สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 6, 2014 10:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,213 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,194 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.61 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,600 บาท กับ 18,700 บาท และกลับมาปิดที่ 18,550 บาท กับ 18,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,132 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,001 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 9.37% แบบ10 บาท เพิ่มขึ้น 14.16% GFV14 ปิด 18,600 บาท และ GFZ14 ปิด 18,680บาท GF10V14 ปิดที่ 18,590 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,670 บาท สัญญา Comex ลดลง 22.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,192.9 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.27 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 89.74 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 767.47 ตัน (เท่าเดิม) ข่าวที่สำคัญ -ทองคำได้รับแรงกดดันจากข้อมูลภาคแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ รวมไปถึงการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ส่งผลให้ในคืนวันศุกร์ราคาทอคำปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีและต่ำกว่าระดับ1,190 เหรียญ/ออนซ์ -นาย เอมอน เชอริดัน นักวิเคราะห์จากฟอเร็กซ์ไลฟ์ กล่าวว่า ในเชิงเทคนิคและภาพรวมปัจจัยพื้นฐานจะแสดงให้เห็นว่าทองคำกำลังลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง และราคาได้หลุดจุดต่ำสุดในเดือนธันวาคมปี 2013 บริเวณ 1,187 เหรียญ/ออนซ์ และอาจกำลังไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมในเดือนมิถุนายนที่ระดับ 1,179.4 เหรียญ/ออนซ์ได้ -อย่างไรก็ดี แรงกดดันที่สำคัญของทองคำคือ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งสหรัฐฯ จึงทำให้ทองคำถูกลดความน่าดึงดูดใจในการลงทุนและเข้าสู่ภาวะขาลงอย่างรุนแรง -ขณะที่นักวิเคราะห์จาก INTL ระบุว่า ในเดือนตุลาคมนี้ทองคำมีโอกาสลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,150 เหรียญ -นักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์ ระบุว่า ปริมาณความต้องการทองคำของจีนและอินเดียจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของราคาทองคำได้ แต่ ณ ขณะนี้ยังคงพบว่ามีการซื้อขายอย่างจำกัดเมื่อเทียบกับปีก่อน จึงมีแรงสนับสนุนไม่เพียงพอจะช่วยผลักดันราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น -ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 1.2511 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2674 ยูโร/ดอลลาร์ หลังจากรายงานตัวเลขคนว่างงานปรับตัวลดลง และตลาดแรงงานมีการจ้างงานสูงขึ้นเกินคาด รวมไปถึงยอดขาดดุลการค้าสหรัฐฯที่ออกมาดีขึ้น ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะกลับมาพิจารณาเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด -กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่าตัวเลขการจ้างงานนอกการเกษตรปรับตัวสูงขึ้น 68,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 248,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีที่ระดับ 5.9% -ทางด้านยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯประจำเดือนสิงหาคม ปรับตัวลดลง 0.5% สู่ระดับ -4.01หมื่นล้านดอลลาร์ฯ จากระดับ -4.03 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนเนื่องจากการส่งออกขยายตัวมากกว่าการนำเข้า -นาย วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กำลังใช้ความคิดตัดสินใจเกี่ยวกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่กำลังเจอวิกฤตการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกที่บีบคั้น ซึ่งผู้นำรัสเซียกำลังให้ความสำคัญไปที่นโยบายของนานาชาติและการแข่งขันทางเศรษฐกิจโดยใช้วิธีการโน้มน้าวจูงใจ -กองทัพยูเครนเตรียมปืนใหญ่และเตรียมกำหนดพื้นที่เข้าปะทะทางตะวันออกของยูเครน หลังจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยังคงพยายามโจมตีเพื่อยึดครองบริเวณสนามบินโดเนสก์อย่างต่อเนื่อง -ในคืนวันศุกร์กลุ่มกองกำลัง ISIL ได้เผยแพร่คลิปฆ่าตัดศีรษะชาวอังกฤษ เพื่อตอบโต้รัฐสภาอังกฤษที่อนุมัติเข้าร่วมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มพวกนักรบญิฮัดกลุ่มนี้ในอิรัก พร้อมขู่จะตัดคอตัวประกันชาวสหรัฐฯเพิ่มอีกราย หากสหรัฐฯยังไม่หยุดโจมตีทางอากาศเพื่อกำจัดกลุ่ม ISIL -ขณะเดียวกันหลังจากรัฐสภาตุรกีลงมติเห็นชอบให้อำนาจรัฐบาลใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มรัฐอิสลามในซีเรียและอิรัก รัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรียออกมาเตือนตุรกีว่าการแทรกแซงทางทหารใดๆในซีเรียจะถือว่าเป็นพฤติกรรมรุกราน พร้อมเรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติขัดขวางความเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าวของตุรกี -หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและตำรวจในฮ่องกง ส่งผลให้กลุ่มผู้ประท้วงชาวฮ่องกงเรือนแสนออกมารวมตัวกันเพิ่มขึ้นบริเวณทำเนียบรัฐบาลฮ่องกง หลังจากนายเหลียง ชุน-หยิง ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ขอให้ผู้ชุมนุมเปิดทางเข้าออกทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ -ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด +1.24% ในคืนวันศุกร์ และทำสถิติปรับตัวขึ้นสูงสุดในการซื้อขายระหว่างวันในรอบ 7 เดือนที่ระดับ 17,009.69 จุด หลังจากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯออกมาสดใส -เช้านี้ตลาดหุ้นนิเกอิ เปิด +1.11% เพราะได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในคืนวันศุกร์ -นักบริหารเงิน ประเมินว่า สัปดาห์นี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.65 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องติดตามทิศทางค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งในต้นสัปดาห์จะยังอยู่ในช่วงรับข่าวของข้อมูลภาคแรงงาน ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน -Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 142K ตัวเลขจริงเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 248K - Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -40.5 B ตัวเลขจริงเพิ่มขึ้นสู่ระดับ -40.1 B - Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 6.1% ตัวเลขจริงลดลงสู่ระะดับ 5.9% - ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 59.6 ตัวเลขจริงลดลงสู่ระดับ 58.6 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ -ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำหลุดระดับ 1,200 เหรียญ และทำ New Low ใหม่ในรอบ 9 เดือน ทำให้ยังคงมีแรงเทขายต่อเนื่องและไปทำจุดต่ำสุดเมื่อคืนวันศุกร์ประมาณ 1,190 เหรียญ และปิดตลาด COMEXที่ระดับ 1,192.9 เหรียญ/ออนซ์ อย่างไรก็ดีในเช้าวันนี้เปิดตลาด Sydney ราคาทองคำยังคงทำจุดต่ำสุดใหม่อีกบริเวณ 1,183 เหรียญ/ออนซ์ และมีการ Rebound บ้างเล็กน้อยในช่วงสายๆ ภาพรวมปัจจัยหลักคือการที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯดีขึ้นอย่างมากมาอยู่ที่ระดับ 248,000 ตำแหน่ง จากเดิม 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่ Unemployment Rate ดีขึ้นสู่ระดับ 5.9% รวมไปถึง Trade Balance ปรับตัวลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 4.01 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จึงผลักดันให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดย Dollar Index ทำจุดสูงสุดสุดใหม่ในรอบ 10 เดือนที่ระดับ 86.69 และได้ส่งผลกดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าบริเวณ 32.65 บาท/ดอลลาร์ ภาพรวมของราคาทองคำจึงยังคงถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งแม้ว่าจะมีความไม่สงบในยูเครนและอิสราเอลก็ตาม โดยที่ SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 767.47 ตัน วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาลงตามที่ได้วิเคราะห์มาโดยตลอด ซึ่งแนวรับที่สำคัญทางจิตวิทยา ณ ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 1,180 เหรียญซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมในช่วงเดือนมิถุนายนปี 2013 หากราคาทองคำหลุดระดับ 1,180 เหรียญ อาจลงไปทดสอบ 1,150 เหรียญได้เช่นเดียวกัน ขณะที่ Oscillators ในเชิงเทคนิคต่างๆยังเป็นลักษณะทิศทางขาลง ซึ่งคาดว่าจะมีการ Rebound บ้างเล็กน้อย และการ Rebound น่าจะเป็นจุดที่นักลงทุนที่ถือ Long ควรปิดสถานะ ในเชิงเทคนิคจึงยังคงแนะนำให้ลงทุนตามแนวโน้มขาลง กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ คาดว่าวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1,180-1,200 เหรียญ โดยที่ยังคงแนะนำให้ทำกำไรในระยะสั้น - นักลงทุนที่ถือ Long Position หาจังหวะปิดสถานะเมื่อราคามีการ Rebound ขึ้นมา - นักลงทุนที่ถือ Short Position ทำกำไรในระยะสั้น หาจังหวะเปิดสถานะ Short บริเวณแนวต้าน กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading ทำกำไรระยะสั้นเป็นช่วงๆ โดยถือสถานะ Short Position ในระยะยาวเนื่องจากภาพหลักยังคงเป็นทิศทางขาลง Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,480 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,680 บาท Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,560 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,760 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 1) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 16 ตุลาคม 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 และวันที่ 30 ตุลาคม 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา) 2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ