ฉลองครบรอบ 20 ปี เครื่องบินเบลูก้า หลังจากเที่ยวบินแรก ชั่วโมงการบินต่อ เบลูก้า แต่ละลำได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าแล้ว และจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หนึ่งในปีพ.ศ. 2560

ข่าวท่องเที่ยว Wednesday September 17, 2014 16:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--TQPR Thailand เบลูก้า เครื่องบินสำหรับบรรทุกงานสินค้าขนาดใหญ่ เริ่มให้บริการเที่ยวบินแรกเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2537 ได้รับการตั้งชื่อว่า เบลูก้า เนื่องจากเครื่องบินลำนี้มีลักษณะที่คล้ายวาฬขาว ในอาทิตย์นี้ เบลูก้า จะฉลองครบรอบ 20 ปีที่ได้ทำหน้าที่ขนย้ายชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องบินแอร์บัสไปยังโรงงานของแอร์บัสหลายแห่งในยุโรป ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2538 กลุ่มเครื่องบิน เบลูก้า ทั้ง 5 ลำ ได้มาทำหน้าที่แทน ซุปเปอร์ กัปปี้ ทรานสปอร์เตอร์ ซึ่งถูกใช้งานมาอย่างยาวนาน เพื่อใช้ในการขนย้ายชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของเครื่องบินแอร์บัสในตูลูสและฮัมบูร์ก ในปัจจุบัน กลุ่มเครื่องบิน เบลูก้า ได้ให้บริการกว่า 60 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ระหว่างโรงงาน 11 แห่ง โดยบรรทุกชิ้นส่วนสำคัญต่างๆที่จำเป็นต่อการประกอบเครื่องบินของแอร์บัส รวมถึงเครื่องบินแอร์บัส เอ380* กลุ่มเครื่องบิน เบลูก้า ได้รับการดำเนินการโดย แอร์บัส ทรานสปอร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล (เอทีไอ) บริษัทในเครือแอร์บัส ลูกเรือในแต่ละลำของ เบลูก้า ประกอบไปด้วย นักบิน ผู้ช่วยนักบิน และเจ้าหน้าที่ช่างอากาศ เนื่องด้วยการเริ่มต้นการผลิตเครื่องบินแอร์บัส เอ350 รุ่นลำตัวกว้างพิเศษในปีพ.ศ. 2555 และการผลิตเครื่องบินแอร์บัสรุ่นอื่นๆที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้การทำงานของ เบลูก้า จะเพิ่มขึ้นอีกอย่างมากในอีก 5 ปีข้างหน้า พร้อมกันกับความท้าทายครั้งนี้ ในปีพ.ศ. 2554 แอร์บัสได้เปิดตัว โครงการ 10,000 ชั่วโมงบิน (Fly 10,000) จำนวนลูกเรือและชั่วโมงการบินได้มีการเติบโตมากขึ้น รวมถึงขั้นตอนในการบรรทุกส่วนประกอบของเครื่องบินก็ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัวของโรงงานเพื่อการบรรทุกชิ้นส่วนเครื่องบินแบบบูรณาการแห่งใหม่ในฮัมบูร์กและเบรเมน ในประเทศเยอรมัน และเซนท์นาแซร์ ในประเทศฝรั่งเศส โดยจะมีการก่อตั้งโรงงานแห่งใหม่ในบรัฟตัน ประเทศอังกฤษ และเกตาเฟ่ ประเทศเยอรมัน เร็วๆนี้ โครงการ 10,000 ชั่วโมงบิน (Fly 10,000) จะส่งผลให้ฝูงบิน เบลูก้า เพิ่มอัตราการทำงานขึ้นเป็นสองเท่าในปีพ.ศ.2560 (จาก 5,000 สู่ 10,000 ชั่วโมงการบิน) “เบลูก้าเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญต่อระบบส่งกำลังรวมและระบบการผลิตของแอร์บัสอย่างมาก ต้องขอขอบคุณความน่าเชื่อถือและความมุ่งมั่นของทีมงานเบลูก้าที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในการพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” Günter Butschek ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการแอร์บัสกล่าว เบลูก้า มีพื้นฐานมาจากเครื่องบินเครื่องยนต์คู่ที่ไว้วางใจได้รุ่น เอ300-600อาร์ ซึ่งสร้างผลกำไรได้สูงและใช้เครื่องยนต์ เจเนอรัล อีเล็กทริก ซีเอฟ6-80ซี2 และด้วยรูปทรงที่น่าประทับใจ (ความยาว 56 เมตร สูง 17 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำตัวเครื่อง 7.71 เมตร พื้นที่บรรทุกสินค้าชั้นหลักขนาด 1,400 ลูกบาศก์เมตร) ทำให้ เบลูก้า เป็นสุดยอดของเครื่องบินในประเภทเดียวกัน (เปรียบเทียบกับแอนโทนอฟ เอเอ็น-124 หรือแม้แต่เครื่องบิน ซี-17) เบลูก้า สามารถบรรทุกน้ำหนักสูงสุดได้ 47 เมตริกตันและเดินทางโดยไม่ต้องแวะพักได้ระยะไกลกว่า 1,660 กิโลเมตร/900 ไมล์ทะเล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ