กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--MTS Gold Group
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,358 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,489 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.14% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 5.6% GFQ14 ปิด 20,060 บาท และ GFV14 ปิด 20,120 บาท GF10Q14 ปิดที่ 20,070 บาท GF10V14 ปิดที่ 20,130 บาท
สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,310.6 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 71 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 97.37 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 795.86 ตัน (เท่าเดิม)(แต่วันศุกร์มีขายออก 1.79 ตัน คงทองที่ 795.86)
ข่าวที่สำคัญ
เมื่อวานนี้ ทองคำปรับตัวสูงขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,316 เหรียญ ก่อนจะปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากสถานการณ์ในยุเครนและอิรักที่เกิดความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น
ตลาดทองคำมีการทะยานตัวขึ้นและได้รับแรงเทขายในช่วงตลาด COMEX ซึ่งในช่วงเวลานี้เป็นช่วง Low Season ของการซื้อขายและตลาดไม่มีแรงดึงดูดจากนักลงทุนสักเท่าไหร่จึงทำให้ตลาดทองคำค่อนข้างเบาบางและเงียบเหงา
ราคาทองคำทางเทคนิคจากคิทโก้ระบุว่า แนวต้านที่แข็งแกร่งของทองคำอยู่ที่ระดับ 1,328 เหรียญ แนวต้านแรกต้องฝ่าระดับ1,319 เหรียญ แนวรับแรก อยู่ที่ระดับ 1,306 เหรียญและ 1,303 เหรียญ
สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะเป็นปัจจัยหนุนให้ทองคำน่าลงทุนในฐานะ Save Heaven ขณะที่คณะบริหารของโอบามาเปิดเผยว่า สหรัฐฯส่งกำลังทหารเพิ่มขึ้นจำนวน 130 นายเข้าสู่อิรัก และจะหาทางช่วยเหลืออิรักให้รอดพ้นจากการคุกคามจากกองกำลังของอิสลาม
SPDR ทำการเทขายออกในคืนวันศุกร์ 1.79 ตัน และปัจจุบันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยยังคงถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 795.86 ตัน
ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของนักลงทุนเยอรมนีในเดือนสิงหาคมปรับตัวลดลงอย่างมากสู่ระดับ 8.6 จากระดับ 27.1 ขณะที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของนักลงทุนในยูโรโซนประจำเดือนสิงหาคมปรับตัวลง สู่ระดับ 23.7 จากเดิม 48.1 แสดงให้เห็นว่าสภาพเศรษฐกิจของยูโรโซนยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงอาจส่งผลให้อีซีบีเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3368 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3383 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของนักลงทุนเยอรมนีในเดือนสิงหาคมอ่อนแรง
ขณะที่ งบประมาณปี 57 ของสหรัฐฯ พบว่ามียอดขาดดุลสู่ระดับ 4.605 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 6.074 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การเปิดรับตำแหน่งงานสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนมากที่สุดในรอบ13ปีที่ผ่านมา ตำแหน่งงานที่เพิ่มขึ้นก็สอดคล้องกับนโยบายการปรับปรุงทางด้านเศรษฐกิจของเฟดในเวลานี้ที่มีความเป็นไปได้มากขึ้นในเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้
สถานการณ์การคว่ำบาตรรัสเซียส่งผลกระทบต่อหลายประเทศในสหภาพยุโรปโดยที่การขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจเป็นไปในแบบเพิ่งจะฟื้นตัว โดยที่โปแลนด์เติบโตทางด้านเศรษฐกิจเพียง 0.5% ในไตรมาสที่2 ส่วนสาธารณเช็คจะขยายตัวเพียงแค่0.3%จาก0.8% และ ฮังการีจะขยายตัวเพียงแค่0.7%จาก1.1%
สำหรับสถานการณ์ในอิรัก นายฟูอัด มัสซูม ประธานาธิบดีอิรัก ประกาศแต่งตั้งนายไฮดาร์ อัล-อาบาดี เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่และจะจัดตั้งรัฐบาลในสัปดาห์หน้า ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวได้รับการตอบรับจากสหรัฐฯและอียู แต่ถูกคัดค้านจากนายนูรี อัล-มาลิกี นายกรัฐมนตรีคนก่อนที่อยู่ในอำนาจนาน 8 ปี จึงอาจส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการเมืองภายในประเทศเพิ่มขึ้น
ตัวแทนปาเลสไตน์ได้ออกมาบอกว่า การรบที่ผ่านมาเป็นเวลาหลายเดือนระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เป็นเรื่องยากที่จะสิ้นสุด ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของอิสราเอล ก็ออกมาบอกเช่นเดียวกันว่า จะไม่มีการยุติการรบในตอนนี้ และการสู้รบจะมีอีกครั้งภายในเร็ววันนี้
สำนักข่าวอิทาร์ทัส รายงานว่า รัสเซียส่งรถบรรทุกจำนวน 280 คัน มุ่งหน้าไปยังตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงอาหาร ยา และน้ำดื่ม
อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวของรัสเซียส่งผลให้เกิดความกังวลว่าอาจเป็นการแทรกซึมกิจการภายในของยูเครน
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิดลบเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลในสถานการณ์ของยูเครนและอิรัก โดยนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่สหรัฐฯจะเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกประจำเดือนกรกฎาคมในคืนนี้
เช้านี้ ดัชนีนิเกอิเปิดปรับตัวลดลง 0.33% เพราะได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจของญี่ปุ่น หลังจาก รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จีดีพีไตรมาสที่ 2 ของญี่ปุ่นหดตัวลงสู่ระดับ -1.7% จากไตรมาสก่อนหน้า 1.6% และเมื่อเทียบรายปีพบว่าปรับตัวลดลง 6.8% ซึ่งสะท้อนผลให้เห็นจากมาตรการการปรับขึ้นภาษีการบริโภคในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- JOLTS Job Openings ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 4.58M ตัวเลขจริงออกที่ระดับ 4.67M
- Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 70.5B ตัวเลขจริงออกที่ระดับ -94.6B
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
- Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4% คาดการณ์ออกมาที่ระดับ 0.4%
- Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% คาดการณ์ออกมาที่ระดับ 0.2%
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ท่ามกลางความตึงเครียดในยูเครนและอิรัก โดยที่เช้าวันนี้นี้สหรัฐฯประกาศที่จะโจมตีกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ของอิรัก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจพบว่าอัตราคนว่างงานน้อยลงกว่าที่คาดสู่ระดับ289,000 ตำแหน่ง สำหรับ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยยังถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 797.65 ตัน และในวันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ สำหรับค่าเงินบาทเองก็ยังคงแกว่งตัวในทิศทางอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ และมาอยู่ที่ระดับ 32.34 บาท/ดอลลาร์ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวที่จะสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นได้
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
โดยภาพรวมทางเทคนิคยังมีลักษณะของความผันผวนในระยะสั้น ในวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,300-1,320เหรียญ และมีแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,325 เหรียญ โดยติดตามความตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นหลัก
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ซื้อขายทำกำไรในระยะสั้น เริ่มหาจังหวะในการเปิด Short หากราคาไม่สามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,320 – 1,325 เหรียญได้
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้เข้าออกเร็ว และบริหารพอร์ตให้สมดุล
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
แนะนำให้บริหารพอร์ตให้ดีจากการที่ราคายังขึ้นมาต่อเนื่อง โดยภาพหลักแนวโน้มในระยะกลางกับยาวเป็นขาลง และยังเชื่อว่าการขึ้นน่าจะเป็นการขึ้นเพียงสั้นๆจากภาวะสงคราม รวมถึงผลจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
Gold Futures Q14 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,320 บาท
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,170 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,400 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง