กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม
ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษาร่วมแถลงผลสำรวจ ความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อรายชื่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,136 คน สามารถสรุปผลการสำรวจได้ดังนี้ ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 50.97 เป็นเพศหญิง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเพศชายคิดเป็นร้อยละ 49.03 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 31.43 มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 25 ถึง 34 ปี กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีคิดเป็นร้อยละ 35.04 ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเป็นลูกจ้าง/พนักงานในห้างร้านหรือบริษัทเอกชน ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจและนักเรียนนักศึกษาซึ่งคิดเป็นร้อยละ 30.81 ร้อยละ 25.09 และร้อยละ 20.86 ตามลำดับ
ในด้านความรับรู้ต่อรายชื่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 36.53 ระบุว่า จากรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่มีการประกาศแต่งตั้ง ตนเองรู้จัก/เคยได้ยินชื่อมาก่อนประมาณครึ่งหนึ่งของรายชื่อทั้งหมด รองลงมาระบุว่ารู้จัก/เคยได้ยินชื่อมาก่อนมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 26.76
ในด้านระดับความพึงพอใจต่อรายชื่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 34.42 มีความพึงพอใจต่อรายชื่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 23.33 และร้อยละ 17.34มีความพึงพอใจในระดับมากและมากที่สุดตามลำดับ ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 11.97 มีความพึงพอใจน้อย และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 7.75 มีความพึงพอใจน้อยที่สุด โดยที่มีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 5.19 ระบุว่าไม่มีความพึงพอใจเลย
ในด้านระดับความเชื่อมั่นต่อการบริหารงานในด้านต่างๆ กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนความเชื่อมั่นต่อการบริหารงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาโดยรวมอยู่ที่ระดับ 7.15 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 และเมื่อจำแนกความเชื่อมั่นต่อการบริหารงานเป็นรายด้านพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความเชื่อมั่นต่อการบริหารงานในด้านความมั่นคงสูงที่สุดโดยได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 8.42 รองลงมาได้แก่ด้านสังคมซึ่งได้คะแนน 8.03 ส่วนด้านเศรษฐกิจ ด้านการศึกษาและด้านสาธารณะสุขได้คะแนน 7.85 7.11 และ 6.76 ตามลำดับ
สำหรับปัญหาเร่งด่วนที่กลุ่มตัวอย่างต้องการให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาแก้ไขเป็นอันดับแรกนั้น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 24.47 อยากให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาแก้ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นอันดับแรก รองลงมาอยากให้แก้ปัญหายาเสพย์ติด/การพนัน คิดเป็นร้อยละ 20.69 และปัญหาเศรษฐกิจ/ปากท้อง/ราคาสินค้าบริโภค-อุปโภค คิดเป็นร้อยละ 16.73 ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 11.8 ร้อยละ 10.3 และร้อยละ 6.69 อยากให้แก้ปัญหาราคาผลิตผลด้านการเกษตร ปัญหาความไม่สงบในชายแดนใต้และปัญหาแรงงานต่างด้าวตามลำดับ ขณะที่สิ่งที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 29.49 อยากจะบอกกับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลพลอ.ประยุทธ์ จันทร์โอชามากที่สุดคือ “ขอเป็นกำลังใจให้ทำงานแก้ปัญหาบ้านเมืองได้สำเร็จ” รองลงมาอยากจะบอกว่า “ขอให้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตไม่คอรัปชั่น” คิดเป็นร้อยละ 26.14 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 18.31 อยากจะบอกว่า “ขอให้ทำงานแก้ปัญหาต่างๆ อย่างรวดเร็วไม่ชักช้า”
ขณะที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 40.14 ระบุว่าตนเองจะให้โอกาสคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันพิสูจน์ผลงานเป็นระยะเวลา 4 ถึง 6 เดือนโดยประมาณ รองลงมาจะให้เวลาพิสูจน์ผลงานเป็นระยะเวลา 7 ถึง 9 เดือนและ 2 ถึง 3 เดือนโดยเฉลี่ยซึ่งคิดเป็นร้อยละ 27.29 และร้อยละ 23.5 ตามลำดับ และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 36.09 อยากให้รัฐบาลพลอ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอยู่บริหารประเทศเป็นเวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง รองลงมาอยากให้อยู่บริหารประเทศประมาณ 1 ปีซึ่งคิดเป็นร้อยละ 28.87