กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สั่งการระงับการโฆษณาของสถานบริการเสริมความงามผ่านทางเว็บไซต์ ผิดพรบ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 38 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2546) เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการโฆษณาสถานพยาบาล เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อสถานเสริมความงามโฆษณาเกินจริง และแพทย์ต้องมีจรรยาบรรณ
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า จากกรณีที่ทีมแพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ได้มีการให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา กรณีการเสริมหน้าอกของนางแบบสาว ด้วยข้อความที่ว่า “อัปไซส์ 800 cc ใหญ่ที่สุดในโลก,เป็นผู้หญิงไทยคนแรกที่ไซส์ใหญ่ที่สุดค่ะ,แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการกระชับสัดส่วน ปรับรูปหน้า และศัลยกรรม, ก็ต้องบอกว่าหนักใจครับแต่ว่าก็ต้องใช้ทีมแพทย์แล้วก็ด้วยเทคนิคต่างๆ ก็ต้องทำการบ้านมาล่วงหน้าเหมือนกันฮะ แล้วก็รอยแผลที่ลงเนี่ยลงผ่านทางรักแร้ก็ยากมาก” ผ่านทางสื่อต่างๆ กรมสบส.ได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่า การนำเสนอข้อความดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการโฆษณาสถานพยาบาลเกินจริง ซึ่งต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 38 ประกอบกับประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2546) เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการโฆษณาสถานพยาบาล พบว่ามีการโฆษณาฝ่าฝืนกฎหมาย ดังนี้ 1.ข้อความที่ว่า “อัปไซส์ 800 cc ใหญ่ที่สุดในโลก, เป็นผู้หญิงไทยคนแรกที่ไซส์ใหญ่ที่สุดค่ะ” เป็นการ โอ้อวดเกินจริง หรือข้อความที่กล่าวอ้างหรือบ่งบอกว่าตนเองดีกว่า เหนือกว่า ดีที่สุด ด้วยความประสงค์ที่จะทำให้ผู้รับบริการหรือผู้บริโภคเข้าใจว่าการบริการของสถานพยาบาลแห่งนั้นมีคุณภาพมาตรฐานที่ดีกว่า เหนือกว่า หรือสูงกว่าสถานพยาบาลอื่นหรือทำให้เกิดความคาดหวังว่าจะได้รับบริการที่ดีกว่าหรือได้ผลสูงสุด ตามประกาศฯ ตามข้อ 4,4.6 และ 2. ข้อความ “แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการกระชับสัดส่วน ปรับรูปหน้า และศัลยกรรม, ก็ต้องบอกว่าหนักใจครับแต่ว่าก็ต้องใช้ทีมแพทย์แล้วก็ด้วยเทคนิคต่างๆ ก็ต้องทำการบ้านมาล่วงหน้าเหมือนกันฮะ แล้วก็รอยแผลที่ลงเนี่ยลงผ่านทางรักแร้ก็ยากมาก” เป็นการใช้ข้อความโฆษณาความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญในการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ หรือประสิทธิภาพประสิทธิผลของผู้ประกอบวิชาชีพทำให้ประชาชนเกิดความคาดหวังในสรรพคุณเกินความเป็นจริง ฝ่าฝืนประกาศฯ ตามข้อ 4,4.7 และในขณะนี้ได้มีการระงับการโฆษณาดังกล่าวข้างต้นแล้วและส่งดำเนินการตามมาตรา 68 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาทและปรับรายวันอีกหากยังฝ่าผืนไม่ระงับการโฆษณาดังกล่าว
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ยังกล่าวย้ำด้วยความห่วงใยว่า การโฆษณาการเสริมความงามในปัจจุบันมีการโฆษณาเกินจริงแฝงอยู่ตามสื่อต่างๆ และสื่อโซเซียลมีเดีย ทำให้ประชาชนหลงเชื่อ และเป็นการกระตุ้นความต้องการให้อยากทำมากขึ้น ซึ่งการควบคุมนั้นทำได้ลำบาก กรมสบส.จึงขอเตือนผู้ที่มีความสนใจทำศัลยกรรมเสริมความงาม ควรจะมีการศึกษาหาข้อมูลโดยละเอียดทั้งก่อนและหลังการทำศัลยกรรมก่อนการตัดสินใจ หรือแม้กระทั่งการเลือกสถานพยาบาลต้องได้มาตรฐานตามที่กรมสบส.กำหนด และแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด ต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการทำศัลยกรรม เพราะแพทย์แต่ละท่านจะมีประสบการณ์ ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะต้องแจ้งให้คนไข้ทราบถึงผลกระทบ และมีส่วนร่วมในการวางแผนก่อนการตัดสินใจด้วย ในกรณีนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้ส่งเรื่องให้ทางแพทยสภาพิจารณาดำเนินการตามพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม หรือหากมีข้อสงสัยสามารถขอคำแนะนำได้ที่ สายด่วนสบส. 02-193-9999 ตลอด 24 ชั่วโมง และพบเห็นคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน แจ้งข้อมูลข่าวสาร ได้ที่ Facebook : มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน