กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--หอการค้าไทย
หอการค้าไทย ร่วมกับ IMET ทำโครงการส่งเสริม SMEs ไทยไปลงทุนในอาเซียน เริ่มที่เวียดนาม เป็นโครงการต้นแบบ มีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา แนะนำ การบริหารจัดการทั้งระบบ
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้กำหนดไว้ในพันธกิจที่ 2 เรื่อง การพัฒนาเพิ่มพูนทักษะ ความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ SMEs (Competency Enhancement)
ด้วยการจัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs เพื่อส่งเสริมการทำธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs
นายอิสระ กล่าว่า การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้มีศักยภาพในการแข่งขันไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น ยังมีพันธกิจสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การพัฒนาเครือข่าย และความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับโลก เพื่อการพัฒนาธุรกิจทุกภาคส่วน ด้วยการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ไทยให้สามารถเติบโตและแข่งขันในตลาดอาเซียนได้อย่างยั่งยืน ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ได้มีการจัดคณะนักธุรกิจเดินทางไปเจรจาจับคู่ธุรกิจและสำรวจศักยภาพทางการค้า และการลงทุนในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เมียนมาร์ สปป.ลาว กัมพูชา มาเลเซีย และอังกฤษ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีแผนจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาจับคู่ธุรกิจชายแดน เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนและข้ามแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเริ่มจากชายแดนไทย-เมียนมาร์ ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2557 โดยจะมีการเชิญนักธุรกิจเมียนมาร์จากรัฐกะเหรี่ยง รัฐมอญ และย่างกุ้งมาร่วมงาน และจัดแสดงสินค้า
อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจในต่างประเทศให้ประสบความสำเร็จได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยความรู้และความเชี่ยวชาญ รวมทั้งประสบการณ์ด้านการค้าและการลงทุนในประเทศนั้น ๆ อาทิเช่น ด้านกฏระเบียบการค้า ระบบการเงินและการธนาคาร และกฎหมาย เป็นต้น
หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย (IMET) ส่งเสริมความเจริญทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย ด้วยการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยไปเติบโตในต่างประเทศ โดยจัดทำ โครงการนำผู้ประกอบการ SMEs ไทยไปลงทุนในเวียดนาม ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบของปี 2557 ในลักษณะบริการคลินิกธุรกิจพี่เลี้ยงอาสาสมัคร นับว่าเป็นมิติใหม่ของการสนับสนุนการสร้างโอกาสความสำเร็จให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทยที่มีศักยภาพและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ของหอการค้าไทยที่มีความพร้อม และตั้งใจที่จะไปลงทุนในเวียดนาม โดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จะเป็นผู้กลั่นกรองรายชื่อผู้ที่จะไปลงทุนในเวียดนามตามโครงการนี้
“เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง มีการเติบโตและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ตลาดผู้บริโภคมีกำลังการซื้อสูง และที่สำคัญมีธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จในการเข้าไปลงทุนในเวียดนามกว่า 100 บริษัท โดยจะมีธุรกิจพี่เลี้ยงอาสาสมัครทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ให้คำปรึกษา แนะนำ และชี้ช่องทางในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม แก่ผู้ประกอบการ SMEs ไทย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น” นายอิสระกล่าว
นายชุมพล พรประภา ประธานมูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย (IMET) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกับ IMET ในครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือในการส่งเสริมความเจริญทางด้านเศรษฐกิจให้กับประเทศ โดยส่งเสริมให้ภาคเอกชน โดยเฉพาะ SMEs ไทย สามารถไปลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมา IMET ได้เคยร่วมงานกับหอการค้าไทย ในการจัดทำแผนนโยบาย และการบริหารจัดการให้กับหอการค้าจังหวัด เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ของเครือข่ายนักธุรกิจต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ
นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานมูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย (IMET) ในฐานะประธานโครงการ การนำนักธุรกิจไทยไปลงทุนในเวียดนาม กล่าวว่า ภาคเอกชนเห็นความสำคัญของธุรกิจ SMEs ไทย ที่จะไปลงทุนในประเทศอาเซียน จึงได้มีการจัด “บริการคลินิคธุรกิจพี่เลี้ยงอาสาสมัคร” ภายใต้โครงการ “การนำธุรกิจไทยไปลงทุนในเวียดนาม“ เพื่อเป็นโครงการต้นแบบ ที่จะร่วมมือกันระหว่างบริษัทไทยที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนในเวียดนาม กับ IMET และหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในการให้คำปรึกษา แนะนำทางด้านการจัดการ การลงทุน กฎหมาย การจัดตั้งธุรกิจ ทั้งในประเทศและระหว่างที่อยู่ในเวียดนาม โดยธุรกิจ SMEs ไทยจะได้รับการคัดสรร เพื่อเข้ารับการบริการ จะมีพี่เลี้ยงธุรกิจส่วนตัว และการให้คำปรึกษา แนะนำ จากผู้มีประสบการณ์ในการลงทุนโดยตรง
สำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ จะต้องเป็น SMEs และมีความตั้งใจที่จะเข้าไปลงทุนในเวียดนาม และได้มีการศึกษาเบื้องต้นในการไปลงทุนในเวียดนาม โดยขอบเขตในการให้คำปรึกษา จะประกอบไปด้วย 1. กระบวนการ ขั้นตอนในการลงทุน 2. กฎหมายหรือระเบียบที่ควรพิจารณา 3. พันธมิตรทางธุรกิจ 4. การติดต่อหน่วยงาน หรือหน่วยองค์กรที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ 5. การระมัดระวังความเสี่ยง / ปัญหาอุปสรรค / แนวทางแก้ปัญหา และ6. ข้อแนะนำอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนในเวียดนาม
ส่วนขั้นตอน/กระบวนการคัดสรรธุรกิจ เพื่อเข้ารับบริการคลินิกธุรกิจพี่เลี้ยงอาสาสมัคร ประกอบด้วยขั้นตอนที่ 1 ผู้ประกอบการที่สนใจจะไปลงทุน กรอกแบบประเมินศักยภาพธุรกิจเพื่อดูความพร้อมเบื้องต้นขั้นตอนที่ 2 IMET ประเมินความพร้อมของผู้ประกอบการ
ขั้นตอนที่ 3 บริษัทที่จะไปลงทุนศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในตลาดเวียดนาม
1.ด้านการตลาด
2.ด้านการดำเนินงาน
3.ด้านการเงิน
ขั้นตอนที่ 4 จับคู่ธุรกิจที่ได้รับการคัดสรรกับพี่เลี้ยงอาสาสมัครฯMatch Maker (Matching)
ขั้นตอนที่ 5 รับคำปรึกษาจากพี่เลี้ยงอาสาสมัคร
ข้อมูลการค้าไทย-เวียดนาม (ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์) ครึ่งปีแรก (มกราคม – มิถุนายน 57) มีมูลค่าการค้ารวม 176,535.63 ล้านบาท โดยมีมูลค่าการส่งออก 114,003.74 ล้านบาท และมูลค่าการนำเข้า 62,531.89 ล้านบาท
อัตราค่าแรงขั้นต่ำของเวียดนาม 80-120 บาทต่อวัน เทียบกับไทย 300 บาทต่อวัน มีอัตราค่าแรงที่ต่ำ จึงเหมาะสมกับการลงทุนในธุรกิจที่ใช้แรงงาน เช่น สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม และการผลิตเพื่อส่งออก เป็นต้น