กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,221 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,216 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.20 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,600 บาท กับ 18,700 บาท และกลับมาปิดที่ 18,600 บาท กับ 18,700 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 797 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,426 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2.4% แบบ 10 บาท ลดลง 4% GFV14 ปิด 18,700 บาท และ GFZ14 ปิด 18,760 บาท GF10V14 ปิดที่ 18,710 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,770 บาท
สัญญา Comex ลดลง 2.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,219.5 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 92.80 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 773.45 ตัน ( คงทองเท่าเดิม)
ข่าวที่สำคัญ
-ทองคำได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายของนักลงทุน หลังจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ
นักลงทุนจับตาไปยังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนนี้ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มการพิจารณานโยบายเศรษฐกิจของเฟด
-นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ทิศทางหลักของทองคำยังเป็นขาลง โดยในเชิงเทคนิคระยะสั้นรอบ 2.5 เดือนยังคงแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวลง ซึ่งหากราคาจะกลับเป็นขาขึ้นต้องกลับมายืนเหนือแนวต้านสำคัญทางเทคนิคบริเวณ 1,243.20 เหรียญให้ได้
-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จากยอดขายบ้านใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้นของสหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าสู่ระดับ 108.99 เยน/ดอลลาร์ จาก 108.93 เยน/ดอลลาร์
-รายงานรอยเตอร์ระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนสิงหาคมของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น 18% สู่ระดับ 504,000 ยูนิต จากเดิม 427,000 ยูนิต โดยเป็นการปรับตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2008 แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของภาคอสังหาริมทรัพย์
-นางไดแอนน์ สว็อก หัวหน้าสถาบันการเงินเมซิโร ในชิคาโก กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าพวกเรามาถูกทางในการสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยจากที่เคยซบเซาในช่วงเวลาหนึ่ง
-ประธานเฟด 3 รายได้แก่ นายชาร์ล อีวานส์, นายนารายานา โกเชอราโกตา และนายริชาร์ด ฟิชเชอร์ แสดงความคิดเห็นโดยเรียกร้องให้เฟดพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 0 หลังสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯส่งสัญญาฟื้นตัว
-ทางด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2781 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2857 ดอลลาร์/ยูโร เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ หลังสถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นประจำเดือนกันยายนของเยอรมนีปรับตัวลดลง 104.7 จาก 106.3 ในเดือนก่อนหน้า บ่งชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักแห่งหนึ่งในยูโรโซน
-นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวกับสถานีวิทยุ Europe 1 ของฝรั่งเศสว่า ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยยูโรโซนยังคงอยู่ในระดับต่ำ และจะตรึงที่ระดับต่ำต่อไปเป็นระยะเวลานานเพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภูมิภาค (หลังข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงซบเซา และมีอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง)
-กองกำลังอัลจีเรียฆ่าตัดคอนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งกองกำลังดังกล่าวเผยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการตอบโต้ชาติฝรั่งเศสหลังจากฝรั่งเศสปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มกบฏ IS
-นายเดวิด คาเมรอน ผู้นำอังกฤษ เปิดเผยว่า จะมีการโหวตจากสมาชิกสภานิติบัญญัติในอีก 48 ชั่วโมง เพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการของสหรัฐฯในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายในอิรัก หลังจากมีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัดคอเพิ่มขึ้น
-UN เรียกร้องให้ทุกๆชาติ ร่างกฎหมายลงโทษประชาชนของตนเองที่เป็นผู้กระทำผิดทางอาชญากรรม โดยเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปร่วมกับต่อสู้กลุ่มก่อความไม่สงบ ISIL
-เมื่อวานนี้ รายงานรอยเตอร์ระบุว่า เครื่องบินรบได้เข้าโจมตีท่าเรือในเมืองแบงกาซี่ ทางตะวันออกซีเรีย โดยมีการกล่าวอ้างว่าเป็นกองกำลังที่จงรักภักดีต่อ นายพล คาริฟา ฮาฟตา เพื่อต่อต้านกลุ่ม ISIL
-ธนาคารโลก ระบุว่า เศรษฐกิจรัสเซียส่งสัญญาณชะลอตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ซึ่งรัสเซียพยายามหาทางชดเชยเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีกไปกี่ปี
-ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด +0.90% เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากยอดขายบ้านใหม่ที่ปรับตัวดีขึ้นเกินคาด รวมถึงการที่อีซีบีส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง
-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.15 -32.30 บาท/ดอลลาร์ คาดว่าตลาดจะค่อนข้างเงียบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆเข้ามา ตลาดจึงค่อนข้างนิ่ง และข่าวต่างๆตลาดมีการทยอยรับรู้ไปแล้ว
-ตลท. เผยว่า กองทุนอสังหาริมทรัพย์ (REIT) กองแรก คือ กองทุนอิมแพ็คโกรทรีท ซึ่งจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 1 ต.ค.นี้ และคาดว่าจะมีกอง REIT เข้าเทรดในปีนี้อย่างน้อย 1 กองุทุน
-กระทรวงพาณิชย์ แนะนำให้กลุ่มผู้ส่งออกไทยแต่ละสาขาเตรียมความพร้อมรับมือการถูกตัดสิทธิ GSP ของอียู ที่จะเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 58 เป็นต้นไป เพื่อให้กลุ่มผู้ส่งออกไทยสามารถใช้สิทธิ GSP ในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
-UOB คาดกำไรบริษัทจดทะเบียนประจำปี 57 จะเติบโตเพียง 10-12% ขณะที่ปี 58 จะเติบโต 12-15% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจีดีพีไทยปีนี้อยู่ทีระดับ 1.5% โดยเป็นผลจากความเชื่อมั่นภาคเอกชนที่ฟื้นตัวดีขึ้น แม้ว่าการใช้จ่ายจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่แต่โครงการโครงสร้างพื้นฐานจากรัฐบาลชุดใหม่ จะผลักดันให้เศรฐษกิจเติบโตต่อเนื่องได้ในปลายปีนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 427K ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 504K
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
- Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.7% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.7%
- Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 22.6% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -17.7%
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 280K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 294K
ทิศทางราคาทองคำ
ภาพรวมราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางค่อยๆซึมลงมา โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ มาอยู่ที่ระดับ 504,000 ยูนิต ทางด้าน SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิม 773.45 ตัน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เองค่อยๆปรับตัวแข็งค่าขึ้นอีกครั้งหนึ่ง มาอยู่ที่ระดับ 1.2779 ดอลลาร์/ยูโร สำหรับคืนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศออกมาดูจะดีขึ้นบ้างเล็กน้อย ขณะที่ตัวเลข Jobless Claims คาดว่าจะออกมาแย่ลงเล็กน้อย
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
โดยภาพรวมปัจจัยทางเทคนิคยังเป็นแนวโน้มขาลง โดยที่ราคามีการแกว่งตัวเมื่อวานนี้จากข่าวความไม่สงบในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดียังคงมีแรงเทขายต่อเนื่องเมื่อค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,200 – 1,220 เหรียญ ในลักษณะค่อยๆปรับตัวลดลง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังคงแนะนำนักลงทุนเล่นเก็งกำไรในทิศทางขาลง และขอย้ำให้นักลงทุนปิดสถานะ Long Position
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ยังคงแนะนำให้ปิดสถานะ Long ออกไป
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังคงแนะนำให้ทำกำไรระยะสั้นเป็นช่วงๆ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ยังคงแนะนำให้ทำกำไรเป็นช่วงๆ และรอจังหวะเพื่อเปิดสถานะ Short Position เพิ่มมากขึ้น เมื่อราคาดีดตัวขึ้นมาบริเวณแนวต้าน
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,800 บาท
Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,660 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,860 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “เทคนิคการทำกำไรในทองคำแท่งและGold Futures” บรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ในวันที่ 29 กันยายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. สำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777
2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791”
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.