“ สถานการณ์ความไม่แน่นอนระหว่างยูเครน-รัสเซีย ส่งผลกระทบให้ราคาน้ำมันผันผวน ”

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 8, 2014 15:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--ไทยออยล์ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 92 - 98 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 100-105 เหรียญฯ” แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (8 – 12 ก.ย. 57) ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิม โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนจากทางธนาคารกลางสหภาพยุโรป (อีซีบี) โดยยังคงต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพของมาตรการและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รวมถึงความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ส่งสัญญาณว่าคลี่คลายลง อย่างไรก็ตามต้องจับตากลุ่ม OPEC ว่าจะมีมาตรการอย่างไรในการจัดการกับอุปทานน้ำมันดิบที่มีอยู่จำนวนมากในตลาด หลังลิเบียสามารถผลิตน้ำมันดิบได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้: จับตาสถานการณ์ระหว่างยูเครนและรัสเซียว่าจะคลี่คลายลงหรือไม่ แม้ล่าสุดประธานาธิบดียูเครนจะแถลงว่าทั้งสองประเทศได้หารือร่วมกันและบรรลุข้อตกลงหยุดยิงถาวรแล้ว แต่ฝ่ายรัสเซียยังคงค้านว่ารอาจไม่สามารถทำข้อตกลงหยุดยิงอย่างเป็นรูปธรรมได้ เพราะตนมิได้มีส่วนในความขัดแย้งครั้งนี้ อย่างไรก็ดี หากข้อตกลงนี้บรรลุผลจริง ก็อาจส่งผลให้มาตรการคว่ำบาตรระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกต่างๆ คลี่คลายลงได้ตามไปด้วย กระแสเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงอาจกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยล่าสุดตัวเลขในตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่เกินคาดส่งผลให้ตลาดไม่แน่ใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแรงพอสำหรับการยกเลิกมาตรการ QE ในเร็ววันนี้แล้วหรือยัง ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจของจีนก็ยังมีความไม่แน่นอนสูง อย่างไรก็ดี ตลาดคาดว่าการที่อีซีบีออกมาตรการเพิ่มเติมในการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลให้เศรษฐกิจยุโรปเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น ติดตามรายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ก.ย. ของสำนักสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (9 ก.ย.) โอเปก (10 ก.ย.) และสำนักงานพลังงานสากล (11 ก.ย.) ที่คาดว่าอาจมีการปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกปีนี้ลง หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศผู้บริโภคน้ำมันหลายประเทศ จับตากลุ่ม OPEC ว่าจะมีมาตรการอย่างไรในการจัดการกับอุปทานน้ำมันดิบที่มีอยู่จำนวนมากในตลาด หลังลิเบียสามารถผลิตน้ำมันดิบได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศ โดยล่าสุดปรับเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 700,000 บาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายปลีกและยอดสินค้าคงคลังของผู้ขายส่งสหรัฐฯ การผลิตภาคอุตสาหกรรมยุโรป ดัชนีราคาผู้ผลิต - ผู้บริโภคและดุลการค้าจีน สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1 – 5 ก.ย. 57) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 2.67 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 93.29 เหรียญฯ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลง 2.37 เหรียญฯ ปิดที่ 100.82 เหรียญฯ ด้านราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลดลงเช่นกันมาเฉลี่ยที่ระดับ 99 เหรียญฯ ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ปรับลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งนี้ราคาได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจของจีนและยุโรปที่ออกมาไม่ดีนัก โดยดัชนีชี้วัดภาคผลิตเดือน ส.ค.ของสหภาพยุโรปลดลงต่ำสุดในรอบ 14 เดือน ส่วนของจีนเองก็ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ทำให้หลายฝ่ายมองว่าอาจกระทบความต้องการใช้น้ำมันโลก ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบจากทะเลเหนือและแอฟริกายังคงล้นตลาดต่อเนื่อง โดยล่าสุดลิเบียได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 725,000 บาร์เรลต่อวัน แล้ว อย่างไรก็ดี ตัวเลขเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ หลายตัว ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อของโรงงานเดือน ก.ค. ที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8.5 ปี ดัชนีภาคการผลิต การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างและดัชนีภาคบริการ ที่ออกมาดีขึ้นส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน นอกจากนี้ การเจรจาหยุดยิงระหว่างยูเครน-รัสเซียที่มีความคืบหน้ามากขึ้น ส่งผลให้ตลาดคลายกังวลเรื่องการสู้รบและมีความหวังว่มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่กดดันความต้องการใช้น้ำมันของหลายประเทศในตอนนี้จะยุติลง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ