(ต่อ1) เรื่องย่อ "ดวง"

ข่าวทั่วไป Wednesday June 15, 2005 09:51 —ThaiPR.net

ทางด้านนายห้างมงคล เมื่อเห็นว่าดวงกำลังมีชื่อเสียงก็อยากได้มาร่วมค่ายเพลง แต่เมื่อเจรจาผ่านครูแมน ครูแมนไม่เอาด้วย เพราะว่านายห้างมงคลเคยปฏิเสธดวงและปฏิเสธผลงานเพลงของเขามาก่อน นายห้างมงคลเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย เมื่อรู้ว่า นีน่ามีอิทธิพลต่อดวงก็ติดต่อผ่านนีน่า แอบยัดเงินให้นีน่า จนนีน่าไปเกลี่ยกล่อมดวง ดวงไม่ยอม นีน่าก็มอมเหล้าดวง แล้วเอาสัญญาณไปให้เซ็นต์ ดวงเซ็นไปทั้งที่กำลังเมา จึงกลายเป็นว่าเขาเข้าไปร่วมค่ายกับนายห้างมงคลตามสัญญา แต่นายห้างปัญญาก็ฉลาดพอ จึงขู่ว่าหากใช้นาม "ดวง ดอกรัก" ซึ่งเป็นนามศิลปินในสัญญาของเขา เขาจะฟ้อง นายห้างมงคลเลยต้องเปลี่ยนชื่อดวงเสียใหม่ เปลี่ยนเป็น "เด่นดวง ศรีมงคล" ปรากฏว่าเทปชุดแรกพอไปรอด แต่ไม่หวือหวาเหมือนชุดก่อนๆ
ทางด้านนีน่าเมื่อเล็งเห็นว่าดวงกำลังจะตกแล้วก็รียโกยเต็มที่ รับงานให้ดวงสารพัด ใช้ชื่อของดวงไปเที่ยวหลอกคนอื่น รับมัดเขาซ้ำซ้อน จนดวงเริ่มมีปัญหาเรื่องชื่อเสียงไม่ค่อยมีใครอยากจ้างให้ร่วมงาน ดวงเริ่มคิดมาหันเข้าพึ่งเหลา ระหว่างนั้นนีน่าก็แอบให้เซ็นต์เอกสารโอนทรัพย์สินต่างๆ ให้ ดวงก็เซ็นไปทั้งๆ ที่เมา
เมื่อดวงได้สติ จะไปเบิกเงิน เอาทรัพย์สินของตัวเองปรากฏว่า กลายเป็นของนีน่าไปหมดแล้ว เมื่อทวงถามจึงได้ทราบว่า นีน่ากับชิตร่วมหัวกันหลอกลวงเขา ใช้แผนสารพัดในการโกงทรัพย์ไปจากเขา ดวงถูกไล่ออกจากบ้านอีกครั้ง เขาแค้นใจมาก ฮึดสู้ แต่ก็สู้แรงของชิตและพรรคพวกไม่ได้ ถูกพรรคพวกของชิตรุมทำร้ายเอาจนบาดเจ็บหนัก ถึงกับขาพิการ ครูแมนมารับไปส่งโรงพยาบาลและช่วยดูแล ดวงรู้ตัวเองผิดไปแล้วพยายามขอโทษทุกคน เขากลับไปลุงรอด เพื่อถามข่าวของพิมพ์ ลุงรอดบอกว่าพิมพ์หนีออกจากบ้านไปนานแล้ว ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน เจ๊อ้อยก็เกลียดดวงมาก ที่ทำให้พิมพ์ต้องทิ้งพ่อแม่หนีหายไป ดวงรับผิดทุกอย่าง กลับมาเลียแผลใจอยู่ที่บ้านครูแมนในสภาพคนพิการขาเป๋ ครูแมนให้กำลังใจต่างๆ นานา ดวงหมดตัวอีกครั้ง ไม่กล้ากลับไปบ้านกลัวอายชาวบ้าน จึงคิดถึงเพื่อนคือถนอม เพราะถนอมเคยพูดว่า จะไม่ทอดทิ้งกันไม่ว่าจะทุกข์สุขอย่างไร
ดวงไปตามหากอนที่บ้านแม่ยกเมียเศรษฐีแก่ของกอน หวังจะพึ่งเพื่อเป็นหนทางสุดท้าย แต่เมื่อถึงพบว่าที่บ้านคุณนายชม้อย กำลังมีงานศพ ดวงคิดว่าคงจะเป็นงานศพของนางชม้อย เพราะก่อนหน้านั้นเขาได้ข่าวว่านางชม้อยกำลังป่วยหนัก เขาคิดว่าคราวนี้กอนคงจะรวยสมใจแล้ว คงจะได้รับมรดกจากเมียมหาศาล แต่เมื่อเข้าไปในงาน และเมื่อดวงดูภาพที่หน้าโลงศพพบว่าเป็นภาพของกอน ชม้อยนั่งร่ำไห้ด้วยความเสียใจ และบอกสาเหตุที่กอนตาย เนื่องจากหัวใจวาย
ดวงสิ้นหวัง แบกความช้ำใจมานั่งปลงอยู่ที่สถานีรถไฟสามเสน มีคนมาพบจำเขาได้ แต่เขาบอกว่า เขาเพียงหน้าตาเหมือนกับนักร้องชื่อดังคนนั้น ขณะที่นั่งที่สถานีรถไฟ มองรถไฟที่วิ่งผ่านไป ก็นึงถึงเหตุการณ์ตอนก่อนจะจากบ้านนอกมา นึกถึงคำพูดของพ่อที่ว่า "ไม่มีที่ไหนจะอบอุ่นเท่ากับบ้านของเรา ถ้าลำบากอย่างไรก็ให้คิดถึงบ้าน ให้กลับมาบ้าน"
บนเส้นทางสายเดิมที่เขาได้จากมา สองข้างทางยังไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก มีก็แต่รถโดยสารคันที่เค้านั่งกลับมามันโตและทันสมัยขึ้น ถนนก็ไม่โขยกเขยกเป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนเดิม ฝุ่นที่เคยฟุ้งกระจายจนเค้าต้องเอาผ้าปิดจมูกก็ไม่มีแล้ว ร.พ.ช. ได้ราดยางให้ถนนทางเข้าหมู่บ้านราบเรียบสะดวกสบายขึ้น มันเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามกับชีวิตของดวงในตอนนี้ เค้าจะกลับมาตายรัง
เมื่อรถจอด เพิงเล็กๆ ของป้าชุ่มใหญ่โตขึ้นถาวรขึ้นน้ำเขียวน้ำแดง น้ำขวดยังมีขายอยู่ในร้านมีโต๊ะนั่งอยู่สามสี่ตัว บนชั้นและเคาท์เตอร์อีกด้านหนึ่ง มีขวดไวน์พื้นบ้านและสินค้าโอทอปของท้องถิ่นวางเรียงรายอยู่ ป้าชุ่มบอกว่า "ไอ้ดวงเอ๊ย...เราไม่ยากจนเหมือนแต่ก่อนแล้ว เดี๋ยวนี้พวกเรารวมกลุ่มกันผลิตของขายเลี้ยงตัวเองได้ทุกคน"
ดวงได้รู้จากป้าชุ่มว่า ไร่ของพ่อเค้าได้ถูกขายไปแล้ว และพ่อของเค้าได้ไปบวชเป็นพระอยู่วัดเล็กๆ บนภูเขา ดวงมองไปทางมือชี้ของป้าชุ่ม นั้นงัยที่ของเอง แต่มันไม่ได้ปลูกข้าวโพดเหมือนแต่ก่อนแล้วเราเพิ่มมูลค่าของที่ด้วยปลูกองุ่นไต่ตลาดขึ้นไปบนเนินจนจดเชิงเขา ป้าชุ่มยังบอกอีกว่า คนกรุงเทพฯ ที่มาซื้อที่ของดวง เป็นคนเก่งในเรื่องการแปรรูปสินค้าเกษตร เป็นหัวหน้ากลุ่มแม่บ้าน เป็นตัวตั้งตัวตีให้พวกเราได้ลืมตาอ้าปากได้อยู่ดีกินดี
ดวงเดินเลาะลัดไปตามไร่องุ่น อาศัยเงาของเถาองุ่นเป็นร่มเงากันแดด พวงองุ่นสีเขียวสีแดงสะพรั่งตาไปหมด ร่างของชายขาพิการเดินมาจนถึงปลายของแปลงองุ่น เค้ามองไปข้างหน้า บ้านสไตล์คันทรีน่ารักหลังเล็กๆ ปลูกอยู่บนเนินแทนบ้านหลังเก่าของเค้าเสียงของผู้หญิงตะโกนถามมาจากข้างหลัง "มาหาใครค่ะ" เค้าหันกลับไปร่างของหญิงคนหนึ่งที่จูงเด็กมองมาทางเค้า แสงตะวันที่ย้อนมาจากทางด้านหลังเธอ ทำให้ดวงมองไม่เห็นใบหน้าของเธอได้ถนัด ดวงสะท้อนใจตอบกลับไปว่า "เปล่าครับผมเห็นบ้านสวยดีเลยเข้ามาดู แล้วก็ก้มหน้าลากขาไป "ดวง" เสียงนั้นคุ้นหูมาก ดวงหยุดชะงักเหมือนต้องมนต์สะกด เค้าค่อยๆ หันไปช้าๆ เหมือนคนที่ตกอยู่ในความฝัน เธอเข้ามาใกล้ๆ จน...พิมพ์นั้นเอง เสียงเด็กที่เงยหน้ามองพิมพ์ "ใครคะแม่" ชีวิตของเรามีเราเท่านั้นหรือลิขิตมัน
จบบริบูรณ์
(เรื่องเก่ามาเล่าใหม่หรือเหล้าเก่าในขวดใหม่ ไม่เชิงครับ แต่ผมว่ามันเป็นองุ่นที่หมักมานานจนกลายเป็นไวน์ชั้นดี)
หมายเหตุ ในรายละเอียดของบท จะแทรกบรรยากาศครื้นเครงเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องดวง เสริมมุกตลกเกี่ยวกับการทำนายโชคชะตา เพิ่มสีสันเรื่องความเชื่อเรื่องดวงเป็นสำคัญ ชี้ให้เห็นว่า ดวงมีอิทธิพลต่อผู้คนทุกระดับชั้น และหมอดูมีทั้งจริงและไม่จริง มุกตลกส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการทำนายดวง และพฤติกรรมของคนที่เชื่อเรื่องดวงจนลุ่มหลง สอดแทรกวิธีการสอนเรื่องให้มีเหตุผลในการเชื่อเรื่องดวง
ติดตามชมได้เร็วๆ นี้ ทางช่อง 7 สี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ไก่-ชนิตร์นันท์ 06-337-9834--จบ--

แท็ก ว่าน  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ