสภาพคล่องส่วนเกินของพันธบัตรออมทรัพย์ครบอายุกว่า 2 หมื่นล้านบาท บวกข่าวดีอัตรา GDP ปีหน้าแตะ 5-5.5% แนะนำการลงทุนตามสไตล์ The Big Picture มั่นใจผลตอบแทนชนะตลาด สั่งลุยหุ้น PTT, PTTEP, ADVANC, AUCT, HMPRO, SAWAD,BMCL, TRUE, AQUA, WHA ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเดือนกรกฎาคมนี้ ว่า ทีมฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ทรีนีตี้ คาดการณ์ดัชนี SET Index มีแนวโน้มปรับตัวผันผวนค่อนข้างมากลักษณะ W Shape ในกรอบ 1,440-1,520 จุด โดยมองว่ายังคงมีปัจจัยสนับสนุนที่มีโอกาสทำให้ดัชนี SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,500-1,520 จุด จากสภาพคล่องในประเทศที่เอ่อล้นจากการครบกำหนดอายุของพันธบัตรออมทรัพย์ 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีสภาพคล่องส่วนเกินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และอาจทำให้เม็ดเงินส่วนหนึ่งไหลเข้าสู่ตลาดหุ้น ประกอบกับทิศทางการไหลของเงินลงทุน (Fund flow) เริ่มมีแนวโน้มไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลังล่าสุดนักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้นไทยต่ำสุดในรอบ 5 ปี ขณะที่ตลาดได้รับปัจจัยเชิงบวกจากการปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจ โดยการแต่งตั้ง "ซูเปอร์บอร์ด” และคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) ที่ดีขึ้นในปีหน้าที่ 5.0-5.5% ส่งผลทำให้ตลาดตลาดหุ้น Rollover การใช้ PE ไปเป็นปี 2558 และจะทำให้ดัชนี SET Index ถูก Re-rate ไปสู่ระดับ 1,500–1,600 จุด ในระยะ 3-12 เดือน อย่างไรก็ดีในเดือนกรกฎาคมนี้ ตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งมี 2 ปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้ดัชนี SET Index ปรับตัวลงได้อย่างรวดเร็ว ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบที่อาจปรับตัวสูงขึ้นหากสถานการณ์ในอิรักปรับตัวรุนแรงขึ้น และอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) ของสหรัฐฯที่อยู่ในระดับต่ำอาจปรับตัวสูงขึ้นหากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) สาขาต่างๆ มีการแสดงความเห็นในเชิงเข้มงวดทางการเงิน (Hawkish) มากขึ้น นอกจากนั้นยังคงมีผลกระทบเล็กน้อยจากความรู้สึก (Sentiment) เชิงลบจากการลดอันดับสถานการณ์การใช้แรงงานของไทยและความสัมพันธ์กับทางอียู สำหรับหุ้นที่แนะนำลงทุนในเดือนกรกฎาคม ได้แก่ กลุ่มพลังงานที่ได้ Sentiment เชิงบวกจากการปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ PTT, PTTEP, กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคภายในที่ฟื้นตัว ได้แก่ ADVANC, AUCT, HMPRO, SAWAD, กลุ่มที่ธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงการปรับฐานขาขึ้น (Turnaround) ได้แก่ BMCL, TRUE และกลุ่มที่มีมูลค่าซ่อนเร้นอยู่ในสินทรัพย์ (Asset Play) ได้แก่ AQUA, WHA ซึ่งลักษณะการลงทุนยังคงแนะนำในลงทุนแบบ Theme ระยะ 1-3 เดือน ตามแบบผลิตภัณฑ์ The Big Picture ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทรีนีตี้ทุ่มเทคิดค้น และยังคงสามรถสร้างผลตอบแทนที่ดีเหนือ SET ได้อย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นที่แนะนำใน The Big Picture สำหรับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทน 8.7% ในขณะที่ดัชนี SET Index ให้ผลตอบแทนเพียง 4.9% สำหรับ Portfolio ของ The Big Picture ให้ผลตอบแทนทั้งหมดตั้งแต่จัดตั้งระยะเวลา 48 เดือน สูงถึง 584% เทียบกับดัชนี SET index ที่ 86%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ