กรุงเทพ--27 ก.พ.--กรมศุลกากร กรมศุลกากรปรับมาตรการเพิ่มความคล่องตัวให้ธุรกิจส่งออกสนองนโยบายนายกรัฐมนตรีทันที ออกประกาศเร่งยืดหยุ่นให้อุตสาหกรรมภายใต้การส่งเสริมของบีโอไอ เปิดคลังทัณฑ์บนจำหน่ายหรือโอนสินค้าระหว่างโรงงานในลักษณะ INDIRECT EXPORT ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น นายสมใจนึก เองตระกูล อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรได้แก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการยกเว้นอากรสำหรับของที่นำเข้ามาผลิตในคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงผลิตสินค้า แล้วจำหน่ายหรือโอนให้แก่ผู้ผลิตเพื่อส่งออก ซึ่งได้รับสิทธิส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อแก้ไขความไม่คล่องตัวในการตรวจสอบดำเนินพิธีการศุลกากร ในเรื่องการขอโอนสิทธิจากผู้ผลิตในคลังสินค้าทัณฑ์บนไปสู่ผู้ผลิตที่ได้รับสิทธิภายใต้การส่งเสริมของบีโอไอในการผลิตส่งออกในลักษณะ INDIRECT EXPORT เดิมที่มีความเข้มงวดรัดกุม ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากมติในการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 6/2541 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมีการหารือถึงปัญหาความไม่คล่องตัวในเรื่องนี้ เป็นเหตุให้นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กรมศุลกากรร่วมกับทางกรมศุลกากรร่วมกับทางบีโอไอเร่งผลักดันแก้ไขให้เสร็จสิ้นโดยด่วนภายในเดือนเมษายน ศกนี้ ดังนั้น กรมศุลกากรจึงได้เร่งหาทางปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการยกเว้นอากร สำหรับของที่นำมาผลิตในคลังสินค้าทัณฑ์บน และจำหน่ายหรือโอนให้กับผู้ผลิตเพื่อส่งออกที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ตามชนิด ปริมาณ และน้ำหนักของที่ระบุในหนังสือคำร้องของผู้ประกอบการและหนังสือรับรองของบีโอไอ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องผลิตส่งออกภายในระยะเวลาที่ทางบีโอไอกำหนด หากผู้ใดรับส่งเสริมการลงทุนไม่ผลิตส่งออกภายในระยะเวลาทางบีโอไอจะแจ้งให้กรมศุลกากรเรียกเก็บภาษีอากร อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกมากที่สุด โดยกรมศุลกากรได้ออกประกาศแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2541 เป็นต้นไป--จบ--