กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,294 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,286 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.10 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,550 บาท กับ 19,650 บาท และกลับมาปิดที่ 19,600 บาท กับ 19,700 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 774 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,172 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.6% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.1% GFQ14 ปิด 19,730 บาท และ GFV14 ปิด 19,780 บาท GF10Q14 ปิดที่ 19,720 บาท GF10V14 ปิดที่ 19,780 บาท
สัญญา Comex ลดลง 14.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,282.8 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 2.1 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 98.17 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 801.84 ตัน (คงทองคำเท่าเดิม)
ข่าวที่สำคัญ
ทองคำได้รับแรงกดดัน จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด จึงส่งผลให้ทองคำถูกสกัดกั้นในการถือครองเป็นสินทรัพย์เสี่ยง เมื่อเทียบกับตลาดหุ้น
รายงานจาก ลอนดอน บุลเลียน ระบุว่า ปริมาณการถือครองทองคำแท่งในเดือนกรกฎาคมปรับตัวลดลง 5.5% โดยมีปริมาณเฉลี่ยการซื้อขายเพียง 17.9 ล้านออนซ์/วัน
อินเดียกำลังพิจารณาการคุมเข้มนโยบายการนำเข้าทองคำครั้งใหม่ ด้วยความกังวลที่ว่าอาจมีการลักลอบนำเข้าทองคำเข้าสู่ประเทศอย่างผิดกฎหมาย
SPDR ไม่ได้ทำอะไรมา 5 วันทำการ ปัจจุบันยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 801.84 ตัน ตลอดเดือนกรกฎาคมSPDR อยู่ในสถานะซื้อเข้าที่ระดับ 11.14 ตัน ซึ่งเป็นเดือนที่มีการซื้อเข้ามากที่สุดในปี 2557
นาย โจเอล นารอฟ นักเศรษฐศาสตร์ของฮอลแลนด์ กล่าวว่า หากว่าอัตราคนว่างงานของสหรัฐฯยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ก็จะช่วยลดแรงกดดันจากข้อมูลการภาคแรงงานที่ออกมาไม่ค่อยดีนักในสัปดาห์นี้ได้ เนื่องจากข้อมูลการจ้างงานเป็นข้อมูลสำคัญที่สมาชิกเฟดส่วนใหญ่เฝ้ารอคอย
ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า หากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง เฟดอาจหันกลับมาพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในคืนนี้ คือตัวเลขการจ้างงานของภาครัฐบาล และอัตราคนว่างงาน
รายงานจากบลูมเบิร์ก ระบุว่า การเจรจาเกี่ยวกับภาวะหนี้สินของรัฐบาลอาเจนติน่ากับบริษัท อีเลียต เมเนจเม้น ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เป็นไปอย่างน่าผิดหวัง หลังจากที่การเจรจาขอลดภาวะหนี้สินที่อาเจนติน่าจะต้องจ่ายเป็นจำนวน 2.48 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ไม่ประสบผลสำเร็จ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของอาเจนติน่าเพิ่มสูงขึ้น และยังทำให้รัฐบาลอาร์เจนตินาไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรวงเงิน 539 ล้านดอลลาร์ให้แก่กลุ่มผู้ถือครองพันธบัตรได้ตามกำหนด
อย่างไรก็ดี สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศปรับลดความน่าเชื่อถือในตราสารหนี้ของรัฐบาลอาร์เจนตินาลงสู่ระดับ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน" จากระดับ "CCC-/C"
ยูโรสแตท เผยอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนอ่อนตัวลงแตะ 0.4% ในเดือนก.ค. จากระดับ 0.5% ซึ่งการปรับตัวของเงินเฟ้อมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มแรงกดดันต่ออีซีบีให้เร่งดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่อีซีบีได้ใช้มาตรการผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภูมิภาค อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนก็อยู่ต่ำกว่า 1% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรปถึงครึ่งหนึ่ง
ข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ของเยอรมนีออกมาอย่างสดใส อันได้แก่ ยอดค้าปลีกของเยอรมนี ที่ปรับตัวสูงขึ้น ปรับตัวขึ้น 1.3% ในเดือนมิถุนายน และตัวเลขคนว่างงานเดือนก.ค.ลดลง 12,000 คน สู่ระดับ 2.9 ล้านคน ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซน กำลังมีความแข็งแกร่งมากขึ้น หลังจากเผชิญกับภาวะชะลอตัวในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้
ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3390 ดอลลาร์/ยูโร เพราะได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี ที่ระดับ 0.4% จากระดับ 0.5% ส่งผลให้เกิดความกังวลว่ายูโรโซนอาจกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืด
ส่วนค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากกระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 23,000 ราย แตะที่ 302,000 ราย หลังจากลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปีที่ระดับ 279,000 ราย ในสัปดาห์ก่อนหน้า
สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า กองกำลังทหารของอิสราเอลและปาเลสไตน์ ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเป็นเวลา 3 วัน จากการเจรจา ณ กรุงไคโร โดยจะเริ่มต้นหยุดยิงในเช้าวันนี้
รัสเซีย ประกาศ ระงับการนำเข้าสินค้าจากยูเครน และอาจรวมไปถึงสินค้าจากสหรัฐฯ และกรีซด้วย เพื่อเป็นการตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
องค์กรการค้าโลก (WTO) ล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงภาษีนำเข้าและส่งออก ซึ่งเป็นการปฏิรูปการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี เนื่องจากถูกอินเดียต้องการสัมปทานในการเก็บสำรองผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรไว้ในคลังสินค้า
เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดปรับตัวลดลง 1.88% ขณะที่ดัชนีนิเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดร่วงลง -0.70% ในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของอาร์เจนตินา
นักบริหารเงิน ระบุว่า ค่าเงินบาทยังคงอยู่ในทิศทางอ่อนค่า และคาดว่าวันนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.00 - 32.30 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่ารุนแรง หลัง GDP ของสหรัฐออกมาดีมาก ขณะที่ปัจจัยสำคัญสำหรับเงินบาทวันนี้ ได้แก่ การประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ หรือ Non Farm Payroll คืนนี้
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 51.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 51 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนกำลังขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 279K ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 302K
- Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 62.6 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 52.6
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
- Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 288K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 231K
- Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 6.1% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเท่าเดิมอยู่ที่ระดับ 6.1%
- Core PCE Price Index m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเท่าเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2%
- Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.5%
- Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 81.3 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 81.5
- ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 55.3 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 56.1
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในช่วงตลาด COMEX ท่ามกลางการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วของหุ้นอเมริกาและทั่วโลก โดยภาพรวมมี Comment จากอดีตประธานเฟด ที่กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น Wall Street ว่าอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง ทำให้ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงกว่า 1.88% และกดดันภาวะตลาดหุ้นของเอเชียในทิศทางขาลง มีการโยกเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นอย่างมาก จนทองคำหลุดแนวรับสำคัญ 1,290 และ 1,285 เหรียญลงมา โดยภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนนี้ดูจะดีขึ้น ขณะที่ Non-Farm Payrolls คาดว่าจะมีการจ้างงานลดลง และคาดว่า Unemployment Rate จะอยู่ในเกณฑ์เท่าเดิม 6.1% ตลาดพูดถึงความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะปรับดอกเบี้ยเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ เมื่อวานนี้ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ยังคงถือครองที่ระดับ 801.84 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำหลุดระดับแนวรับสำคัญ 1,285 ทำให้ทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงโดยสมบูรณ์ ทั้ง ในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว มีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,250 เหรียญ และแนวต้าน 1,295 เหรียญ คาดว่าวันนี้จะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,270 – 1,290 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้เก็งกำไรในกรอบ ลงซื้อ-ขึ้นขาย แต่หากหลุดแนวรับให้ทำ Stop Loss
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำให้ปิดสถานะ และมี Stop Loss ตั้งแต่ 1,290 เหรียญ
-นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ซื้อทำกำไรเป็นช่วงๆ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ซื้อกลับเพื่อทำกำไร และหาจังหวะ Short โดยลงทุนลักษณะแนวโน้มขาลง
Gold Futures Q14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,630 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,830 บาท
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,680 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,880 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงาน Post Today Expo 2014 จัดขึ้นวันที่ 31 ก.ค. – 2 ส.ค. 57 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พิเศษ ! เสาร์ที่ 2 ส.ค.57 พบกับงานสัมมนาของ MTS Gold ในหัวข้อ “ทองคำยังน่าลงทุนไหม” โดย คุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ เวลา 15.15-16.45น.