ปภ.แนะหลักการขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังอย่างปลอดภัย

ข่าวทั่วไป Monday July 7, 2014 12:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะหลักการขับรถและข้อควรระวังในการขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง โดยผู้ขับขี่ควรประเมินสภาพเส้นทาง ระดับความลึกและความแรงของกระแสน้ำ ไม่ขับรถเร็ว ห้ามเปิดแอร์อย่างเด็ดขาด รวมถึงใช้เกียร์ต่ำในขณะขับรถ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า การขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงและรุนแรงกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ขอแนะหลักการขับรถและข้อควรระวังในการขับผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ดังนี้ การขับรถผ่านเส้นทางที่มี น้ำท่วมขัง ผู้ขับขี่ควรประเมินสถานการณ์ ทั้งสภาพเส้นทาง ระดับความลึกและความแรงของกระแสน้ำ โดยสังเกตจากรถ ที่ขับนำหน้าหรือสวนทางมา หากระดับน้ำท่วมสูงกว่าขอบประตูรถหรือ 1 ใน 3 ของล้อ รวมถึงมีกระแสน้ำไหลเชี่ยว ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ไม่ควรขับรถฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากอย่างเด็ดขาด เพราะรถจะถูกน้ำพัดออกนอกเส้นทาง ทำให้รถจมน้ำได้ กรณีน้ำท่วมระดับผิวถนน ผู้ขับขี่ควรใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. ไม่เร่งเครื่องยนต์ เพราะความแรงของน้ำที่ถูกยางล้อรถรีด ทำให้น้ำกระจายขึ้นมาเต็มกระจกหน้ารถ จนบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง กรณีน้ำท่วมระดับท้องรถ ควรขับรถ ให้ช้าที่สุด รักษาความเร็วให้อยู่ในระดับเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ พร้อมขับรถไปตามแนวการขับขี่ของรถคันหน้า เพื่อป้องกันรถออกนอกเส้นทาง โดยขับรถบนถนนส่วนที่น้ำตื้นที่สุดและระวังคลื่นน้ำจากรถที่ขับสวนทางมา เพราะกระแสน้ำอาจพัด เข้าห้องเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์ดับ ส่งผลให้รถลอยตัว จนไม่สามารถควบคุมทิศทางของรถ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ข้อควรระวัง ในการขับผ่านเส้นทางน้ำท่วมขัง ห้ามเปิดแอร์อย่างเด็ดขาด เพราะพัดลมแอร์จะพัดน้ำกระจายเข้าสู่ห้องเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์ดับ รวมทั้งอาจพัดขยะลอยเข้าไปติดมอเตอร์พัดลมหรือใบพัด ทำให้ระบบระบายความร้อนขัดข้องจนรถไม่สามารถ วิ่งต่อไปได้ รวมถึงใช้เกียร์ต่ำในการขับรถ สำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดา ควรใช้เกียร์ 1 หรือ เกียร์ 2 พยายามเลี้ยงคลัตช์ไว้ พร้อมเร่งเครื่องยนต์ให้รอบเครื่องสูงกว่าปกติเล็กน้อย ส่วนรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ควรใช้เกียร์ L และใช้ความเร็วอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ให้คงที่ ขับรถให้ช้าที่สุด หลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องและลดความเร็วสลับไปมา เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ ขัดข้องได้ หลังขับรถลุยน้ำ ให้เหยียบย้ำเบรกเบาๆ แบบถี่ๆ อย่างน้อย 3 – 4 ครั้ง เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก แต่ต้องระมัดระวังรถที่ขับตามหลังมา หากเป็นรถเกียร์ธรรมดา ต้องเหยียบย้ำเบรกและคลัตช์ เพื่อป้องกันคลัตช์ลื่น ทำให้เบรกรถไม่อยู่ รวมถึง ไม่ควรดับเครื่องยนต์ทันที หลังขับรถลุยน้ำให้หาสถานที่ปลอดภัย เพื่อขับรถเดินหน้าและถอยหลังแล้วเบรกแรงๆ หลายๆ รอบ จะช่วยรีดน้ำออกจากผ้าเบรกได้หมด จากนั้นให้เดินเครื่องยนต์ไว้สักพัก เพื่อให้น้ำที่ค้างอยู่ในหม้อพักและท่อไอเสียระเหยออกจนหมด ทั้งนี้ การเรียนรู้หลักการขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงฤดูฝน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ