สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 23, 2014 09:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,213 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,213 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.2 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,450 บาท กับ 18,550 บาท และกลับมาปิดที่ 18,500 บาท กับ 18,600 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 522 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,864 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1.28% แบบ 10 บาท ลดลง 2.92 % GFV14 ปิด 18,670 บาท และ GFZ14 ปิด 18,720 บาท GF10V14 ปิดที่ 18,680 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,720 บาท สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,217.9 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 89 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 91.52 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 774.65 ตัน (ขายออก 1.79ตัน) ข่าวที่สำคัญ -เมื่อคืนนี้ทองคำได้รับแรงสนับสนุนจากการเข้าซื้อของนักลงทุน หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงและข้อมูลยอดขายบ้านที่แย่ลง -เมื่อวานนี้ SPDR ลดการถือครองทองคำติดต่อกันเป็นวันที่ 2 อีก 1.79 ตัน ปัจจุบันเหลือการถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 774.65ตัน ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 -เทรดเดอร์ เชื่อว่า ทองคำอาจปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 1,200 เหรียญ และมีโอกาสลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมในปี 2013 ที่ระดับ 1,180 เหรียญในสัปดาห์นี้ -นักลงทุนให้ความสนใจไปยังข้อมูลเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ในโลก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เปราะบางของจีนจะส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้นและทองคำ -ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 108.83 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 108.95 เยน/ดอลลาร์ เพราะได้รับแรงกดดันจากยอดขายบ้านมือสองที่ปรับตัวลดลง ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ระดับ 1.2836 ดอลลาร์/ยูโร -ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ ออกมาแย่ลงกว่าที่คาดการณ์สู่ระดับ 5.05 ล้านยูนิต ส่งสัญญาณว่าการจัดการในเรื่องที่อยู่อาศัยจะมีการชะลอตัวลงทำให้นักลงทุนอาจหันเหและออกจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ชั่วคราว -ขณะที่ รายงานจากเฟดสาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศในเดือนส.ค.ลดลงแตะ -0.21 จากระดับ +0.26ในเดือนก.ค. แสดงให้เห็นว่าการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ชะลอลงต่ำกว่าแนวโน้ม -นายวิลเลี่ยม ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดมีความจำเป็นที่จะต้องเฝ้าจับตาดูสินทรัพย์ทุกประเภทแบบ Real Time เพื่อระมัดระวังไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องฟองสบู่ นอกจากนี้ ยังไม่สามารถที่จะพักการปรับนโยบายทางการเงินในเวลานี้ได้ ตราบใดที่สถานการณ์ทางการเงินยังไม่มั่นคง -นายนารายานา โกเชอราโคตา ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส กล่าวว่า คณะกรรมการเฟดให้น้ำหนักไปยังการสนับสนุนภาคแรงงานและอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% รวมถึงการสร้างเสถียรภาพทางด้านราคาสินค้า ซึ่งจะเห็นได้ว่านโยบายการเงินของเฟดกระตุ้นให้ภาคแรงงานและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯดำเนินไปในแนวทางเป้าหมาย แต่สิ่งที่น่ากังวลคือยิ่งคนว่างงานปรับตัวลดลงก็ยิ่งมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับที่วางไว้ -อย่างไรก็ดี เฟดจะหาเครื่องมือที่พร้อมจัดการกับอัตราเงินเฟ้อในรูปแบบของ Symmetric เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อมีเสถียรภาพและสามารถอยู่สูงกว่าระดับ 2% เพราะหากเงินเฟ้อที่อยู่ต่ำกว่าระดับที่กำหนดจะสร้างปัญหาต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ -เมื่อคืนนี้ นายมาริโอ้ ดรากี ประธานอีซีบี กล่าวว่า สำหรับเดือนนี้เขามีความตั้งใจที่จะขยายเม็ดเงินตามสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อกระตุ้นระบบเงินกู้ระยะยาวและระบบการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ได้มีมติเป็นเอกฉันท์และเริ่มดำเนินการบ้างแล้วเพื่อป้องกันและต่อสู้ไม่ให้ค่าเงินทั้ง 18 สกุลในยูโรร่วงลง -สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า สภาพเศรษฐกิจจีนยังคงอยู่ในช่วงขาลงในไตรมาสนี้ โดยรายงาน Beige Book ของจีน ระบุว่าภาคการลงทุนมีการชะลอลง ขณะที่อัตราการกู้ยืมที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้เงินกู้ยืมของภาคธนาคารยังคงอยู่ในระดับต่ำสุด -นาย โหลว จี้เว่ย รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีน กล่าวว่า ทางการจีนจะไม่เปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายทางการเงิน แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะเผชิญแรงกดดันก็ตาม แสดงให้เห็นว่าถึงเศรษฐกิจจีนจะอยู่ในช่วงขาลง แต่จีนอาจไม่มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม -นักวิเคราะห์มองว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีนมีความสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม และจะเป็นเรื่องยากที่เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น หากการขยายตัวของทั้งจีนและยุโรปกำลังชะลอลง -นายเปโตร โปโรเชนโก้ ผู้นำยูเครน เผยว่า สถานการณ์รุนแรงบริเวณชายแดนฝั่งตะวันออกส่งสัญญาณคลี่คลายลง แต่ก็ยังพบว่ามีการฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิงในบางพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลยูเครนพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดสันติภาพ -ขณะที่ กองทัพยูเครน เปิดเผยว่า มีการเตรียมถอนปืนใหญ่จากพื้นที่ขัดแย้งกับกลุ่มกบฏ หลังสามารถตกลงเรื่องการจัดตั้งเขตพื้นที่บริเวณตะวันออกตามข้อตกลง 15 กิโลเมตร และบริเวณพื้นที่กันชน 30 กิโลเมตร -เมืองในเขตปกครองของชาวเคอร์ดิส ในซีเรียได้ตกเป็นเป้าหมายใหม่ของการขยายอาณาเขตยึดครองของกลุ่มกองกำลัง ISIL ที่กำลังจะเข้าควบคุมเขตพรมแดนของตุรกี ขณะที่ผู้นำกองกำลัง IS กระตุ้นให้กลุ่มผู้ติดตามเข้าร่วมต่อสู้กับสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และนานาประเทศที่เข้าร่วมทำลายล้างกลุ่มก่อการร้าย -เมื่อวานนี้ สหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะขอความร่วมมือจากอิหร่าน เพื่อต่อสู้กับกลุ่มกองกำลัง ISIL เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น ในการเจรจากับ 6 ชาติมหาอำนาจ ในเรื่องของโปรแกรมนิวเคลียร์ -ผู้บริหารสายการบินแอร์ฟรานส์ ให้คำมั่นว่าจะยังผลักดันสายการบินต้นทุนต่ำต่อไป ขณะที่เหล่านักบิน จะตอบโต้ด้วยการหยุดงานต่อเนื่องอย่างไม่มีกำหนด -เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิด -0.62% เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ และแรงกดดันจากจีนที่ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม -นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ 32.15-32.30 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งในช่วงนี้จะเป็นช่วงสิ้นเดือน และเป็นช่วงปิดปีปฏิทินของญี่ปุ่นที่จะเกิดขึ้นในเดือน 3 และ 9 ของปี อาจส่งผลให้มี Flow ไหลเข้ามาซื้อดอลลาร์ค่อนข้างมาก จึงอาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าและค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นได้ -หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.1% หลังจากยอดจำหน่าย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มากขึ้นกว่า 10 ล้านเครื่องในเวลาเพียง 3 วัน -หุ้นอาลีบาบา กวาดรายได้ค่าธรรมเนียมเป็นจำนวน 300 ล้านเหรียญ หลังจากเปิดตัวหุ้น IPO ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มีรายงานระบุว่า ภาคธนาคารได้รับส่วนต่างจำนวน 1.2% และปริมาณรวมของหุ้น IPO ปรับสูงขึ้นสู่ระดับ 2.5 หมื่นล้านเหรียญ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์ - Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 5.14M ตัวเลขจริงที่ออกมา5.05M - ECB President Draghi Speaks ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ -ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนตัวในลักษณะเป็นขาลง แต่มีแรง Rebound ซื้อกลับหลังจากที่มีลักษณะ Oversold ในช่วงวันที่ผ่านมา ทำให้ราคาดีดกลับมายืนบริเวณ 1,217เหรียญ จากบริเวณ 1,207 เหรียญโดยประมาณ ในสัปดาห์นี้ยังไม่มีปัจจัยสำคัญ ในระยะสั้นจึงคาดว่าจะเคลื่อนตัว Sideways มีแนวรับสำคัญ 1,200 เหรียญ และแนวต้าน 1,225 เหรียญ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำเมื่อวานนี้ ลงมาทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ระดับ 1,207 เหรียญ จะเห็นได้ว่าเมื่อพิจารณาทางด้านเทคนิคราคามีการทำ lower low และจะเห็นว่าหลุดแนวรับสำคัญหลายจุดตั้งแต่บริเวณ 1,240 เหรียญ 1,230 เหรียญ และ 1,220 เหรียญ ซึ่งหากราคาไม่สามารถกลับมายืนเหนือระดับ 1,225 เหรียญได้ ในเชิงเทคนิคภาพระยะสั้นและระยะกลางยังเป็นขาลง กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังแนะนำให้นักลงทุนใช้จังหวะ Rebound เพื่อเปิดสถานะขายก่อน โดยการทำ Short Position ที่ระดับแนวต้าน 1,225 เหรียญ และซื้อกลับบริเวณ 1,200 เหรียญ ส่วนนักลงทุนที่ทำการซื้อก่อน หรือเปิด Long Position ไว้ แนะนำให้หาจังหวะ Rebound เพื่อลดสถานะ หากท่านที่ไม่มีพอร์ตการลงทุน แนะนำให้หาจังหวะเปิดขายที่ระดับ 1,225 เหรียญ และซื้อกลับบริเวณ 1,200 เหรียญ มีจุด Stop Loss บริเวณ 1,230 เหรียญ - นักลงทุนที่ถือ Long Position หาจังหวะทยอยลดสถานะ กรณีที่ท่านถืออยู่เหนือ 1,240 เหรียญขึ้นไป - นักลงทุนที่ถือ Short Position พยายามหาจังหวะปิดซื้อทำกำไรบริเวณแนวรับ 1,200-1,210 เหรียญ กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading นักลงทุนที่ถือสถานะ Long Position แนะนำให้หาจังหวะที่ตลาด Rebound ทยอยลดสถานะออกไป ขณะที่นักลงทุนที่ถือ Short Position หาจังหวะปิดซื้อทำกำไรบริเวณแนวรับ 1,200 เหรียญ Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,780 บาท Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,830 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “เทคนิคการทำกำไรในทองคำแท่งและGold Futures” บรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ในวันที่ 29 กันยายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. สำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ