ทริสเรทติ้งคาดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 แต่ปัญหาหนี้ครัวเรือนยังเป็นประเด็นกังวล

ข่าวอสังหา Friday October 3, 2014 10:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งคาดว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 จากการที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นเมื่อความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเมืองลดลง อย่างไรก็ดี ภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงยังคงเป็นปัจจัยลบต่อธุรกิจ โดยทริสเรทติ้งคาดว่ายอดขายอสังหาริมทรัพย์โดยรวมทั้งปีน่าจะปรับตัวลดลงประมาณ 20% จากปีก่อนหน้าที่มียอดขายค่อนข้างสูง โดยยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ลดลงอย่างมากจากผลของยอดขายคอนโดมิเนียมที่ลดลงถึง 47% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งนี้ เนื่องจากความต้องการคอนโดมิเนียมในตลาดมาจากผู้ซื้อที่ต้องการที่อยู่อาศัย หรือเพื่อลงทุน และเพื่อเก็งกำไร ซึ่งผู้ซื้อ 2 กลุ่มหลังค่อนข้างมีความอ่อนไหวตามสภาวะตลาด ส่งผลให้ผู้ประกอบการชะลอการเปิดโครงการเพื่อรอดูสถานการณ์ โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 จำนวนหน่วยคอนโดมิเนียมที่เปิดใหม่ลดลงกว่า 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ยอดขายที่อยู่อาศัยแนวราบซึ่งเป็นความต้องการที่แท้จริงปรับเพิ่มขึ้น 5% สำหรับผลประกอบการของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้งจำนวน 16 บริษัทนั้น ส่วนใหญ่ยังคงมียอดรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 อยู่ที่ประมาณ 40%-50% ของรายได้ในปี 2556 ยกเว้น บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ยอดรับรู้รายได้อยู่ที่ 34% และ 36% ของรายได้ในปี 2556 ตามลำดับ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มียอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่รอรับรู้รายได้อยู่ในมือค่อนข้างสูง โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 บริษัททั้ง 16 แห่งมียอดขายที่รอรับรู้รายได้รวมประมาณ 240,000 ล้านบาท หรือประมาณ 1.23 เท่าของรายได้ในปี 2556 ยอดขายดังกล่าวจะรับรู้เป็นรายได้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยที่อัตรากำไรยังคงใกล้เคียงกับปีก่อน ยกเว้น บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ที่มีอัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลงค่อนข้างมาก ในส่วนของภาระหนี้เฉลี่ยโดยรวมนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงมีภาระในการลงทุนก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่เปิดขายเมื่อ 1-2 ปีก่อน ทำให้อัตราส่วนหนี้สินโดยเฉลี่ยของทั้ง 16 บริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากประมาณ 1 เท่าเป็น 1.12 เท่า อันดับเครดิตของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ยังคงเดิม มีเพียง 2 ราย คือ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตจากผลของการมีรายได้และอัตรากำไรที่ดีขึ้นในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม ปัจจัยท้าทายสำหรับผู้ประกอบการใน 1-2 ปีข้างหน้ายังคงเป็นประเด็นเดิม ๆ คือ ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงซึ่งส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้น รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากการที่ประเทศสหรัฐอเมริกายุติโครงการซื้อคืนพันธบัตร อย่างไรก็ดี ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ยังมีปัจจัยบวกสนับสนุนด้วยเช่นกัน อาทิ สถานการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้น และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่คาดว่าจะช่วยส่งเสริมความต้องการอสังหาริมทรัพย์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ