กรุงเทพ--11 พ.ย.--ปตท.
นายวิเศษ จูภิบาล ผู้จัดการใหญ่ ปตท.อินเตอร์เนชั่นแนลการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) เปิดเผยว่า ปตท.จะเริ่มดำเนินการส่งออกก๊าซหุงต้ม(LPG) แก่ประเทศมาเลเซียในปลายเดือนหน้า จำนวน 20,000 ตัน/ปี เป็นเวลา2 ปี โดยจำหน่ายให้แก่บริษัท เคลออยล์ เซนดิเรียน เบอร์ฮัด รัฐกลันดัน ซึ่งอยู่ตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย ติดชายแดนไทยจังหวัดนราธิวาส
บริษัท เคลออยล์ฯ นี้เป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐกลันตัน ซึ่ง ปตท.มีแผนจะร่วมทุนด้วยในอัตราส่วนร้อยละ 40 และขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติจาก ครม. โดยบริษัทร่วมทุนจะดำเนินธุรกิจค้าส่ง LPG ซึ่งจะต้องมีการลงทุนในส่วนของการก่อสร้างโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม คลังสำรอง และท่าเทียบเรือ รวมมูลค่าประมาณ25 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะเป็นคลังสำรองและโรงบรรจุก๊าซ LPG แห่งแรกในภาคเหนือของประเทศมาเลเซีย
สำหรับโรงบรรจุก๊าซหุงต้มขนาดความจุ 1,200 ถัง/ชั่วโมง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่ ต.บาจก อ.ปันไทเซนัค เมืองโกตาบารู คาดว่าจะแล้วเสร็จสามารถเริ่มรับก๊าซฯ จากคลังปิโตรเลียมสงขลา ของ ปตท.ได้ประมาณเดือนหน้า ส่วนการก่อสร้างคลังสำรองขนาด 2,000 ตัน และท่าเทียบเรือขนส่ง LPG ขนาด 1,000 ตัน ปัจจุบันอยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรม คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปีหน้า และแล้วเสร็จในปี 2542 ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะสามารถรับ LPG ทางเรือที่ขนส่งจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 4 อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าขนส่งลดลง
อนึ่งก่อนหน้านี้ ประเทศมาเลเซีย มีการนำเข้าก๊าซ LPG บางส่วนจากประเทศสิงคโปร์ โดยในภาคเหนือยังไม่มีโรงบรรจุ LPG การขนส่งจึงไม่สะดวกสำหรับความต้องการก๊าซฯ ในพื้นที่เป้าหมาย (6 รัฐ ในภาคเหนือของมาเลเซีย) คาดว่ามีประมาณ 27,000 ตัน/ปี และมีอัตราการเติบโตประมาณ 5% ต่อปี--จบ--